x close

มุมมองจากงานแต่งงาน

แต่งงาน
แต่งงาน


มุมมองจาก "งานแต่งงาน" (Modren Mom)

โดย: รศ.นพ.อัมพล สูอำพัน

          เดี๋ยวนี้งานแต่งงานไม่ใช่แค่การทำตามประเพณีเพียงเท่านั้นแล้ว แต่มีความซับซ้อนมากมาย ไล่เรียงตั้งแต่เสื้อผ้า หน้า ผม บรรยากาศงาน สถานที่ ซึ่งหมายรวมถึงเม็ดเงินที่มากขึ้นเรื่อย ๆ กระแสนิยมเหล่านี้บอกอะไรในชีวิตคู่ที่จะดำเนินต่อไปหลังจากนี้บ้าง เป็นเรื่องที่น่าแลกเปลี่ยนมุมมองกันอย่างยิ่ง

"พิธีแต่งงาน" ไม่ใช่แค่เรื่องของสองเรา

          เมื่อได้ย่างเท้าเข้าหน้าบริเวณงานมงคลสมรสในสถานที่จัดงานอันหรูหรา สวยงาม ของโรงแรมแต่ละแห่งในกรุงเทพมหานคร เราจะพบกับบรรยากาศที่ชื่นมืน ทั้งผู้ที่เป็นแขกมาในงานและเจ้าภาพ ไม่ว่าจะเป็นญาติผู้ใหญ่และเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่อยู่ในชุดสวยพิเศษสุด ต่างมีสีหน้าที่แจ่มใส ยิ้มแย้ม นัยน์ตาบ่งบอกถึงความสุขความดีใจเป็นอย่างยิ่ง แขกทุก ๆ คนมีโอกาสทักทายแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวได้เพียงเสี้ยวเวลาเดียว ไม่กล้าชื่นชมอยู่ได้นานนักเพราะรู้ดีและเกรงใจว่าแขกคนอื่น ๆ กำลังทยอยกันเข้ามาในงาน

          ต่อจากนั้นแต่ละคนต่างก็สาละวนกับอาหาร ที่เจ้าภาพจัดไว้เลี้ยงแขก ถ้าอาหารอร่อยก็จะชื่นชมในรสชาติอันถูกปากนั้น ถ้าไม่อร่อยก็จะบ่นว่าสู้ที่นั้นไม่ได้สู้ที่นี่ไม่ได้ พร้อมกับเสียงพูดคุยกันกระหึ่มก้องงาน ดูเหมือนว่าผู้คนจะลืมคู่บ่าวสาวเสียชั่วคราวโดยสิ้นเชิง

          ในขณะเดียวกัน คู่บ่าวสาวก็จะต้องเดินไปทักทายแขกตามโต๊ะต่าง ๆ กว่าจะทั่วงานก็เริ่มอ่อนแรง เริ่มมีแววของความเหนื่อยหล้าเกิดขึ้น ความจริงทั้งคู่เหนื่อยล้ามาแล้วตั้งแต่พิธิรดน้ำสังข์เมื่อตอนเย็นที่ผ่านมา งานเลี้ยงกลางคืนจึงเป็นการที่จะต้องรวบรวมพลังทางกายและจิตใจอีกครั้ง เสมือนเป็นการขึ้นเวทีในยกที่สอง

          ภวังค์ของแขกเหรื่อที่กำลังพูดคุยและรับประทานอาหารกันอย่างต่อเนื่อง ภวังค์แห่งความเหนื่อยล้าระคนกับความอิ่มเอมใจของคู่บ่าวสาว พลันต้องสะดุดลงด้วยเสียงโฆษกที่ประกาศเชิญคู่บ่าวสาวขึ้นไปบนเวทีเปิดตัว ให้ทุกคนได้พบเห็นความหนุ่มหล่อและสาวงามของทั้งคู่ แล้วก็ตามมาด้วยการฉายภาพแห่งความทรงจำตั้งแต่วัยเด็กของคู่บ่าวสาว และเล่าขานมาเรื่อย ๆ ว่าพบรักกันเมื่อไหร่ อย่างไร คนนั้นมีดีอย่างไร คนนี้มีข้อประทับใจอย่างใด แขกบางคนที่เป็นหัวโบราณแอบกระซิบกันว่าไม่รู้จะเอามาเล่าให้เราฟังทำไม

          เมื่อภาพแห่งความทรงจำเหล่านั้นจบลง โฆษกก็จะเชิญทั้งคู่มาสัมภาษณ์ ตรงนี้ขึ้นอยู่กับโฆษกจริง ๆ ครับ บางครั้งสัมภาษณ์เรื่องส่วนตัวแบบเจื่อน ๆ บางครั้งสัมภาษณ์สั้น ๆ แต่ประทับใจ บางครั้งสัมภาษณ์แบบตลกคะนอง บางทีก็สัมภาษณ์เยิ่นเย้อนานมากจนแขกเหรื่อขยับข้อมือดูนาฬิกากันหลายครั้ง หลายหน คู่บ่าวสาวก็ยิ้มไม่ค่อยออกเพราะเหนื่อยมาก สุดท้ายก็ไม่รู้ว่าเป็นประเพณีไทยมาตั้งแต่เมื่อใดคือการสัมภาษณ์จะจบลงตรง ที่โฆษกจะขอให้คู่บ่าวสาวแสดงความรักต่อกันด้วยการหอมแก้มจูบปากกัน

          จากนั้นก็ต้องจูงมือกันไปตัดแบ่งขนมเค็กชิ้นใหญ่นำไปให้แขกรับประทาน ขนมเค็กแห่งความรักนี้แม้ว่าแสนจะอร่อยแต่แขกก็ต้องพยายามรับประทานด้วย ความที่ยังอิ่มอาหารคาว และรีบรับประทานเพื่อที่จะลาเจ้าภาพกลับบ้าน

          ในช่วงท้ายของงานแขกเริ่มทยอยกลับบ้านคนแล้วคนเล่า ที่คุ้นเคยก็โบกมืออำลากลับเสียงรถยนต์ทยอยออกจากงานทีละคัน ๆ ในที่สุดความเงียบและความสงบว่างเปล่ากลับมาอีกครั้ง เหลือแต่ญาติสนิทเท่านั้นที่รอส่งตัวคู่บ่าวสาวกลับไปเรือนหอ


แต่งงาน
แต่งงาน

ชีวิตคู่ เริ่มต้นขึ้นแล้ว

          ชีวิตคู่ได้เริ่มต้นจากวินาทีนี้ แต่หลายคู่ชีวิตได้ดำเนินมานานแล้ว เพียงแต่มาจัดงานมงคลสมรสให้เป็นไปตามประเพณี เส้นทางแห่งชีวิตคู่นี้ ส่วนหนึ่งดำเนินไปได้อย่างมีความสุข ราบรื่นประสบความสำเร็จและอยู่เป็นคู่กันอย่างยั่งยืน มีความถาวร แม้จะมีเหตุปัจจัยมากระทบมาบั่นทอน ก็ไม่เป็นเหตุให้เกิดปัญหาได้

          บางคู่สามารถดำเนินชีวิตคู่ไปได้แม้จะไม่ราบรื่นนักแต่ก็พอปรับให้มีสภาพชีวิตครอบครัวได้ดีพอใช้ แต่หลายคู่ชีวิตคู่ไม่สามารถดำเนินไปได้ตลอดรอดฝั่ง บางทีอยู่กินกันไม่กี่เดือนก็ต้องแยกจากกัน บางรายพยายามปรับกันแล้วปรับกันอีกหลายครั้งหลายคราในที่สุดก็ต้องเลิกราต่อกัน มีหลายคู่ที่ดำเนินชีวิตครอบครัวมาได้อย่างดีเป็นเวลายาวนานพอสมควรแล้วก็ต้องมีเหตุให้อยู่ด้วยกันไม่ได้ก็มี

          อะไรเป็นเหตุปัจจัยให้ชีวิตคู่มีเส้นทางดำเนินไปแตกต่างกันอย่างนั้น ผู้เขียนขอให้ท่านผู้อ่านหมุนภาพจากสังคมและเศรษฐฐานะหนึ่งไปสู่อีกสังคมและเศรษฐฐานะที่ด้อยและลำบากกว่า

          ในอีกมุมของสังคมหนึ่งชีวิตคู่อาจเริ่มต้นอย่างง่าย ๆ ตามธรรมชาติจะเรียกว่าไมได้ดำเนินไปตามวัฒนธรรมและประเพณีและไม่ได้มีพิธีรีตองอะไรกันมากมายนัก เมื่อหนุ่มสาวเกิดชอบพอสนิทสนมกันและดูใจกันมพอสมควร ประกอบกับการที่ต้องมาทำงานห่างไกลบ้าน และต่างก็มีฐานะไม่ดีนัก ทั้งคู่จึงไม่ได้นึกถึงการสู่ขอและแต่งงานให้ถูกต้องตามประเพณี และตัดสินใจมาใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน เมื่ออยู่ด้วยกันได้ระยะหนึ่ง จึงส่งข่าวไปบอกทางบ้าน พ่อแม่ทั้งคู่ อาจรู้สึกเสียใจบ้างที่ลูกทำอะไรไม่ปรึกษาไม่บอกกล่าวผู้ใหญ่ก่อน แต่ด้วยรักลูกและเห็นว่าเรื่องได้ดำเนินไปแล้ว ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจึงตกลงทำพิธีอย่างเรียบง่าย ประหยัด เพียงเป็นเครื่องบอกให้รู้ว่าผู้ใหญ่รับรู้แล้วเท่านั้น

          ลักษณะของชีวิตคู่ที่เริ่มต้นอย่างธรรมชาติอันเรียบง่ายนี้ ส่วนหนึ่งก็ดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขราบรื่นตามธรรมชาติตามธรรมดาสามัญ มีความสำเร็จของชีวิตคู่และมีความยั่งยืนถาวรได้ หลายคู่ก็อาจมีความขัดแย้งกันแบบลุ่ม ๆ ดอน ๆ และส่วนหนึ่งชีวิตคู่แบบนี้ก็อาจจะสะดุดและจบลงในเวลาต่อมา

          เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างการแต่งงานที่หรูหราเสียค่าใช้จ่ายหลายแสนหรือเป็นล้าน กับการแต่งงานที่เรียบง่ายใช้ค่าใช้จ่ายไม่มากนัก ดูแล้วเส้นทางแห่งชีวิตคู่ทั้งสองแบบดูจะไม่ต่างกันมากนัก

          ประเด็นนี้ทำให้น่าคิดว่าพิธีรีตองอันสวยหรู ค่าใช้จ่ายที่แพงกว่ามากมาย ไม่ได้เป็นปัจจัยรับประกันว่าชีวิตคู่จะต้องดำเนินไปได้อย่างราบรื่นเสมอไป ความจริงวัฒนธรรมและประเพณีเป็นสิ่งที่ดีงามเราควรปฏิบัติให้อยู่ในกรอบ แห่งความเหมาะสม แต่อย่างไรก็ตาม วัฒนธรรมและประเพณีก็เป็นปัจจัยภายนอก ข้อสำคัญที่ผู้ที่มีชีวิตคู่ไม่พึงลืมคือ ปัจจัยทางด้านจิตใจของทั้งคู่ ซึ่งถ้าจัดองค์ประกอบทางด้านจิตใจให้ดีให้เหมาะสมแล้ว ให้ฟ้าจะถล่มดินจะทะลายก็ทำลายล้างสายสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้ยาก

ความรัก ความหมายที่มากกว่าแค่พิธีกรรม

          ความรัก ความซื่อตรง และความซื่อสัตย์ต่อกัน มีความเหนี่ยวแน่นในพันธะสัญญาที่มีต่อกัน ตั้งแต่แรกพบว่าจะรักกัน ให้ยึดถือสัญญานี้อย่างไม่มีวันคลาย ทั้งคู่ควรมีความพยายามที่จะบังคับ กำกับจิตใจและมีสติระลึกเสมอว่าให้ดำรงความรัก ความตรงและความซื่อสัตย์นั้นไว้ ความอดทนในอารมณ์ต่าง ๆ ที่ไม่ถูกใจ ความอดทนที่ฟันฝ่าอุปสรรคด้วยกันให้ยั่งยืน ความอดทนที่จะต้องบังคับจิตใจตนเองให้เป็นคนตรงอยู่เสมอ รวมทั้งการยอมรับความเป็นเอกลักษณ์และข้อบกพร่องในคู่ของตน ก็เป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ชีวิตคู่ดำเนินไปได้อย่างถาวร

          ประการสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ การรู้จักให้อภัย รู้จักเสียสละ และละความสุขส่วนตนลง โดยพยายามมีกิจกรรมที่ให้ความสุขและความพึงพอใจด้วยกัน จะทำให้ชีวิตคู่มีชีวิตชีวาขึ้นได้มาก ในฐานะที่ผู้เขียนเป็นจิตแพทย์เด็ก ในใจนั้น อยากให้คู่หนุ่มสาวเริ่มชีวิตคู่ด้วยปัจจัยด้านจิตใจที่มีต่อกันเป็นสำคัญ มากกว่าที่จะเริ่มชีวิตคู่ที่ติดอยู่ในรูปแบบที่ทำตามอย่างกันด้วยค่าใช้ จ่ายที่แสนแพงเป็นที่น่าเสียดาย

          และชีวิตคู่ที่ดำเนินไปด้วยใจ นั้นจะยั่งยืนถาวรเป็นรากฐานอันดีและแน่นหนาสำหรับเด็กตัวน้อย ๆ ที่จะเกิดมาให้มีเส้นทางของการเจริญเติบโตและพัฒนาอย่างเข้มแข็งต่อไป




ขอขอบคุณข้อมูลจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มุมมองจากงานแต่งงาน อัปเดตล่าสุด 15 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 15:24:59 2,264 อ่าน
TOP