สุดซึ้ง คู่รักเลื่อนวันแต่งงาน เพื่อให้แม่ป่วยมะเร็งร่วมงานก่อนตาย

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก jessbarfield.com

         คู่รักเลื่อนจัดพิธีแต่งงานให้เร็วขึ้น เพื่อให้แม่เจ้าสาวที่ป่วยมะเร็งใกล้ตาย ได้เข้าร่วมงานด้วย

         การแต่งงานนั้นเป็นเหมือนความฝันที่ยิ่งใหญ่สำหรับใครหลายคน และในขณะเดียวกันก็ยังเป็นความหวังของพ่อ-แม่ที่จะได้เห็นลูก ๆ เข้าร่วมพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ ที่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่ด้วยเช่นกัน และด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้คู่รักชาวอเมริกันคู่นี้ ตัดสินใจที่เลื่อนจัดพิธีแต่งงานของพวกเขาให้เร็วขึ้น เพื่อให้แม่ของเจ้าสาวผู้ป่วยเป็นโรคร้ายและเหลือเวลาอีกไม่นาน ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในพิธีแต่งงานของพวกเขาด้วย

         โดยเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2557 เว็บไซต์ฮัฟฟิงตันโพสต์ เปิดเผยว่า เดิมที คอนเนอร์ วู้ด และ แคทรีน โคปแลนด์ คู่รักหนุ่ม-สาวมีแผนจะจัดพิธีวิวาห์ของพวกเขาที่เมืองสกอตส์เดล รัฐแอริโซนา สหรัฐฯ ในวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่แล้วแผนการทุกอย่างที่เตรียมไว้ก็ต้องเปลี่ยนไป เมื่อแคทรีนได้ทราบว่า เจเน็ต แม่ของเธอที่ป่วยโรคมะเร็งมานานถึง 11 ปี อาการทรุดหนักจนต้องเข้าแอดมิทที่โรงพยาบาล


         "เมื่อพวกเราได้ทราบว่าสถานการณ์เลวร้ายขนาดไหน เราก็ถามแม่ว่าอยากจะให้พวกเราทำอะไร ซึ่งแม่ก็ตอบพวกเราว่าเธอต้องการเห็นพวกเราแต่งงานกัน เราจึงบอกเธอว่า...นั่นคือสิ่งที่เราจะทำ" แคทรีน กล่าว

         เพื่อทำให้ความปรารถนาของแม่เป็นจริง แคทรีนและคอนเนอร์ คู่หมั้นของเธอ จึงได้ขยับงานแต่งงานเข้ามาเป็นวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยได้เตรียมสถานที่จัดงานแสนหวานในครั้งนี้ขึ้นภายในสวนกุหลาบ ด้านนอกศูนย์โรคมะเร็ง เอ็มดี แอนเดอร์สัน ในเมืองฮุสตัน รัฐเทกซัส อันเป็นสถานที่ที่เจเน็ตรักษาตัวอยู่ และด้วยความช่วยเหลือจากทุก ๆ คน งานฉลองที่มีผู้เข้าร่วมงาน 75 คนจึงถูกจัดขึ้น โดยที่แม่ของเธอก็สามารถเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในสักขีพยานความรักของเธอได้เช่นกัน

         "เราคิดว่าพระเจ้าช่วยเราไม่ให้ต้องมีช่วงเวลาที่หวานอมขมกลืน กลับกันมันถูกแทนที่ด้วยความยิ่งใหญ่ เป็นวันที่ยอดเยี่ยม ซึ่งนั่นคือทุกสิ่งที่เราหวังไว้และดียิ่งกว่าที่เคยวางแผนไว้เสียอีก" แคทรีน กล่าว


         แม้จะเป็นเรื่องน่าเศร้าที่เจเน็ตได้จากโลกนี้ไปในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เพียง 2 สัปดาห์หลังได้เข้าร่วมงานแต่งงานของลูกสาว แต่อย่างน้อยความฝันของเธอที่อยากจะเห็นภาพลูกสาวในชุดเจ้าสาวแสนสวยก็ได้เป็นจริงขึ้นแล้ว ทั้งนี้แคทรีนยังได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า สิ่งหนึ่งที่เธอหวังไว้หลับจากนี้ คือเรื่องของเธอจะเป็นสิ่งที่ช่วยสนับสนุนให้ใครก็ตามที่ทรมานจากโรคมะเร็งหรือปัญหาใด ๆ ได้รู้ว่าครอบครัวคือผู้ที่จะอยู่ร่วมกันเสมอและพวกเขาจะสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาเหล่านั้นไปได้ และอีกสิ่งที่สำคัญคือการเชื่อในพระเจ้า อันเป็นสิ่งที่ทำให้แม่ของเธอผ่านพ้นช่วงเวลาอันทุกข์ทรมานตลอด 11 ปีมาได้