x close

พรีเวดดิ้งของผมกับเขา จะหวานแค่ไหนลองไปชมกัน

พรีเวดดิ้ง

          เดี๋ยวนี้ดูเหมือนว่าภาพถ่าย "พรีเวดดิ้ง" จะเป็นส่วนสำคัญในงานแต่งงานไปซะแล้ว เพราะเป็นเสมือนบันทึกความทรงจำ ณ ช่วงเวลาที่แสนพิเศษในการเริ่มต้นของชีวิตคู่ที่งดงาม ซึ่งวันนี้เราก็ได้หยิบเอาอีกหนึ่งภาพพรีเวดดิ้งแสนโรแมนติกมาให้ชมกันค่ะ จากการแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ของ คุณหลงคุง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม กับ "รีวิวพลีชีพ เอ๊ย ! พรีเวดดิ้งของผมกับเขา" จะหวานขนาดไหนนั้น...ไปชมกันเลยค่ะ



          Pre-Wedding ซึ่งเอาจริง ๆ คงไม่ได้แต่งนะครับ 555 ใช้คำนี้เพราะน่าจะเป็นคำนิยามการถ่ายภาพสไตล์นี้ได้เห็นภาพดี เป็นธรรมเนียมไปแล้วว่าที่คู่แต่งงานจะต้องถ่ายภาพพรีเวดดิ้งไว้ใช้ประดับในงานแต่งเป็นสำคัญ และได้ชุดภาพประทับใจเป็นที่ระลึก แต่คงไม่ใช่คู่รักทุกคู่ที่จะได้มีโอกาสได้จัดงานแต่งงาน "ยังไม่พร้อม"..."ไม่อยากแต่ง"..."แต่งทำไมเปลือง"..."อยู่กันจนลูกโตแล้วไม่แต่งแล้ว" ฯลฯ เหตุผลปัจจัยร้อยแปด เรื่องเพศก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ถึงตอนนี้ในบ้านเราจะเปิดกว้างมากขึ้นแต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คู่เกย์หรือคู่เลสเบี้ยนจะจัดงานแต่งงานกัน

          เกิดคำถามในใจว่าคู่รักจะถ่ายพรีเวดดิ้งกันได้ไหม แม้จะไม่รู้ว่าจะได้แต่งหรือไม่ เมื่อไหร่ คำตอบในใจผมคือน่าจะได้นะ (ถามเองตอบเอง ^__^)

          เพราะผมก็เป็นอีกหนึ่งคนที่อยากจูงมือคนรักไปถ่ายภาพ (สไตล์) พรีเวดดิ้ง ในวันที่หน้าผมยังไม่ดูแก่ก่อนวัย หัวเขายังไม่เถิกเกินไป บ้านยังไม่โทรม หมายังน่ารัก ให้ช่างภาพคนโปรดกดชัตเตอร์พวกเราในช่วงเวลาที่ยังมีความสุข ในธีมที่เราชอบ ในสถานที่มีความหมายสำหรับเรา วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่วันนี้ในภาพใบนี้จะเป็นแบบเดิมเสมอ

          ภารกิจฟิชโช่เริ่มขึ้นที่บ้านตอนบ่าย ๆ ของวันที่ 4 มกราคม (ธงกระดาษสีที่พริ้นท์ตัดมาประดับบ้านช่วงปีใหม่ยังอยู่) คนพร้อม หมาพร้อม ช่างภาพพร้อม ช่วงนั้นน้องช่างภาพมีงานที่เชียงใหม่พอดี (ลืมบอก ผมอยู่เชียงใหม่ครับ) มีการนัดแนะเรื่องชุดเรื่องสถานที่กันไว้หลวม ๆ ประมาณหนึ่งว่าจะมีสามเซต (สามที่-สามชุด) ครึ่งวันบ่าย ๆ ถึงเย็น

          เซตแรกถ่ายที่บ้านที่อยู่กันนี้แหละครับ ง่ายดี มีความหมาย เสื้อผ้าก็เป็นแบบที่ใส่ปกติ แต่อยากให้มีจุดร่วมกันนิดหนึ่งเลยใส่เสื้อยืดลายเดียวกัน แต่ก็ไม่ค่อยเห็นลายเลยใช่ไหมครับ 555 หน้าไม่ได้แต่งอะไรครับ สดที่สุดแล้ว มีทรงผมที่หวีเรียบร้อยหน่อยให้เข้ากันชุดแนววินเทจที่จะถ่ายเป็นเซตสุดท้าย เพราะคงไม่มีเวลาเปลี่ยนทรงผมครับ จัดไปทรงเดียวตลอดการถ่ายทำ รูปที่ออกมาก็อย่างที่เห็นข้างล่างครับ อธิบายเรื่องอื่นเก่งแต่เรื่องตัวเองไม่ค่อยครับ...เขิน

          ปกติเป็นคนแข็ง ๆ ไม่ค่อยยิ้มอยู่แล้ว และไม่ได้สวีทขนาดนั้น ถ่ายรูปคู่นี่น้อยมาก เลยมีเกร็งบ้างครับทั้งคู่ แต่ช่างภาพหลอกให้ยิ้มได้กว้างขนาดนั้น ยอมรับเลย


พรีเวดดิ้ง

พรีเวดดิ้ง


          ชุดที่สองดูปุ๊บรู้ปั๊บ เดาไม่ยากว่าเป็นธีม Brokeback Mountain แต่ Brokeback เวอร์ชั่นนี้พระเอกคนหนึ่งหน้าโหดไปเลยต้องคาบไปป์ สถานที่คือในซอยเดียวกับบ้านเลยครับ ไม่ใช่ป่าที่ไหน ที่ตรงนี้เมื่อก่อนเป็นโรงปั้นและเตาเผากระถางต้นไม้ เพิ่งรื้อกันออกไปแล้วตัดไม้มากอง ๆ ไว้ ด้านหลังเป็นที่ดินเปล่ารกร้าง มีต้นไม้เถาวัลย์เขียวครึ้ม ดูเข้าท่าดี แถมใกล้บ้านมากกกกกก วันก่อนถ่ายเลยเซตฉากแคมป์ปิ้ง (ไก่) ง่าย ๆ ไว้รอเพื่อความรวดเร็ว เสร็จที่บ้านก็เปลี่ยนเสื้อผ้ากระโดดมาตรงนี้ได้เลย

          เวลาที่ถ่ายตรงนี้ประมาณสี่โมง นั่งนิ่ง ๆ ไม่ได้มูฟอะไรมาก เพราะจะรีบไปเซตสุดท้ายที่ศูนย์วิจัยฯ การเกษตรแม่เหียะ ก่อนแสงหมด กะว่าไว้ค่อยมาถ่ายเก็บวันหลังเพราะใกล้บ้านมาก แต่ปรากฏว่าอีกวันหนึ่งเขาก็เก็บไม้กองนี้ออกไปซะเกลี้ยง แต่ภาพที่ได้ออกมาก็ชอบมาก ๆ แล้วครับ ถือว่าโชคดีที่ได้ถ่ายกับกองไม้นั้นพอดี

          เสร็จจากกองฟืนหน้าบ้าน เราไปต่อกันที่สถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งยอดนิยมของเชียงใหม่ ศูนย์วิจัย สาธิตและฝึกอบรมการเกษตรแม่เหียะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือที่คนเชียงใหม่เรียกกันติดปากว่า "ไร่แม่เหียะ" มีมุมไร่นา แปลงดอกไม้สวย ๆ ให้ถ่ายเยอะครับ ไม่มีค่าใช้จ่ายแค่ต้องสำรวมนิดหนึ่ง เพราะถือเป็นเขตสถานศึกษา ล่าสุดมีช่างภาพพานางแบบชุดว่ายน้ำไปถ่ายในไร่ดอกปอเทือง เจ้าหน้าที่เลยล้อมรั้ว เลยอดถ่ายกันไปหมด

          พวกเราถ่ายกันอยู่แถวริมอ่างเก็บน้ำครับ เพราะชอบที่สุดแล้ว ชอบริมน้ำแถมมีดอยสุเทพเป็นฉากหลัง หน้าหนาวค่ำเร็ว ก่อนที่แสงจะหมดก็ได้รูปโทนโพล้เพล้โรแมนติกสมใจ เข้ากันกับเสื้อผ้าแนววินเทจที่รื้อตู้มาพอดี เราสองคนชอบการแต่งกายแนวนี้อยู่แล้ว ดูหนังฝรั่งหนังฮ่องกงย้อนยุคแล้วอยากอยู่ในยุคนั้นแบบจริงจัง แต่คงไม่มีโอกาสได้แต่งตัวแบบนี้บ่อย ๆ ในชีวิตจริง เลยเอามาใส่ถ่ายรูปกันอย่างที่เห็นนี่แหละครับ แหะ ๆๆๆ

พรีเวดดิ้ง

          รีวิวจบแล้วครับ ง่าย ๆ ประมาณนี้เอง จุดประสงค์ของการตั้งกระทู้นี้ไม่ได้อยากอวดหรืออะไร คิดอยู่นานเหมือนกัน เพราะคิดว่าน่าจะมีกระแสในทางลบด้วย แต่ก็ยังอยากเสนอมุมมองที่กล่าวไปเบื้องต้น คือ "ไม่เวดดิ้งก็พรีเวดดิ้งได้” อะไรที่มีความสุขและไม่มีใครเดือดร้อน ทำไปเถอะครับ อีกอย่างคืออยากขอบคุณช่างภาพน้องปาล์ม Monday และทีมงานเฉพาะกิจทุกคน สำหรับภาพสวย ๆ เกินคาดและบรรยากาศการถ่ายทำที่สนุกสนาน ภาพทุกใบนอกจากรูปมองเห็นด้วยตา ยังมีเรื่องราวเบื้องหลังที่อยู่ในใจมากมาย ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ

          ถ้ายังไม่เบื่อหน้าดูรูปอัลบั้มเต็มได้ที่แฟนเพจ Monday Photography ครับ

          เปิดวาร์ป



พรีเวดดิ้ง

          ส่วนเรื่องที่ถามถึงชีวิตรักก็ไม่รู้จะเล่ายังไง เป็น 12 ปี ที่เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ รักทางไกลประมาณ 5-6 ปี (ญี่ปุ่น-ไทย) เพราะคนหนึ่งไปเรียนต่อ ที่ผ่านมาบอกตรง ๆ ก็มีวอกแวกกันทั้งคู่ แต่ตอนนี้แก่แล้วไม่มองใครแล้ว อยู่ด้วยกันจริง ๆ ถึงตอนนี้ก็เป็นเวลา 5-6 ปีพอ ๆ กัน เหมือนชดเชยเวลาที่จากกันนะครับ จริง ๆ เรื่องความรักเคยให้สัมภาษณ์ในนิตยสาร Attitude ฉบับเดือนธันวาคม (ปกน้องบอม KPN) นะครับ ไปสืบเสาะหาอ่านได้ แต่จะไม่ลงเอง...เขิน

          ชีวิตส่วนตัวปกติธรรมดา ไม่ได้เป็นเน็ตไอดอล ไม่ได้ขายครีม คนหนึ่งทำงานสายพาณิชย์ศิลป์ อีกคนเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ตอนเช้าออกบ้านพร้อมกัน ตอนเย็นกลับบ้านพร้อมกัน แต่ไม่ค่อยได้กินข้าวด้วยกัน เพราะชอบหงุดหงิดเรื่องกินอะไรดี วันหยุดสุดสัปดาห์เลยต้องหากิจกรรมร่วมกัน คือ ตระเวนหาคาเฟ่ดี ๆ ชิล ๆ นั่ง และรีวิวนิดหน่อย แต่บ่อยจนเพื่อนยุให้เปิดเพจเป็นเรื่องเป็นราว ใครที่ตามไปดูประวัติการตั้งกระทู้เก่า ๆ จะเห็นว่าทำเพจ "หลงเชียงใหม่" ตามไปทักทายกันได้ครับ (พี่หนวดโผล่มาเป็นนายแบบบ่อย ๆ)


พรีเวดดิ้ง




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณหลงคุง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก หลงเชียงใหม่



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พรีเวดดิ้งของผมกับเขา จะหวานแค่ไหนลองไปชมกัน อัปเดตล่าสุด 17 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 18:52:59 2,101 อ่าน
TOP