x close

จอย - ปุ๊ย ตีสิบ ความแตกต่างไม่ใช่อุปสรรค

จอย - ปุ๊ย ตีสิบ

จอย - ปุ๊ย ตีสิบ

ความแตกต่างไม่ใช่อุปสรรคความรักของสองเรา...นริศรา- คืนสิทธิ์ สุวรรณวัฒกี (Woman’s Story)

          คนบางคนเกิดมาเพื่อให้เรารัก แต่ไม่ได้เกิดมาเพื่อใช้ชีวิตร่วมกับเราแต่บางคนที่เราอาจจะไม่ได้รักตั้งแต่แรกก็อาจจะเป็นคนที่เราต้องอยู่ด้วยตลอดชีวิตการที่คนสองคนซึ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงจะมาใช้ชีวิตร่วมกันได้ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่มันกลับไม่ยากเลยสำหรับคู่รักต่างขั้วอย่าง คุณจอย และ คุณปุ๊ย ตีสิบ เพราะความแตกต่างไม่ใช่อุปสรรครักของทั้งคู่ แต่กลับเป็นสิ่งที่คอยเติมเต็มให้กันและกันอยู่เสมอ

          วันนี้เรามีโอกาสได้เข้าไปเจาะลึกถึงความรักของทั้งคู่ เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ไปติดตามความรักต่างขั้วที่สุดแสนลงตัวของ จอย- นริศรา และ ปุ๊ย- คืนสิทธิ์ สุวรรณวัฒกี กันเลยดีกว่าค่ะ...

จุดเริ่มต้นของความรักครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรคะ

          คุณจอย : เรามีโอกาสได้เจอกันตอนทำงานค่ะ(ยิ้ม) เจอกันที่บริษัทนี้แหละค่ะ พี่ปุ๊ยเข้ามาทำงานที่บริษัทนี้หลังพี่ประมาณ 2 ปีได้ค่ะ

          คุณปุ๊ย :เจอกันที่ออฟฟิศรายการตีสิบนี่แหละครับ(หัวเราะ)พอดีตอนนั้นคุณวิทวัสเขาเรียกพี่ให้เข้ามาทำช่วงวิดีโอแมน คือทำวิดีโอแล้วเอามาพรีเซ้นท์ช่วงท้ายรายการต่อจากช่วงร้อยแปดมงกุฎแล้วจอยเค้าอยู่ที่นี่อยู่แล้ว เป็นพีอาร์ของบริษัทอยู่พี่เข้ามาทำงานทีหลังก็ได้มาเจอเค้าที่นี่แหละ(ยิ้ม)

ความรู้สึกครั้งแรกที่ได้เจอกันเป็นอย่างไรบ้างคะ

          คุณจอย :เฉย ๆ ไม่ได้คิดอะไรพิเศษเลยค่ะ ก็เป็นเพื่อนกันธรรมดาเพราะเราค่อนข้างจะแตกต่างกันมาก ๆ (หัวเราะ)แล้วตอนนั้นบอกเลยว่าพี่ปุ๊ยไม่ได้อยู่ในสายตาพี่เลยนะ

          คุณปุ๊ย : พี่เองก็เฉย ๆ ยังไม่ได้รู้สึกอะไรเลยครับ ไม่ใช่สเป็ก (หัวเราะ)

          คุณจอย : คือตอนนั้นเราทั้งคู่ต่างคนต่างก็มีแฟนอยู่แล้วด้วยไงคะ เลยไม่ได้คิดอะไรที่มันมากกว่าเป็นเพื่อนกัน

          คุณปุ๊ย : พี่ดูเป็นคนอัลเทอร์เนทีฟ อินดี้ ๆ ด้วย อาจจะไม่อยู่ในสายตาของจอยเค้า (หัวเราะ)

แล้วความรักเริ่มผลิบานขึ้นในใจของทั้งคู่ตอนไหนเอ่ย

          คุณจอย :เรามีโอกาสได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน มีปัญหาก็ได้ปรึกษากันคือช่วงนึงพี่มีปัญหาเรื่องแฟนด้วยน่ะค่ะ เลยหาคนปรึกษาก็เลยปรึกษาพี่ปุ๊ย แต่ตอนแรกก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไรแค่อยากทราบทัศนคติของผู้ชาย มันก็เลยเกิดการแลกเปลี่ยนความคิดกันขึ้น

          คุณปุ๊ย :แล้วตอนหลังมาต่างก็มีปัญหากันทั้งคู่แล้วโอกาสไปไหนมาไหนด้วยกันก็บ่อยขึ้น ทีนี้อะไร ๆ ก็เริ่มที่จะจูนกันซึ่งความจริงเวลามีปัญหาพี่ก็ปรึกษาหลายคนเหมือนกันแต่ก็ไม่รู้ว่าด้วยอะไรมันทำให้เราต้องไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยทั้งเรื่องงาน เรื่องทั่วไป เลยทำให้เราได้คุยกันเยอะขึ้นเข้าอกเข้าใจกันมากขึ้น

          คุณจอย :แล้วเวลาพี่ปุ๊ยเค้ามาปรึกษาพี่ พี่ก็จะพาเค้าออกไปลุย ๆ กันเลยให้เค้าไม่เครียดมาก แล้วก็เข้าไปช่วยเค้าแก้ปัญหาตรงนั้นเลยจนได้ฉายาจากเพื่อน ๆ ว่า ปวีณาทลายซ่อง (หัวเราะ)แต่ก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่นะ เพียงแต่ความสนิทสนม ความห่วงใยความเห็นอกเห็นใจกันมันมีมากขึ้นกว่าเดิม

หลังจากนั้นแล้วความสัมพันธ์มีการพัฒนาไปอย่างไรคะ

          คุณจอย :จริง ๆ มันก็เป็นเพื่อนกันไปเรื่อย ๆ คือเราเหมือนเป็นเพื่อนกันมากกว่าเรื่องความคิดก็เริ่มใกล้กันเข้ามาบ้างแล้ว แต่เรื่องการปฏิบัติตัวไลฟ์สไตล์เรายังต่างกันอยู่ดี แล้วก็เริ่มมีความเห็นอกเห็นใจกันเข้าใจกันมากค่ะ

          คุณปุ๊ย : คือเราก็เหมือนกับได้เพื่อนที่เราคุยได้ทุกเรื่อง คุยกันได้เยอะขึ้น ความรู้สึกดี ๆ ก็เกิดขึ้น


จอย - ปุ๊ย ตีสิบ

จอย - ปุ๊ย ตีสิบ

แล้วอะไรที่ทำให้มั่นใจว่าคนนี้แหละคือคนที่ใช่..

คุณปุ๊ย : เริ่มคบกันแรก ๆ เลย พี่ก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะใช่หรือเปล่า

          คุณจอย :อืม...มันก็เสี่ยง ๆ งง ๆ ว่าเราจะไปด้วยกันรอดไหมเพราะคนรอบข้างก็ไม่มีใครสนับสนุนเพราะเค้าเห็นว่าเราสองคนแตกต่างกันมากจริงๆ มันไม่น่าจะเข้ากันได้แต่พอเอาเข้าจริงๆ คบกันไปมันก็ทำให้เราเย็นลงปรับตัวเข้าหากันได้มากขึ้นเรื่อยๆจนคนรอบข้างเริ่มยอมรับว่าเราสองคนต้องไปด้วยกันได้แน่ ๆ อืม...แรก ๆเลยแม่พี่ก็ไม่ค่อยชอบพี่ปุ๊ย แต่สุดท้ายก็กลายเป็นสนับสนุนเพราะพี่ปุ๊ยเค้าก็เป็นคนดีคนนึง

          คุณปุ๊ย : พี่ก็เป็นคนง่าย ๆ ไม่มีพิษไม่มีภัย (หัวเราะ)

ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ประทับใจอะไรในกันและกันบ้างคะ

          คุณปุ๊ย :ประทับใจเค้าในเรื่องที่เค้าคอยเอาใจใส่เรานอกเหนือจากแม่แล้วก็มีเค้าที่คอยดูแลจอยเค้าจะใส่ใจรายละเอียดเกี่ยวกับเรา คอยดูแล คอยเช็คคอยชนในบางเรื่องที่เราไม่อยากชน จอยเค้าเหมือนเป็นสามีพี่มากกว่า(หัวเราะ) คือเวลาที่เราเหนื่อย ๆเราต้องการใครซักคนที่มาคอยดูแลเอาใจใส่เรา แล้วข้างๆ เราจะมีเค้าอยู่เสมอทุกวันนี้จอยเค้าจะเป็นคนขับรถพาพี่ไปนั่นไปนี่ พี่ไม่ต้องขับเลยคือเวลาที่เราเหนื่อย ๆมันทำให้เรารู้สึกว่าเออ..ยังมีผู้หญิงคนนี้อยู่กับเราตลอดนะ

          คุณจอย :สิ่งแรกคือความใจดี มองโลกในแง่ดี อีกอย่างเค้ารักครอบครัวรักทั้งครอบครัวเรา ครอบครัวเค้า พี่ปุ๊ยจะเป็นคนที่อบอุ่นไม่เคยคิดร้ายอะไรเลย แม้ว่าเค้าจะไม่ค่อยได้ดูแลเทคแคร์แต่พี่ไม่ได้รู้สึกว่าขาด เค้าเสมอต้นเสมอปลาย คือไม่เคยดูแลเราตั้งแต่แรก(หัวเราะ) เวลาที่เค้าทำผิดเค้าจะเข้ามาลูบหัวแล้วมันรู้สึกอบอุ่นไม่ต้องบอกรักทุกวัน ไม่ต้องมานั่งดูแลเอาใจใส่แค่เป็นอย่างทุกวันนี้มันก็ดีมากอยู่แล้วค่ะ มีความซื่อสัตย์ จริงใจตั้งแต่วันแรกเป็นอย่างไรทุกวันนี้ก็เป็นแบบนั้น

          คุณปุ๊ย :คู่เราจะไม่มีช่วงโปรโมชั่นความรัก ไม่ว่าวันแรก วันนี้ หรือวันต่อ ๆ ไปเราก็จะยังคงเป็นเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง มีแอบหวานบ้าง...ปีละครั้ง(หัวเราะ)

ใช้เวลาเพาะบ่มความรักนานแค่ไหนจึงตัดสินใจแต่งงานกันคะ

          คุณจอย :นานเหมือนกันเนาะ(ยิ้ม) มันเหมือนเราคบกัน เป็นเพื่อนกันมาประมาณ 3-4ปีได้ แล้วมันรู้สึกเหมือนเหงา ๆ เบื่อ ๆ ก็เลยคิดที่จะแต่งงานกัน

          คุณปุ๊ย :(ยิ้ม) จริง ๆ แล้วก่อนจะแต่งงานเป็นช่วงที่ทะเลาะกันมากเลยครับ เราก็คิดๆกันอยู่ว่าจะรอดไหม... แต่จอยเค้าก็อยากจะแต่ง เพราะเราก็อายุเยอะแล้วอยากมีครอบครัว อยากมีลูก อยากสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ ก็เลยมาคิด ๆกันว่าเราควรจะแต่งงานกันดีกว่า

          คุณจอย :อีกอย่างพี่ปุ๊ยเค้าจะต้องไปโน่นไปนี่ ชีวิตเค้าจะวุ่นวายตลอดเวลาจะให้ดีต้องมีคนคอยดูแล เราก็เลยมาคุยกันเรื่องแต่งงานในที่สุดก็เออ...แต่งงานกันดีกว่า แต่ไม่ได้มีการขอแต่งงานแต่อย่างใดเป็นการคุยกันมากกว่า คุยกันว่าจะแต่งงานดีไหมแต่งงานแล้วจะเป็นอย่างไรต่อ คิดเป็นสเต็ป ๆ ไปค่ะ

          คุณปุ๊ย : ไม่มีซีนโรแมนติก คุกเข่าขอแต่งงาน ไม่มีครับ (ยิ้ม)




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
จอย - ปุ๊ย ตีสิบ ความแตกต่างไม่ใช่อุปสรรค อัปเดตล่าสุด 11 มกราคม 2553 เวลา 15:21:08 1,258 อ่าน
TOP