x close

ดอกไม้ในงานแต่งงาน มีความสำคัญอย่างไร

ดอกไม้งานแต่งงาน


แปลและเรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          งานแต่งงาน ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของคู่บ่าวสาวทุกคู่ นอกจากพิธีต่าง ๆ ที่เราต้องให้ความสำคัญแล้ว " ดอกไม้" ที่ใช้ใน งานแต่งงาน ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญเช่นกันค่ะ เพราะฉะนั้น วันนี้กระปุกเวดดิ้งเราเลยมีบทความเกี่ยวกับ ประเพณีการใช้ดอกไม้ใน งานแต่งงาน ของแต่ละประเทศมาฝากกันค่ะ

          ในประเทศไทย แม่ของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะร้อยพวงมาลัยสำหรับคล้องคอคู่บ่าวสาวในวันงานแต่งงาน เพื่ออวยพรให้คู่บ่าวสาวมีอนาคตที่ดี เจริญรุ่งเรือง และอยู่เย็นเป็นสุข

          สำหรับชาวสวีเดนและชาวเดนมาร์ก เจ้าบ่าวจะเย็บห่อผ้าเล็ก ๆ ที่ภายในบรรจุสมุนไพรกลิ่นแรงจำพวก กระเทียม, โรสแมรี่ และกุยช่าย แล้วใส่ไว้ในชุดเจ้าบ่าว เพื่อความโชคดีของตนเอง

          สำหรับประเพณีของชาวอินเดีย เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะสวมมงกุฎดอกไม้ไว้ที่ศีรษะ และพี่ชายของเจ้าบ่าวจะโปรยกลีบดอกไม้ไปที่เหนือศีรษะของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ในตอนที่จบพิธีการทั้งหมดแล้ว เพราะพวกเขาเชื่อว่า การทำแบบนี้ จะทำให้คู่แต่งงานปลอดภัยจากปิศาจร้าย

          ส่วนเจ้าสาวชาวกรีกโบราณ จะถือช่อไอวี่ตลอดเวลาช่วงของพิธีแต่งงาน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า รักของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว จะเป็นรักหวานซึ้งและนิรันดร

          เจ้าสาวชาวโรมันโบราณ จะถือช่อสมุนไพรเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์และความอุดมสมบูรณ์ และยังสามารถป้องกันพลังของปิศาจร้ายได้อีกด้วย

          ในยุควิคตอเรีย หลาย ๆ คนหลงใหลกับความหมายของดอกไม้ที่แตกต่างกันไป แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คงจะเป็น กุหลาบ ที่มีความหมายถึงรักแท้

          ในยุควิคตอเรีย ก็จะมีประเพณีนิยมคือ การให้เจ้าสาวโยนช่อดอกไม้ในงานแต่งงาน แต่ความเชื่อของเขาในตอนนั้น ไม่ได้หมายถึงเพื่อนคนที่รับได้จะได้แต่งงานเป็นคนต่อไปนะคะ มันหมายถึงการปกป้องคุ้มครองภัยเพื่อนคนนั้นจากพลังปิศาจร้าย และมอบโชคดี ๆ ให้กับเพื่อนคนนั้น แต่ปัจจุบันกลายมาเป็นความเชื่อที่ว่า เพื่อนคนไหนที่รับช่อดอกไม้ได้ จะได้แต่งงานเป็นรายต่อไป

          สำหรับงานแต่งงานของชาวกรีกนิกายออร์โธดอกซ์ ช่อดอกส้ม ถูกกำหนดมาไว้เพื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาว ซึ่ง ช่อดอกส้ม ก็จะแมตช์เข้ากับของตกแต่งบนชุดเจ้าสาวด้วย พวกเขามีความเชื่อกันว่า ช่อดอกส้ม เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และความไร้เดียงสา เนื่องจากดอกส้มมีสีขาว บอบบาง และมีกลิ่นหอมหวานลึกซึ้งด้วย

          ในเมืองทิวดอร์ ประเทศอังกฤษ เจ้าสาวจะถือดอกดาวเรืองที่ลอยอยู่ในน้ำกุหลาบ และรับประทานน้ำนี้เข้าไปหลังพิธีจบลง เพราะพวกเขามีความเชื่อว่ามันคือยากระตุ้นพลังทางเพศ!!

          ตามประเพณีอิตาลี พวกเขาจะเอาช่อดอกไม้มาประดับหน้ากระโปรงรถของคู่บ่าวสาว เพื่อให้คู่บ่าวสาวมีความสุขตลอดไป

          ในประเทศตะวันออกกลาง พวกเขาจะเอาสมุนไพรชนิหนึ่งที่ชื่อ อาร์ทีมิเซีย รวมเข้าไปในช่อดอกไม้ของเจ้าสาว เพื่อแก้เคล็ดไม่ให้รักขม และทำให้ความรักหวานชื่นตลอดไป





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ดอกไม้ในงานแต่งงาน มีความสำคัญอย่างไร อัปเดตล่าสุด 8 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 14:15:57 1,617 อ่าน
TOP