ในพิธีแต่งงาน สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือช่วงเวลาที่ให้คู่บ่าวสาวได้กล่าวคำพูดเพื่อขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน และพูดถึงเรื่องราวความรักของทั้งคู่ รวมไปถึงการกล่าวคำมั่นสัญญาต่อกันและกัน ต่อหน้าผู้ใหญ่ ญาติสนิท มิตรสหายทั้งหลาย ซึ่งหลายคู่รักมักจะมาตกม้าตายกันที่ช่วงเวลานี้ เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ ให้คู่บ่าวสาวได้ใช้เตรียมตัวเพื่อการพูดบนเวทีให้แขกที่มาร่วมงาน และโดยเฉพาะเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวของตัวเองประทับใจไม่มีวันลืม จากเว็บไซต์ lover.ly มาฝากกันค่ะ ซึ่งเป็นวิธีง่ายที่คุณทำได้แน่นอน จะต้องทำอย่างไรบ้างไปชมกันค่ะ
1. ใช้เวลาคิดสักนิดลองใช้เวลาในการคิดไตร่ตรองว่ากว่าที่งานแต่งนี้จะเกิดขึ้นได้คุณต้องผ่านอะไรมาบ้าง มีใครที่คอยช่วยเหลือสนับสนุนจนทำให้มีวันนี้ นั่นก็จะทำให้คุณสามารถพูดขอบคุณทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในความรักครั้งนี้ของคุณได้อย่างดี แล้วลองนึกดูสิว่าระหว่างคุณกับเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวในอนาคตนั้น มารักกันได้อย่างไร เรื่องราวต่าง ๆ สิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาจนถึงวันที่ตัดสินใจแต่งงาน เพราะจะทำให้คุณมีเรื่องราวดี ๆ มากมายที่จะพูดบนเวทีให้แขกและเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวของคุณประทับใจตลอดไป
2. เขียนลงกระดาษเมื่อนึกออกแล้วอย่าคิดว่าตัวเองความจำดี เพราะมันอาจจะทำให้คุณพลาดที่จะพูดถึงเรื่องราวที่สำคัญไปได้ เพราะฉะนั้นเมื่อนึกออกก็จงเขียนมันลงไปในกระดาษ ในตอนแรกอาจจะเขียนสิ่งที่สำคัญลงไปก่อน แล้วค่อยมาเรียบเรียงให้เป็นภาษาของตัวเอง แนะนำว่าให้เขียนบทพูดด้วยตัวเอง เพราะตัวคุณเองเท่านั้นที่จะรู้ว่าความรู้สึกที่คุณอยากกลั่นกรองออกมานั้นมันเป็นอย่างไร แล้วพอถึงเวลาจริงคุณก็จะพูดมันออกมาได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด
3. ตัดเรื่องราวที่ซ้ำกันเมื่อเขียนทุกอย่างลงกระดาษเรียบร้อยแล้ว ลองมานั่งอ่านอีกหลาย ๆ ครั้งว่ามีอะไรตกหล่นหรือพูดถึงมันมากจนเกินไป ซึ่งแขกอาจจะสับสนและงงกับประโยคเหล่านั้นได้ และไม่ควรสอดแทรกเรื่องราวตลกหรือไร้สาระมากจนการพูดของคุณดูไม่สำคัญ เพราะในขณะที่คุณยืนพูดอยู่บนเวทีนั้น นอกจากครอบครัวและเพื่อนของคุณแล้ว ก็ยังมีครอบครัวของอีกฝ่ายฟังการพูดของคุณอยู่ หากคำพูดของคุณไม่มีน้ำหนัก ก็อาจจะทำให้ครอบครัวของอีกฝ่ายเกิดความคลางแคลงใจว่าจะฝากชีวิตลูกของเขาไว้กับคุณได้หรือไม่
4. ไม่ควรยาวมากเกินไปการพูดของคุณควรคัดเฉพาะสิ่งที่สำคัญเท่านั้น เพราะหากพูดยาวมากจนเกินไปก็อาจจะทำให้ผู้ที่มาร่วมงานรู้สึกเบื่อและไม่สนใจที่อยากจะฟังในสิ่งที่คุณพูด เพราะฉะนั้นพูดให้กระชับ จับใจความพอสั้น ๆ แต่ทำให้ทั้งเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวของคุณ และแขกที่มาร่วมงานประทับใจในสิ่งที่คุณได้กล่าว
5. ลองอ่านให้คนรักฟังก่อนคุณคงไม่อยากที่จะหน้าแตกบนเวทีใช่ไหม และมันก็คงไม่ดีเอาเสียมาก ๆ หากสิ่งที่คุณคิดจะพูดบนเวทีนั้น มันไปทำร้ายจิตใจของอีกฝ่าย เช่น การพูดถึงพื้นฐานของครอบครัว หรือเรื่องราวในอดีตของอีกฝ่าย ฯลฯ เพราะฉะนั้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น ก็ลองอ่านบทพูดนี้ให้อีกฝ่ายฟังเสียก่อน เพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิดและอาจจะได้ไอเดียใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมาด้วย
6. ฝึกฝนเมื่อบทพูดเรียบร้อยก็ต้องฝึกฝนกันสักนิด เพราะถ้าคุณไม่ฝึกฝนก็อาจจะรู้สึกตื่นเต้นเมื่ออยู่บนเวที จนทำให้ไม่สามารถพูดมันออกมาได้ หรือพูดออกมาอย่างไม่เป็นธรรมชาติคล้ายกับการท่องจำ กลายเป็นสิ่งที่น่าขบขันของแขกอีกต่างหาก เพราะฉะนั้นฝึกพูดให้หลาย ๆ ครั้ง เพื่อทำให้การพูดบนเวทีของคุณดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
เรารู้ค่ะว่าการพูดบนเวทีแต่งงานนั้นเป็นสิ่งที่ยากมากสำหรับบางท่าน แต่เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์อันดีที่อยากจะขอบคุณแขกด้วยความจริงใจ และบอกสิ่งที่อยู่ในใจของคุณให้เจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวได้ทราบในวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตอีกวันหนึ่งของคุณ ก็ต้องสู้กันสักนิดค่ะ
