2. นอนกอดแบบหันหน้าเข้าหากัน (The Honeymoon Hug)
เป็นท่านอนสำหรับคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่แม้จะดูนอนไม่สบายเท่าไรแต่ก็เต็มไปด้วยความเสน่หา ความใกล้ชิดแบบไม่อยากห่างกันไปไหน
3. ฝ่ายหญิงหนุนแขนฝ่ายชายแล้วนอนกอดกัน (Shingles)
เป็นท่านอนที่แสดงถึงความเชื่อใจและความรู้สึกอบอุ่นเมื่อได้อยู่ด้วยกัน โดยดูจากแขนของฝ่ายชายที่คอยประคับประคองคนรักแม้ในยามหลับใหล หรืออีกความหมายหนึ่ง ก็คือ ความรับผิดชอบและการปกป้องคนรักซึ่งแม้ฝ่ายชายอาจต้องแขนชาก็เถอะ แต่พวกเขาก็ยินดีที่จะเสียสละเพื่อให้หญิงผู้เป็นที่รักได้หลับอย่างสบายในอ้อมกอดของเขา
4. ฝ่ายหญิงหนุนแขนฝ่ายชาย (The Sweetheart Cradle)
เป็นท่านอนคล้ายกับท่าด้านบนแต่ท่านี้ฝ่ายหญิงจะนอนสบายกว่าเล็กน้อย ซึ่งท่านอนดังกล่าวตีความหมายได้ว่า แฟนหนุ่มของคุณพร้อมที่จะดูแลปกป้องและทะนุถนอมคุณอย่างดี
5. นอนตะแคงโดยที่ฝ่ายชายกอดฝ่ายหญิงแบบหลวม ๆ (Loose Tether)
เป็นท่านอนสบาย ๆ สำหรับทั้งคู่ที่ไม่ต้องนอนเบียดเสียดกัน ซึ่งท่านอนลักษณะนี้บ่งบอกได้หลายความหมาย ซึ่งเป็นได้ทั้งการที่คุณทั้งคู่หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจยังไม่คุ้นชินกับการมีใครมานอนบนเตียงเดียวกัน หรือหากมองในแง่บวกก็อาจหมายถึงแม้จะไม่ต้องใกล้ชิดกันแต่คุณทั้งคู่ก็เข้าใจกันเป็นอย่างดี และก็อาจแปลได้ว่า มีความห่างเหินหรือการที่ต่างฝ่ายต่างอยู่ด้วยความอดทน คู่ไหนที่ชอบนอนท่านี้ก็ลองสำรวจว่าความรักของคุณเป็นแบบไหน
6. ฝ่ายชายนอนหงายและฝ่ายหญิงนอนคว่ำ โดยเอาขาก่ายไปที่ขาฝ่ายชาย (The Leg Hug)
คู่รักที่นอนลักษณะนี้อาจแปลได้ว่า ความรักของคุณทั้งคู่กำลังอยู่ในช่วงขาลง เกิดความเบื่อหน่าย แต่ก็ยังไม่ถึงจุดแตกหัก หรือในอีกความหมายหนึ่งคือ คุณอาจจะอยู่ด้วยกันมานานและไม่ค่อยคึกคักเรื่องบนเตียงเหมือนเดิม
ตรงกับคู่ของคุณบ้างหรือเปล่าคะ อันที่จริงแล้วท่าทางการนอนของแต่ละคู่อาจแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกสบายมากกว่า และท่านอนเหล่านี้อาจไม่ได้การันตีความสัมพันธ์ได้เสมอไป เอาเป็นว่าท่านอนไหน ๆ ก็ไม่สำคัญเท่ากับความรักที่คุณมีให้กันนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
lifegooroo.com และ viralsprint.com