x close

10 วิธีวางแผนแต่งงานฉบับรวบรัดในเวลาสั้น ๆ


มาดู ! วิธีวางแผนแต่งงานฉบับรวบรัด

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก wedding.amerikanki.com

            พอพูดถึงเรื่องวางแผนจัดงานแต่งงาน ก็จะทำให้หลายคนรู้สึกกลัว เพราะคิดว่ามีภาระให้จัดการมากมาย ทั้งที่จริงแล้วบางอย่างก็เป็นเพียงรายละเอียดยิบย่อยเท่านั้น และไม่จำเป็นต้องกังวลไป โดยให้เริ่มจัดการเรื่องใหญ่ ๆ ก่อน ตาม 10 วิธีที่ เว็บไซต์ wedding.amerikanki.com แนะนำมา แล้วการวางแผนงานแต่งงานก็กลายเป็นเรื่องง่ายไปทันทีเลย

           1. กำหนดงบประมาณ

            ก่อนที่คุณจะซื้ออะไรสักอย่างเพื่อนำมาใช้ในงานแต่งงาน สิ่งแรกที่คุณควรตัดสินใจให้ได้ก่อน ก็คือ จะวางงบประมาณสำหรับงานแต่งในครั้งนี้มาก-น้อยเท่าไร หรือถึงแม้พ่อแม่ของคุณเตรียมเงินส่วนนี้ไว้ให้แล้ว ก็จำเป็นต้องเช็กจำนวนให้แน่นอนก่อนเช่นกัน นอกจากนี้ควรตัดสินใจด้วยว่าจะนำเงินก้อนนี้มาจากเงินส่วนใดบ้าง และคงไม่ดีแน่ ๆ หากคิดว่าจะใช้เครดิตการ์ดรูดไปก่อน เพราะอาจจะทำให้ตกใจกับบิลที่เรียกเก็บมาในภายหลัง

           2. เตรียมรายชื่อแขก

            ก่อนที่คุณจะเลือกสถานที่ เช่าสิ่งอำนวยความสะดวก หรือโทรศัพท์หาร้านจัดดอกไม้ คุณควรจะลิสต์รายชื่อแขกที่มาร่วมงานแต่งงานเอาไว้ในมือก่อน เพราะส่วนประกอบอื่น ๆ ในงานแต่งต่างก็ขึ้นอยู่กับจำนวนแขกด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นจึงควรกำหนดรายชื่อแขกให้ได้ก่อน แล้วค่อยเอาจำนวนแขกที่ได้ไปพิจารณาในเรื่องอื่น ๆ ต่อไป



           3. เลือกสถานที่

            สถานที่แต่งงานดี ๆ ส่วนใหญ่มักจะถูกจองล่วงหน้าไว้หลายเดือนก่อนจะถึงวันแต่งงานจริงอยู่แล้ว ดังนั้นหลังจากที่ได้ฤกษ์งานแต่งงานมาแล้ว ควรรีบลิสต์รายชื่อแขก หาสถานที่ที่เหมาะสมกับจำนวนคนและตรงกับความชอบส่วนตัว และทำการจองโดยทันที หรือสำหรับคนที่ไม่ถือเรื่องฤกษ์แต่งงานมากนัก ก็อาจจะจองสถานที่จัดงานแต่งงานในวันธรรมดาก็ได้ เพราะมีโอกาสที่จะได้สถานที่ที่ถูกใจมากขึ้น

            4. หาของอำนวยความสะดวกให้กับแขก

            เมื่อคุณแน่ใจแล้วว่าจะมีใครมางานแต่งของคุณบ้าง สิ่งที่ต้องทำต่อไป ก็คือ จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับพวกเขา เช่น วิธีการเดินทาง หรือที่พักในโรงแรม เพราะส่วนมากแล้วหากจองห้องพักพร้อมกับแพ็กเกจแต่งงานก็จะได้เรทราคาห้องพักต่ำกว่าราคาปกติอยู่แล้ว โดยเฉพาะหากจองเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ส่วนที่เหลือก็แค่เตรียมใจไว้จ่ายถ้าคุณมีรายชื่อแขกเยอะ ๆ เท่านั้นเอง
 
           5. จัดแจงองค์ประกอบต่าง ๆ ในงานแต่ง

            ทั้งนี้รายจ่ายจะน้อยกว่ามากหากจัดงานแต่งทั้งตอนเช้าและตอนเย็นในสถานที่เดียวกัน เพราะไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบ เช่น ของตกแต่ง หรืออะไรมาก อีกทั้งไม่ว่าจะเลือกจัดในสถานที่ใดควรจะอ่านข้อตกลงให้เข้าใจก่อน มีข้อห้ามอะไรบ้างที่ไม่ควรทำ เช่น ห้ามเปิดเสียงดนตรีดังเกินไป, ห้ามสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้เครื่องดับไฟทำงาน หรืออื่น ๆ
 
          6. แจกการ์ดเชิญ

            เมื่อเลือกสถานที่ได้แล้วก็ถึงเวลาของการแจกการ์ดเชิญให้กับแขกทุกคน และหากเป็นไปได้ควรรีบแจกการ์ดเชิญตั้งแต่เนิ่น ๆ และเพื่อทำให้ขั้นตอนนี้สำเร็จเร็วขึ้นไม่ควรจะใช้วิธีพริ้นท์รายละเอียดใส่การ์ดเชิญทีละใบ หรือใช้วิธีจ้างคนทำการ์ดแต่งงานให้ เพราะอาจทำให้ต้องใช้เวลามากขึ้น คงจะดีกว่าหากจัดการออกแบบการ์ดขึ้นมาเพียงใบเดียว แล้วใช้วิธีก็อปปี้แจกเอา

           7. ตามหาชุดเจ้าสาว

            เรื่องการเลือกชุดแต่งงานถือเป็นงานที่สนุกที่สุดของการเป็นเจ้าสาว ถ้าคุณไม่ทำให้ตัวเองเครียดไปเสียก่อน แต่อย่างไรก็ตามควรตัดสินใจให้ได้ภายใน 1 เดือน หรือไม่ควรใช้เวลากับเรื่องนี้มากเกินไป และนอกจากตามหาชุดให้ตัวเองก็อย่าลืมหาชุดให้เจ้าบ่าว กับชุดของเพื่อน ๆ ทั้งทางฝั่งเจ้าสาวและเจ้าบ่าวด้วย หากจะให้ดีควรจะใช้เวลาตัดสินใจหรือวางแผนดีไซน์ชุดไม่เกิน 3 วัน

           8. นัดแนะช่างภาพ

            ตามปกติวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการตามหาช่างภาพที่ดีสุด ก็คือ ถามจากเพื่อน ๆ ที่เคยแต่งงานแล้ว หรือพอจะรู้จักกับคนในที่อยู่ในวงการช่างภาพบ้าง เพราะคำแนะนำจากพวกเขาก็เหมือนช่วยคัดกรองช่างภาพที่ดีมาแล้วระดับหนึ่ง เพราะถ้าหากช่างภาพที่รู้จักไม่ดี พวกเขาก็คงไม่กล้าแนะนำให้คุณไปติดต่ออย่างแน่นอนแต่ถ้าได้มาหลายรายชื่อก็ลองเช็กผลงานดูก่อน แล้วค่อยเลือกคนที่ตรงใจที่สุดออกมา
 
           9. เตรียมของเอนเตอร์เทนแขก

            ยิ่งคุณรีบหาวงดนตรีที่จะติดต่อให้มาเล่นดนตรีในงานแต่งมากขึ้นเท่าไร ก็จะได้วงดนตรีที่ตรงใจมากขึ้นเท่านั้น เพราะจะมีเวลาในการคัดกรองหรือเปลี่ยนวงดนตรีหากรู้สึกว่า ยังไม่ได้ตามความต้องการ ทั้งนี้หากกลัวว่า วงดนตรีที่ยังว่างและสามารถมาเล่นในงานแต่งงานได้ ก็อาจลองพิจารณาดีเจเปิดเพลงอีกทางแต่ทั้งนี้การจ้างดีเจอาจทำให้มีรายจ่ายเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

           10. เลือกสถานที่ฮันนีมูน

            สิ่งสุดท้ายที่ควรทำ ก็คือ เข้าอินเทอร์เนตไปหาข้อมูลและจองที่พักสำหรับไปฮันนีมูน ซึ่งตอนนี้ก็มีแพ็กเกจฮันนีมูนให้เลือกมากมายเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามก่อนจะวางแผนไปฮันนีมูนที่นั่นที่นี่ ก็ควรจัดแผนให้อยู่ในงบประมาณที่กำหนดเอาไว้ด้วย หรือจัดทริปเล็ก ๆ ที่คุณทั้ง 2 ชอบเหมือนกันก็พอ แล้วค่อยเก็บเงินไปเที่ยวที่ไกล ๆ ด้วยกันอีกครั้ง

            เพราะงานแต่งงานไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้คุณต้องเครียด อีกทั้งถึงแม้จะมีหลายเรื่องให้จัดการ ก็ค่อย ๆ จัดการไปทีละเรื่องก็ได้ เพราะถึงแม้จะมีเวลาจำกัด แต่ก็มีอีกหลากหลายวิธีที่จะช่วยย่นเวลาในแต่ละขั้นตอนให้สั้นกระชับและเสร็จแล้วขึ้น แล้วก็หวังว่า วิธีเหล่านี้จะช่วยให้งานแต่งงานสำเร็จได้ด้วยดีตามกำหนดนะคะ



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
10 วิธีวางแผนแต่งงานฉบับรวบรัดในเวลาสั้น ๆ อัปเดตล่าสุด 16 มกราคม 2558 เวลา 14:33:21 1,257 อ่าน
TOP