แต่งงาน งานแต่งงาน ดนัย อุดมโชค กับ ชรินพร

The Deuce in Love ชรินพร- ดนัย อุดมโชค (IDO)

            ทุกครั้งที่หนุ่ม ปิ๊ก-ดนัย อุดมโชค นักเทนนิสฝีมือระดับโลกชาวไทย ลงวาดลวดลายหวดลูกสักหลาด หนึ่งในแรงเชียร์แรงใจที่ได้รับจากสาว ต๊าบ-ชรินพร พินิจชอบ อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดบริษัท AIN Global Com นั้น มีที่มาจากเสียงเชียร์และแรงลุ้น จากเพื่อนสนิทและผู้ใกล้ชิดของทั้งคู่ จนทั้งสองลงเอยด้วยการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน

             เห็นรูป แล้วอยากเห็นหน้า

            ครั้งแรกที่ทั้งคู่พบกัน เป็นเพียงแค่หนุ่มปิ๊กเห็นหน้าสาวต๊าบจากาภาพถ่ายแล้ว อยากพบตัวจริง ส่วนฝ่ายหญิงที่แม้จะมีชายหนุ่มหลายรายเข้ามาขายขนมจีบ แต่ดูเหมือนว่าเธอยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับใครเป็นพิเศษ

            "ผมเห็นรูปต๊าบจากเพื่อนที่เป็นนักเทนนิสด้วยกัน ตอนนั้นแฟนของเขาเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกันกับต๊าบ เพื่อนผมก็แนะนำว่าต๊าบน่ารัก และยังโสด ผมจึงอยากเห็นตัวจริงว่าจะน่ารักเหมือนในรูปหรือเปล่า ยังไม่ได้คิดว่าจะจีบ"

            คุณต๊าบเล่าต่อ เหมือนเพื่อน ๆ จะช่วยจับคู่ให้ เพราะต่างฝ่ายต่างยังไม่มีใคร แต่ต๊าบก็ไม่รู้จักว่า ดนัย อุดมโชคคือใคร เพราะรู้จักแต่พี่บอล ภราดร ศรีขาพันธุ์ กับพี่แทมมี่ แทมมารีน ธนสุกาญจน์

            แต่ด้วยแรงเชียร์จากเพื่อน ๆ ทำให้ทั้งคู่มีโอกาสได้พบกันในงานวันเกิดของต๊าบที่ฝ่ายชายออกปากว่าจะเลี้ยงวันเกิดให้ พร้อมพาเพื่อน ๆ ไปทานอาหารกลางวันด้วยกันทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้จัก

            "ต๊าบไม่รู้ว่าเขาไปติดต่อยังไงกับเพื่อนต๊าบ เพื่อนก็โทรมาบอกว่าวันเกิดปีนี้พี่ปิ๊กและเพื่อน ๆ จะไปเลี้ยงข้าว ตอนนั้นต๊าบก็คิดว่าจะดีหรือเพราะเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่เพื่อนต๊าบตื้อมาก จนต๊าบรับปากไป"

            แม้จะได้ทานอาหารร่วมกัน ทั้งคู่ก็ยังไม่ได้พูดคุยกันมากนัก คุณปิ๊กรู้แล้วว่าคุณต๊าบหน้าตาน่ารักกว่าในรูป จึงอยากทำความรู้จักให้มากขึ้น แต่กลับคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไร

            คุณต๊าบเล่าต่อ "หลังจากวันเกิดประมาณ 1 เดือน เพื่อนคนเดิมก็โทรมาบอกต๊าบว่า พี่ปิ๊กอยากไปส่งต๊าบขึ้นรถไฟกลับบ้านที่ลำปาง แต่ติดธุระไม่สะดวกเลยขอมาสอนเทนนิสให้ต๊าบและเพื่อน ๆ แทน ตอนนั้นต๊าบไม่อยากออกจากบ้าน เพราะต๊าบอยู่กับคุณป้า จึงนัดให้เพื่อน ๆ และพี่ปิ๊กมาใช้คอร์ทที่บ้าน นัดกันตอน 9 โมงเช้า แต่พี่ปิ๊กมาถึง 11 โมง ต๊าบแอบเคืองในใจว่ามาก็ช้า แล้วยังจะมาสอนเทนนิสตอนแดดร้อน ๆ แบบนี้อีก ครั้งนั้นเราเพิ่งได้เห็นหน้ากันชัด ๆ และคุยกันมากขึ้น"

            ปิ๊กย้อนเล่าสาเหตุของการมาสาย "ตอนนั้นผมอยากทำความรู้จักกับเขา แต่ไม่รู้จะใช้วิธีไหน เลยบอกว่าจะไปสอนเทนนิสให้ วันนั้นจริง ๆ ผมตั้งใจจะไปรอต๊าบก่อนเวลานัด แต่ดันขับรถเลยไปถึงชลบุรี ทั้ง ๆ ที่ต้องลงตั้งแต่บางนา"

             สื่อรักออนไลน์

            หลังจากนั้นคุณปิ๊กก็หายไปอีกพักหนึ่ง เพราะต้องเดินทางไปแข่งขันเทนนิสอย่างต่อเนื่อง แต่ทุกครั้งที่กลับมาเมืองไทย เขายังคงมุ่งมั่นกับภารกิจนี้อย่างไม่ท้อถอย โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณปิ๊กยังไม่เคยติดต่อกับคุณต๊าบได้ โดยตรงสักครั้ง ได้แต่คุยผ่านเพื่อนจนในที่สุดก็ได้อีเมล์ของฝ่ายหญิงจากเพื่อนแม่สื่อคนเดิม นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการพูดคุยที่ทำให้หนุ่มปิ๊กได้ ทำความรู้จักกับสาวต๊าบอย่างจริงจัง

            "หลังผมกลับจากการแข่งขันผมก็พยายามติดต่อเขา ผมขออีเมล์ต๊าบจากเพื่อน ครั้งแรกส่งเมล์ไป เขาก็ไม่ตอบกลับ จนผมขอเพิ่มชื่อของเขาในโปรแกรมเอ็มเอสเอ็น เราถึงได้คุยกัน ผมพยายามเปิดกล้อง เพราะอยากเห็นหน้าเขา แต่เขาก็ไม่ค่อยคุยกันผม"

            ต๊าบอธิบาย "ตอนพี่ปิ๊กส่งจดหมายมาทางเมล์ ต๊าบไม่ได้ตอบกลับ เพราะไม่รู้จะตอบทำไม แต่พอพี่ปิ๊กมาทักในเอ็มเอสเอ็น เราก็คุยแบบถามคำ ตอบคำมีอยู่วันหนึ่งก่อนเลิกคุยเอ็มเอสเอ็น ต๊าบต้องออกไปทานข้าวนอกบ้าน พี่ปิ๊กขอเบอร์โทรศัพท์ ต๊าบก็แกล้งบอกว่าเอาไว้ก่อน แล้วก็ปิดโปรแกรม เลิกคุยกับเขาไปเลย"

            นักเทนนิสหนุ่มยังคงพยายามขอเบอร์มือถือจากฝ่ายหญิงให้ได้ แต่ก็จนหนทาง ต้องกลับไปใช้วิธีเดิมคือถามจากเพื่อนสาวคนสนิทของน้องต๊าบ ซึ่งเธอเองก็บ่ายเบี่ยงเพราะต๊าบห้ามไว้ แต่ในท้ายที่สุดเพื่อนของต๊าบก็แพ้ต่อแรงตื้อและความพยายามของหนุ่มปิ๊ก

            "ผมถามเบอร์มือถือของต๊าบจากเพื่อนเขา ตอนแรกเขาจะไม่บอกเพราะต๊าบสั่งว่าไม่ให้บอก แต่ผมพยายามถามไปถามมาจนเหลือเลข 2 ตัวสุดท้าย ก็เดาจนได้เบอร์มาครบทุกตัว จากนั้นผมก็ส่งข้อความไปหาต๊าบทันที"

            ส่วนคุณต๊าบ "พอพี่ปิ๊กส่งข้อความมา ต๊าบก็รีบโทรไปตำหนิเพื่อน แต่ก็คิดว่าไม่เป็นไรมันเป็นแค่เบอร์โทรศัพท์ เราจะรับหรือไม่รับก็เป็นเรื่องของเราจริง ๆ ไม่ได้คิดว่าจะคุยกับพี่ปิ๊ก เพราะภาพของนักเทนนิสผู้ชายตอนนั้นไม่ค่อยดี รู้สึกว่านักเทนนิสจะเจ้าชู้ทุกคน หลังจากพี่ปิ๊กได้เบอร์ต๊าบไปแล้วก็โทรมาคุยบ้างแต่ไม่บ่อย ทำให้ต๊าบไม่รู้สึกอึดอัด แต่ทุกครั้งที่เขาโทรมาจะได้ยินเสียงเพื่อน ๆ ของเขาเชียร์ให้พูดแบบนั้นแบบนี้ หรือแซวตลอด"

            เมื่อทั้งสองได้พูดคุย เรียนรู้นิสัยใจคอกันมากขึ้น คุณปิ๊กก็พิสูจน์ให้คุณต๊าบเห็นว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้อย่างที่คิด แต่เป็นผู้ชายซื่อ ๆ ตรงไปตรงมา ทำให้สาวต๊าบเริ่มรู้สึกสนิทใจ ระหว่างนั้นทั้งคู่ก็ได้พบและคุยกันแบบสองคนมากขึ้น แม้คุณปิ๊กจะต้องเดินทางไปแข่งขันต่างประเทศ ก็จะโทรศัพท์ ส่งข้อความคุยผ่านเอ็มเอสเอ็นกันตลอดเวลา จนในที่สุดทั้งคู่ก็ตกลงคบหากันในฐานะคนรู้ใจ

รัก... (ขึ้น) หน้าหนึ่ง

แม้ก่อนคบกันเป็นแฟน คุณปิ๊กจะพาน้องต๊าบไปแนะนำกับคุณพ่อ คุณแม่ของตนเองแล้ว แต่สำหรับคุณพ่อ คุณแม่ฝ่ายหญิงกลับยังไม่ทราบเรื่องราวที่ทั้งคู่คบกัน โดยคุณต๊าบตั้งใจจะบอกเมื่อตัวเองเรียนจบ แต่เหตุการณ์ไม่เป็นไปตามแผน เพราะกลับมีภาพถ่ายคู่ลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์เสียก่อน

คุณปิ๊กเล่าก่อน "ตอนนั้นผมได้แชมป์เหรียญทองเอเชียนเกมส์ เลยมีภาพข่าวซุบซิบลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ ปรากฏว่าคุณพ่อ คุณแม่ของต๊าบไม่ค่อยพอใจ ผมได้แต่ให้กำลังใจน้องและบอกกับพี่ ๆ นักข่าวว่าอย่าเพิ่งลงข่าวนะครับ เพราะยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ"

คุณต๊าบเล่าเสริม "ตอนนั้นลงรูปใหญ่มาก คุณแม่ต๊าบเป็นอาจารย์ ส่วนคุณพ่อก็มีคนรู้จักท่านเยอะ พวกท่านไม่รู้เรื่อง ท่านจึงงงมาก ต๊าบรู้สึกแย่ไม่อยากให้พวกท่านดูไม่ดีในสายตาคนอื่น และท่านก็เป็นห่วงเราเพราะเราไม่ได้อยู่กับท่านตลอดเวลา ตอนนั้นพวกท่านโกรธและคุยกับต๊าบน้อยมาก ยิ่งคุณแม่รู้ว่าพี่ปิ๊กเป็นนักเทนนิส ท่านก็คิดลบไว้ก่อน ตอนนั้นต๊าบคิดมากขนาดว่าจะเลิกกับพี่ปิ๊กดีไหม พี่ปิ๊กปลอบใจบอกว่าต้องค่อยเป็นค่อยไป แต่พอต๊าบพาพี่ปิ๊กไปแนะนำกับพวกท่านแล้ว พวกท่านก็ยอมรับพี่ปิ๊กมากขึ้น หลังจากนั้นเวลาต๊าบไปดูพี่ปิ๊กแข่งก็ต้องพยายามหลบกล้องถ่ายภาพ เอากระดาษมาเปิดหน้าบ้าง เพราะเรายังไม่อยากเปิดตัว"

            โรแมนติกที่สุดในโลก

            ตั้งแต่ช่วงแรกที่ทั้งคู่คบหากัน คุณปิ๊กจะเอ่ยปากคุยเรื่องแต่งงานกับต๊าบอยู่เสมอ แต่คุณต๊าบยังขอยื้อเวลาออกไป เพราะหลังเรียนจบเธออยากเรียนรู้สังคมการทำงานสักระยะหนึ่งก่อน เมื่อเวลาผ่านไปจนเข้าสู่ปีที่ 6 ทั้งสองก็ตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน โดยมีฉากการขอแต่งงานที่สาวต๊าบขอเรียกว่าเป็นความโรแมนติกที่สุดในชีวิต และเป็นความหวานที่สุดที่หนุ่มปิ๊กจะทำได้

            คุณปิ๊กเล่าขึ้นก่อน "ผมเลือกร้านาอาหรร้านหนึ่งเป็นแบบเอาท์ดอร์เห็นวิวกรุงเทพฯ ผมคุยกับผู้จัดการร้านว่าผมจะขอใช้สถานที่ขอแฟนแต่งงาน เขาบอกว่าจะจัดโต๊ะ จัดไฟ ทำเค้กให้ และจะจัดเด็กดูแลพิเศษให้คนหนึ่ง ผมสั่งดอกกุหลาบสีแดง 29 ดอกจัดเป็นช่อรูปหัวใจเซอร์ไพรส์ให้อีก ที่ต้องเป็น 29 ดอก เพราะต๊าบเคยคุยว่าชอบเลข 2 กับเลข 9 ที่มีความหมายว่าสองเราจะก้าวไปด้วยกัน ผมตั้งใจว่าวันนั้นต้องประทับใจที่สุด"

            คุณต๊าบเล่าบ้าง "จริง ๆ ต๊าบก็พอจะรู้แล้วว่าเขาจะขอแต่งงาน แต่ไม่รู้ว่าจะมีอะไรบ้าง วันนั้นเขาชวนไปทานข้าว ตอนอยู่บนรถเด็กส่งดอกไม้ก็โทรมาถามพี่ปิ๊กว่าจะให้ไปส่งดอกไม้ที่ไหน ตอนนั้นต๊าบยังแซวพี่ปิ๊กเลยว่ามีดอกไม้ด้วยเหรอ พอไปถึงร้านพี่ปิ๊กก็เลื่อนเก้าอี้ให้นั่ง บรรยากาศตอนนั้นมันใช่เลย รู้สึกดีมาก แล้วเขาบอกให้ต๊าบสั่งอะไรก็ได้ ซึ่งปกติสั่งอะไรจะดูราคากันก่อน พอสั่งอาหารมาแล้วเขาตักให้ทุกอย่าง วันนั้นพี่ปิ๊กเอาวิดีโอมาอัดด้วยแต่วิดีโอเสีย พอทานอาหารเสร็จ เด็กก็เอาดอกไม้มาส่ง พี่ปิ๊กก็ยื่นดอกไม้ให้จากนั้นตามด้วยเค้ก ก่อนพี่ปิ๊กจะวางเค้ก พี่ปิ๊กพูดว่า “พี่ปิ๊กมีคำถามจะถามน้อง" แล้วเขาก็เอาจานเค้กวางลงบนโต๊ะ บนเค้กเขียนว่า Would you marry me?"

            "ต๊าบบอกว่าต๊าบอ่านไม่ออก เพราะต๊าบอยากให้เขาพูดออกมาเอง พอเขาพูดเสร็จ ก็เดินอ้อมโต๊ะมาคุกเข่าข้าง ๆ แล้วหยิบแหวนออกมา ตอนนั้นต๊าบซึ้งมาก ไม่คิดว่าเขาจะทำได้ขนาดนี้ ตอนนั้นน้ำตาคลอ รู้สึกใจเต้นแรง ตัวร้อนๆ แล้วต๊าบก็พยักหน้าตอบรับ"

            แม้บรรยากาศการขอแต่งงานในวันนั้นจะมีเรื่องขำขำ หรือติดขัดไม่เป็นดั่ง เช่นในละครที่เราเห็น แต่เชื่อว่าถ้าใครได้อยู่ในวินาทีนั้นก็จะรู้สึกซาบซึ้งไม่แพ้เขาทั้งคู่

            ปัจจุบันทั้งสองเพิ่มใช้ชีวิตคู่ร่วมกันเพียงไม่กี่เดือน แต่ด้วยคำยืนยันที่ว่าต่างเป็นคนพิเศษของกันและกัน จึงมั่นใจว่าทั้งสองจะค่อย ๆ ปรับตัว และเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตคู่อยู่กันไปได้อย่างยาวนาน

            คุณปิ๊กพูดก่อน "ผมรู้สึกว่าเขาเข้าใจผมมากที่สุด หลายครั้งที่ผมหมดกำลังใจอยากจะเลิกเล่นเทนนิส เขาจะให้กำลังใจผมตลอด และสำหรับคู่รักที่แต่งงานเร็วเหมือนอย่างคู่เรา ผมอยากให้เวลาทะเลาะหรือขัดแย้งกันต้องระงับอารมณ์ให้ได้ ต้องมีฝ่ายหนึ่งที่ยอม อย่ามีทิฐิใส่กัน"

            คุณต๊าบเสริม "พี่ปิ๊กเป็นผู้ชายที่พิเศษสำหรับต๊าบ เขาไม่เหมือนใคร เขาเป็นคนชื่อ ไม่มีความลับ ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และยังเป็นผู้ชายที่รักครอบครัวมาก ต๊าบมองว่าอนาคตเขาต้องรักครอบครัวของตัวเองมากเหมือนกัน สำหรับคู่รักที่เพิ่งแต่งงานกันควรเปิดอกคุยกันว่าเราชอบหรือไม่ชอบอะไร จะได้เข้าใจกัน"

            ทั้งคู่วางแผนว่าหลังจากนี้คุณปิ๊กจะยังคงเดินทางแข่งขันเทนนิสต่อไป โดยมีหวานใจอย่างน้องต๊าบร่วมเดินทางไปดูแลและให้กำลังใจข้างกายไม่ห่าง อีกไม่นานเราคงได้ลุ้นทายาทของทั้งคู่ เพราะพวกเขาตั้งใจว่าจะสร้างครอบครัวเล็ก ๆ ของพวกเขาให้สมบูรณ์ดั่งฝัน

เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย

คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

หนังสือIDO ISSUE 40 มกราคม-กุมภาพันธ์ 2553