x close

รักลงตัวของ เอลิกา-ธัญร์นากร พลอยอัมพร

เอลิกา - ธัญร์นากร พลอยอัมพร

เอลิกา - ธัญร์นากร พลอยอัมพร

รักลงตัวในแบบฉบับของ เอลิกา-ธัญร์นากร พลอยอัมพร (Woman's Story)

          ว่ากันว่าการแต่งงานไม่ใช่จุดจบของความรัก แต่เป็นการเริ่มต้นชีวิตรักในแบบของครอบครัวใหม่ต่างหาก ซึ่งหากแม้จะมีความรักที่ยิ่งใหญ่มากแค่ไหน แต่ปราศจากความเข้าใจกัน ชีวิตครอบครัวก็คงไม่ยืนยาวเท่าไหร่นัก

          วันนี้เรามีโอกาสได้เข้าไปกะเทาะ หัวใจรักของดาราสาวสวยดีกรีดัชชี่เกิร์ลอย่าง บลู- เอลิกา พลอยอัมพร ซึ่งเธอได้เผยชีวิตรักที่สุดแสนจะลงตัวของเธอและสามีที่น่ารักอย่าง ตี๋- ธัญร์นากร พลอยอัมพร ให้เราได้รู้อย่างหมดเปลือกกันเลยทีเดียว และเพื่อไม่ให้เสียเวลาเราไปติดตามเรื่องราวความรักของเธอและเค้าพร้อม ๆ กันเลยค่ะ...

ย้อนกลับไปสู่วันวานครั้งแรกที่เจอกันหน่อยสิคะ

          บลู - เอลิกา : จริง ๆ เราสองคนเป็นคริสเตียนด้วยกันทั้งคู่ค่ะ (ยิ้ม) นับถือศาสนาคริสต์ค่ะ แล้วก็เลยมีโอกาสได้เจอกัน เพราะโบสถ์ของบลูกับของพี่ตี๋อยู่ใกล้กัน ต่อจากนั้นก็มีโอกาสได้ติดต่อพูดคุยกัน แต่ก็จะคุยกันเรื่องพระเจ้า ตามแบบฉบับของคนที่เป็นคริสเตียนอ่ะค่ะ คุยกันไปกันมาจนในที่สุดก็คลิกกัน ประมาณนั้นค่ะ(ยิ้ม)

ครั้งแรกที่พบกันมีความรู้สึกอย่างไรบ้างคะ

          บลู - เอลิกา : ตอนนั้นเจอกันครั้งแรกก็ที่โบสถ์ของบลู ก็คิดว่าผู้ชายคนนี้น่ารักดีนะ เค้ามาทำอะไรที่โบสถ์ของเราน๊า...(ยิ้ม) แต่ก็คิดได้แค่นั้นค่ะ ยังไม่มีอะไรมาก อีกอย่างวันนั้นบลูเองก็ยุ่ง ๆ อยู่กับการต้อนรับคนที่มาที่โบสถ์ แต่หลังจากนั้นเราก็มีโอกาสได้ทานข้าวกัน ได้พูดคุยกัน เราก็เลยรู้สึกประทับใจเค้า ในเรื่องของการใช้ชีวิตในทางคริสเตียนของเค้า จากนั้นก็มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกันในเรื่องครอบครัวบ้าง เรื่องงานบ้าง แล้วบลูรู้สึกว่า ผู้ชายคนนี้เค้ามีชีวิตที่คล้าย ๆ กับเรา ก็คุยกันถูกคอค่ะ

แล้วความสัมพันธ์พัฒนาไปอย่างไรบ้างหลังจากนั้นคะ

          บลู - เอลิกา : ก็หลังจากที่เราได้พูดคุยกันในเรื่องต่าง ๆ มาเรื่อย ๆ ก็รู้สึกดีค่ะ ต่างคนต่างก็รู้สึกดี ๆ ต่อกัน จนมีโอกาสได้ไปทานข้าวด้วยกัน ไปเที่ยว ดูหนังด้วยกันเรื่อย ๆ จนความสัมพันธ์มันก็ค่อย ๆ พัฒนาขึ้นไปเรื่อย ๆ ตามลำดับน่ะค่ะ อีกอย่างด้วยความที่เรารู้สึกดีกับเค้าตั้งแต่แรกแล้ว ความสัมพันธ์มันก็งอกเงยจนกลายเป็นความรักในที่สุดค่ะ ซึ่งบลูเองก็คิดว่ามันเป็นความรู้สึกที่ค่อนข้างเร็วมากเลยนะ

          บลู - เอลิกา : เราสองคนรักกันเร็วมาก พอมาลองคิด ๆ ดูแล้ว เราทั้งสองคนก็ไม่ใช่คนที่รักใครได้ง่าย ๆ เลยแต่พอเรามาเจอกัน ความรักมันเกิดขึ้นเร็วมาก ๆ เราสองคนบอกรักกันเร็วมาก แล้วพี่ตี๋ก็ขอบลูแต่งงานเลย ซึ่งจริง ๆ จะบอกว่าที่ผ่านมาบลูเองก็ยังไม่เคยเจอใครที่เราคิดว่าจะแต่งงานด้วย แต่พอเราสองคนโคจรมาเจอกัน พี่ตี๋ขอบลูแต่งงาน เราก็เลยตกลงทันทีเลย เพราะรู้สึกว่าเออ...อยากแต่งงานกับผู้ชายคนนี้เหมือนกันค่ะ (ยิ้ม)

แล้วคิดว่าอะไรที่ทำให้ทั้งคู่รักกันได้อย่างรวดเร็วแบบนี้คะ

          บลู - เอลิกา : บลูคิดว่าสิ่งแรกเลยคือเรามีความเชื่อเดียวกัน เราเชื่อในพระเจ้าเหมือนกัน ทำให้เราพูดคุยไปในทางเดียวกัน ทุก ๆ วันอาทิตย์เราก็จะไปโบสถ์ด้วยกัน ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน แล้วการใช้ชีวิตของเรามันก็คล้าย ๆ กัน คือบลูกับพี่ตี๋เป็นเหมือนคนสองคนที่คลิกกันอ่ะค่ะ มันเข้ากันได้ ทุกอย่างมันลงตัวค่ะ ตอนวันเกิดบลู เราก็อธิษฐานกับพระเจ้าว่า เราขอของขวัญวันเกิดปีนี้เป็นคู่ชีวิตนะ (ยิ้ม) เพราะบลูเองรู้สึกว่าตัวเองอยากเจอแล้ว เราเองก็ทำงานมานานแล้ว เรารู้สึกว่าเราอยากมีครอบครัวแล้ว พร้อมที่จะมีชีวิตคู่แล้ว คือบางคนอาจจะมองว่ายังอายุน้อยอยู่เลยทำไมถึงอยากมีครอบครัว แต่บลูคิดว่าคนเรามีความฝันต่างกัน บางคนอาจจะฝันว่าอยากประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานแบบนั้นแบบนี้ หรือฝันอะไรต่าง ๆ นานา

          บลู - เอลิกา : แต่สำหรับบลูเองเราก็มีความฝันว่าเราอยากมีครอบครัวที่น่ารัก อบอุ่น อยากมีลูกน่ารัก ๆ ประมาณนั้น บลูก็เลยอธิษฐานกับพระเจ้าในวันเกิด แล้วบลูก็ได้เจอพี่ตี๋ในวันเกิดของบลู แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดว่าเค้าเป็นคนที่เราอธิษฐานขอ พอเรารู้จักกันได้ประมาณ 2-3 อาทิตย์ เราก็เริ่มรู้สึกว่าเค้ามีอะไรหลาย ๆ อย่างที่เราชอบ แล้วบังเอิญว่าต่างคนต่างก็ถูกใจกัน พี่ตี๋ก็คือสเปกของบลู แล้วบลูเองก็ตรงสเปกเค้า (ยิ้ม) คือ บลูชอบผู้ชายที่รักครอบครัว ชอบคนทำงาน ชอบคนที่โตกว่าเราสามารถสอนเราได้ แล้วพี่ตี๋เค้าก็เป็นคนอย่างที่เราต้องการ อีกอย่างเค้าก็คอยดูแลเอาใจใส่เรา จนความสัมพันธ์มันพัฒนาไปเรื่อย ๆ แล้วหลาย ๆ อย่างในตัวของเค้าและเราก็คลิกซึ่งกันและกันอ่ะค่ะ

เอลิกา - ธัญร์นากร พลอยอัมพร

เอลิกา - ธัญร์นากร พลอยอัมพร

แล้วคิดว่าส่วนผสมที่ลงตัวของทั้งสองคนคืออะไรคะ

          บลู - เอลิกา : บลูคิดว่าอันดับแรกเลยน่าจะเป็นความชอบ ซึ่งเราชอบอะไรเหมือน ๆ กัน เราเป็นคนง่าย ๆ เหมือนกัน ทานง่าย ๆ อยู่ง่าย ๆ ไม่ต้องหรูหราอะไร เรื่องกินเป็นเรื่องที่เราชอบเหมือนกันมาก ๆ (หัวเราะ) แล้วยังมีเรื่องกีฬาที่เราชอบเหมือนกัน ชอบกีฬาฟุตบอลเหมือนกัน ก็จะมานั่งดูบอล เชียร์บอลด้วยกัน แล้วก็ชอบดูหนังเหมือนกัน ชอบท่องเที่ยวเหมือนกัน ซึ่งท่องเที่ยวเป็นอะไรที่เราชอบมาก ๆ เรียกได้ว่าไลฟ์สไตล์ของเราสองคนเหมือนกันอ่ะค่ะ มันเลยเป็นอะไรที่ลงตัวสุด ๆ

ความรู้สึกตอนที่ถูกขอแต่งงานเป็นอย่างไรบ้าง

          บลู - เอลิกา : ตอนเค้าขอแต่งงานยังไม่ค่อยช็อกเท่าไหร่ ก็รู้สึกดีใจธรรมดา เพราะในชีวิตเราก็ยังไม่เคยโดนขอแต่งงาน แต่ก็ทำอะไรไม่ถูกนะตอนนั้น แล้วพอผ่านไป 2-3 วัน เราก็เพิ่งจะรู้สึกตื่นเต้น ก็จะคิด ๆ ว่าเอ้ย...นี่เราตอบตกลงแต่งงานเลยเหรอ แล้วมันจะเป็นอย่างไร ชีวิตเราจะเป็นอย่างไรต่อไป พอคิดแบบนั้นก็เริ่มรู้สึกตกใจ กังวล ตื่นเต้นทุก ๆ อย่างค่ะ

แล้ววิธีที่คุณตี๋ขอแต่งงาน ซึ่งทำให้คุณบลูตกลงทันทีนั้นเป็นอย่างไร

          บลู - เอลิกา : จริง ๆ ใคร ๆ ก็ต้องคิดว่าการขอแต่งงานมันต้องโรแมนติกนะ บลูเองก็ยังถามเค้าเลยว่าทำไมตอนขอบลูแต่งงานไม่คุกเข่าขอแต่งงานเหมือนในหนังล่ะ เพราะการขอแต่งงานของพี่ตี๋เป็นอะไรที่ราบเรียบมากค่ะ คือ เราก็นั่งทานข้าว คุยกันปกติ แล้ววันนั้นเพื่อนก็อยู่ด้วยนะ แล้วพี่ตี๋ก็ถามว่า บลูมองอนาคตตัวเองไว้อย่างไร อยากมีครอบครัวหรือเปล่า อยากมีลูกไหม เค้าก็ปูทางไปเรื่อย ๆ พอเราตอบคำถามที่เค้าถามไปแล้ว เค้าก็ขอแต่งงานเลย เค้าบอกว่าแต่งงานกับพี่ตี๋นะ...บลูก็ฮะ...อะไรนะ โอเค ๆ ๆ ๆ (ยิ้ม) หลังจากนั้นก็ยิ้มกันอย่างเดียว ไม่ได้พูดอะไรกันเลยค่ะ ก็ดีใจแฮปปี้ดีค่ะ

พอรู้ว่าตัวเองต้องแต่งงาน มีการเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง

          บลู - เอลิกา : ต้องบอกว่าเยอะมากค่ะ เพราะตอนที่เราจะแต่งงานกัน ผู้ใหญ่ก็ยังไม่รู้ ทั้งพ่อแม่ คุณยาย พี่ตี๋ยังต้องผ่านหลายด่าน คือแม้ว่าบลูจะตกลงแล้วก็ใช่ว่าจะราบรื่น ต้องผ่านอีกหลายด่านโดยเฉพาะคุณยาย ซึ่งเป็นเหมือนเจ้าตระกูลประมาณนั้น เราสองคนก็เลยอธิษฐานกับพระเจ้าขอให้ทุกอย่างราบรื่นนะ ให้ผู้ใหญ่โอเค แต่ถ้าผู้ใหญ่ไม่โอเคเราก็จะเชื่อฟังผู้ใหญ่นะ

          บลู - เอลิกา : หลังจากนั้นเราก็เริ่มตั้งแต่เดินทางไปจันทบุรี ไปบอกพ่อกับแม่ว่าจะแต่งงาน พ่อแม่ก็โอเคค่ะ พอบอกคุณยาย ท่านก็น่ารักมาก ให้เราแต่งงาน เราก็เลยรู้สึกว่าเราคงเป็นคู่กันจริง ๆ (ยิ้ม) ส่วนในเรื่องของการเตรียมงาน บอกเลยว่าเหนื่อยมาก ๆ เพราะเราจัดงานด้วยตัวเองทั้งหมด แต่ก็ดีที่มีพี่ ๆ ที่โบสถ์มาช่วยกัน แล้วงานออกมาก็รู้สึกดี เป็นงานแต่งงานที่เราชอบ เป็นบรรยากาศที่รู้สึกอบอุ่นค่ะ




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

 ติดตามบทความทั้งหมดในฉบับที่ 251


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รักลงตัวของ เอลิกา-ธัญร์นากร พลอยอัมพร อัปเดตล่าสุด 15 กันยายน 2553 เวลา 16:47:54
TOP