x close

เสนาลิง-มด อารดา ชีวิตคู่ที่ต้องปรับและยอมรับ

เสนาลิง มด อารดา น้องนกยูง

ชีวิตคู่ที่ต้องปรับความรักที่ต้อง (การ) ยอมรับ (ภาพยนตร์บันเทิง)
เรื่อง : เสาวรส
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Instagram sena_ling

          ความรักและความเข้าใจคือพื้นฐานของคน 2 คนที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน เพราะพื้นฐานของทั้ง 2 คนมีความแตกต่างกัน และเมื่อต้องมาร่วมชีวิตคู่กัน ก็ต้องมีการปรับตัวเข้าหากัน เพื่อให้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันอย่างราบรื่นและมีความสุข เช่นเดียวกับชีวิตรักของนักแสดงและพิธีกรหนุ่มอารมณ์ดี "ลิง" สมเกียรติ จันทร์พราหมณ์ กับภรรยาสาวสวย "มด" อารดา จันทร์พราหมณ์ เริ่มตั้งแต่คนหาเป็นแฟนจนแต่งงานและมีลูกสาวแล้วคือ "น้องนกยูง" ด.ญ.โมลีดา วัย 2 ขวบกว่า การใช้ชีวิตคู่ก็ยังต้องมีการปรับการจูนกันอยู่ตลอดเวลา

          ลิง : ทุกวันนี้ผมกับมดก็ต้องจูนกันอยู่ เพราะชีวิตคู่จริง ๆ แล้วต้องปรับต้องจูนกันทุกวัน วันไหนหยุดปรับแสดงว่าชีวิตคู่จบ เพราะวันนี้เราไม่รู้ว่าอีกคนอารมณ์เสียมั้ย วันนี้อารมณ์ดีหรือเปล่า ยังไงก็ต้องคอยดูและปรับตลอดเวลา ถึงแม้เราจะรู้นิสัยของเขา แต่บางอย่างก็ต้องคอยปรับตัวตามอารมณ์

          มด : คือมันจะมีสถานการณ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นทุกวัน ช่วงนี้เราทำอะไรกัน ช่วงนี้เราเริ่มทำรีสอร์ตกันก็มาทะเลาะกันเรื่องทัศนคติ ถึงแม้เราจะคุยกัน ง่าย ๆ ยอมกันบ้าง แต่บางทีก็ไม่นะ

          ลิง :ไม่ยอม ๆ สมมติอันนี้จะเอาสีแดงอันนี้จะเอาสีเขียวก็แบบไม่ยอมกัน อันนี้ต้องดีกว่าอันนี้ดีกว่า



ส่วนใหญ่จะทะเลาะกันเรื่องทำงาน

          ลิง : ก็มีเรื่องอื่นด้วย จะเลี้ยวขวาหรือตรงไป เรื่องเล็ก ๆ ก็ทำให้ทะเลาะกันได้ พอทะเลาะกันเสร็จด้วยความฉลาดของเราทั้งคู่จะรู้เองว่าใครผิดหรือใครถูก อีกสักพักถ้าเป็นผมผิดก็จะขอโทษได้เร็วขึ้น แต่ถ้าเป็นมดก็จะช้าหน่อย

          มด : คือมดจะรู้สึกว่ามดไม่ผิด จริง ๆ ผิดหรือเปล่าไม่รู้แต่คิดว่าไม่ เราไม่ผิด ก็เลยอาจจะช้าหน่อย ผิดก็ได้ขอโทษก็ได้

ภรรยาเป็นคนค่อนข้างเอาแต่ใจไม่ยอมและอารมณ์ร้อน

          ลิง : โดยรวมพฤติกรรมของเขาเป็นอย่างนั้นมาแต่แรก ซึ่งเราก็ต้องรู้อยู่แล้ว แต่ตอนแรกผมไม่ยอม เพราะยังไม่ได้เป็นสามีภรรยา แต่พอเป็นแล้วเราไม่อยากให้มีปัญหา เพราะเราต้องเจอกันตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งเยอะกว่าตอนเป็นแฟน

          มด : สงสัยพี่ลิงไม่อยากทะเลาะมั้งคะ

          ลิง : หลัง ๆ พอทะเลาะกันเยอะ เรื่องทำงานรีสอร์ตหรือแม้แต่มดขายยาดม ซึ่งต้องทำลุกส์แบบใหม่หรือขายที่ไหนจะเจ๋ง เหมือนเถียงกันไปเถียงกันมา สุดท้ายเถียงกันเยอะเกิน และบางทีเถียงกันในเรื่องที่ไม่ควรเถียง แค่เรื่องนิดหน่อยแต่อันนี้ด้วยนิสัยเขาที่เป็นเด็กเอาแต่ใจ

          มด : พี่ลิงก็เป็นเหมือนกัน (มดสวนกลับทันที) ถ้าเขาคิดว่าเขาถูกจะต้องถูก แม้เขาผิดก็ต้องถูก พี่ลิงเป็นคนที่แบบถ้าเขาคิดว่าเขาถูกแล้ว เขามีเหตุผลให้ตัวเองชนะ ไม่ยอมแพ้ เหมือนกัน

          ลิง : ผมมีความคิดด้วยหลักและเหตุผล เราไม่ได้ใช้อารมณ์โมโห แต่เขาใช้อารมณ์ แล้วเราโตกว่าเรามีธรรมะมากกว่า เราก็เลยสรตะได้เร็วขึ้น

          มด : ไม่ค่ะ คือบางทีมดก็แบบพี่ลิงเลิกใช้หลักการได้ไหม หลักการเยอะไปไหม บางอย่างไม่ต้องหลักการก็ได้ปล่อยให้มันเป็นไป ไม่เห็นต้องไปหลักการอะไรเลย

น้องนกยูง มด อารดา

แต่ส่วนใหญ่เท่าที่เคยได้ยินมา ผู้ชายตอนเป็นแฟนมักจะยอมแต่พอแต่งงานแล้วกลับไม่ค่อยยอมนะ

          ลิง :
คือพอทะเลาะหรือเถียงอะไรกันมาก ๆ จนสุดท้ายเริ่มรู้สึกว่าคุยเลย เอางี้ดีกว่า ไม่ไหวแล้วมดพี่เบื่อพี่เหนื่อยมากแล้วกับการต้องมาเถียงอะไรอย่างนี้ ถ้าอยากทำอะไรก็ชนะไปแล้วกัน เราไม่เถียงแล้วเหนื่อย เราไม่อยากทำเหนื่อยจริง ๆ โอ้ย...และไม่ได้มีความสุขการทะเลาะกันจิตใจคุกรุ่นตลอดเวลา ผมพยายามทำคือทำไงก็ได้ ทะเลาะกันไปเรื่อยเดี๋ยวก็ทะเลาะ ๆ โน่นนี่ เรื่องเลี้ยวซ้ายหรือตรงไปก็ทะเลาะ ซึ่งเรารู้สึกว่าไม่ได้เรื่องใหญ่ ไม่ได้เรื่องเออ...ถ้าเราไปมีคนอื่น มีเมียน้อยน่าทะเลาะ แต่อันนี้ไม่น่าทะเลาะ ผมเลยรู้สึกว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรทะเลาะ

          มด : มดก็รู้นะคะว่าเอาแต่ใจ อารมณ์ขึ้นลงไว พี่ลิงก็จะคอยพูดนี่ขนาดสวดมนต์แล้วนะ ไหว้พระแล้วใช่ไหม ไปไหว้พระเลย แต่บางทีเราไม่ขำนะไม่เล่นได้ไหม เพราะเขาพูดหน้าซีเรียสมาก ไม่ได้แบบล้อเล่นหรือพูดให้เราขำ ก็รู้ว่าตัวเองอารมณ์ร้อน แล้วการใช้ชีวิตสองคนพอมีอะไรที่มาทำด้วยกันเหมือนการระวังให้อีกคนหนึ่ง บางทีเราก็เป็นห่วงพี่ลิงเยอะเกินไปไหม สมมติเราบอกพี่ลิงเรื่องการขับรถ พอเขาไม่ใส่ใจไม่ฟัง เราก็ขึ้นนะ

          ลิง : เหมือนคำโบราณที่เขาว่าห้ามผัวเมียทำงานด้วยกัน แต่เรารู้สึกไม่เป็นไร เราก็ประคองเพราะเราอยากทำด้วยกัน สุดท้ายอาจจะต้องแยกบางอย่างก็ได้ อย่างยาดม มิงกะลด ผมไม่ดูเลย ให้มดทำไป ส่วนรีสอร์ตที่สวนผึ้ง จ.ราชบุรี คือ โมรีดา รีสอร์ต ผมทำเอง ซึ่งเปิดมา 5 เดือนแล้ว

          มด :
แต่ยังไงมดก็ต้องมาช่วยมาดูด้วยเรื่องการเงินเรื่องของทุกอย่างเลย ซึ่งบางทีเราทำงานตกหล่นไปก็จะโมโหตัวเอง

          ลิง : เขาเป็นคนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ดี สุดท้ายเราพยายามปรับและตั้งกติกากัน เวลาทะเลาะกันถ้ามดเริ่มโมโหให้ผมทำเสียงจุ๊จุ๊ (หัวเราะ) ผมก็บอกถ้าเกิดทำแล้วมดไม่ยอมล่ะ เขาก็บอกให้ผมทำเสียงจุ๊ ๆ ๆ ดังขึ้น แต่ก็ไม่เคยสำเร็จสักที ไม่เคยทำเพราะลืม



สามีพยายามให้ภรรยาสวดมนต์เผื่อจะได้ใจเย็นลงบ้าง

          ลิง : ปกติเขาก็สวดมนต์ของเขาอยู่แล้ว แต่พอเขาโมโห ผมก็จะถามนี่สวดมนต์แล้วหรือ ยกระดับจิตใจแล้วใช่ไหม กลับไปสวดมนต์เลยไป

          มด : ก็เพราะมีมารอย่างพี่นี่แหละเลยสวดไม่ได้ (ภรรยาพูดแขวะสามีด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ)

คู่นี้หยอกกันแรงเหมือนกันนะทั้งคำพูดและการกระทำ เพราะระหว่างที่คุยกันเราแอบเห็นสามีเตะภรรยาเบา ๆ ที่ขาด้วย บางครั้งมีโมโหกันไหม

          มด : ถ้าคนอื่นมาได้ยินหรือได้เห็นก็จะตกใจเหมือนกัน แต่เราคุยกันแบบนี้อาจจะเสียงดังไปหน่อย วันก่อนไปตลาดแล้วเราทะเลาะอะไรกันไม่รู้เสียงดัง มดบอกงั้นพี่ก็เลือกไปคนเดียวเลยป่ะ มดก็เดินมา ซึ่งเหตุการณ์ไม่มีอะไร เราไม่ได้โกรธอะไรกันเลย แต่สักพักแม่บ้านที่ไปด้วยกันมาบอกว่า ดูสิ 2 คนนี้ทะเลาะกันใหญ่เลย

          ลิง : ก็มีบ้างบางทีที่มดนี่แหละโมโห แต่ส่วนมากถ้าผมหยอกเขารู้เขาก็จะแค่เถียง

มด : หรือพอเราอารมณ์เย็นก็หาย มดเป็นคนอารมณ์ขึ้นเร็วลงเร็วและไม่เก็บต่อเนื่อง พี่ลิงก็เหมือนกัน พอเหตุการณ์นี้จบเราจะไม่มาย้อนอดีต ไม่มี จบก็คือจบจริง ๆ เราจะไม่แบบเอาเหตุการณ์ครั้งก่อนมาพูดเพราะจำไม่ได้แล้ว



ชีวิตคู่การทะเลาะบางครั้งก็เหมือนเป็นการปรับความเข้าใจ

          ลิง : ใช่ครับ แต่อยู่ที่ว่าปรับแล้วจะดีแค่ไหนระหว่างนั้น บางอันปรับแล้วไม่จบก็ต้องเลยไปเลย

          มด :  มดรู้สึกว่าการทะเลาะกันไม่ได้หมายถึงต้องแตกหักเสมอไป ถ้าเราเข้าใจในเนื้อหา ยอมรับหรืออะไรผ่านไปแล้วจบจริง ๆ ก็คือดี

ชีวิตคู่ใช่ว่าจะมีแต่ขมก็ต้องมีหวานบ้างแหละ

          ลิง : ก็มี แต่ไม่ได้โรแมนติกมากมาย พวกเราไม่ค่อยให้ความสำคัญกับวันอะไรมากมายจนทำให้เราและคนรอบข้างรู้สึกเหนื่อย

          มด : พี่ลิงไม่มีเลยความโรแมนติก

          ลิง : ก็มีนะ (ลิงรีบแก้ต่างให้ตัวเอง) ก็วันลอยกระทงพี่ก็เซอร์ไพรส์เราด้วยการไปหาที่เชียงใหม่ไง จำไม่ได้เหรอ

          มด : นั่นมันนานมากก่อนแต่งงาน 6 ปีได้มั้ง แต่แค่นี้ของเขาก็เยอะแล้ว พอแต่งงานเขาไม่มีเซอร์ไพรส์เลย ชีวิตนี้มดไม่เคยได้ดอกไม้จากผู้ชายคนนี้นอกจากได้จากรายการ

          ลิง : แต่มดมีเซอร์ไพรส์ผมนะ ล่าสุดวันเกิดผม เขาไปซื้อเค้กที่เซเว่นมาให้ผมและเราเป่าเค้กกัน 3 คนพ่อ-แม่-ลูก

อยู่หน้าจอลิงดูเป็นคนเฮฮาเอนเตอร์เทน เวลาอยู่กับครอบครัวล่ะ

          มด : มดว่าเขาไม่ใช่คนตลกค่ะ คือเป็นคนอารมณ์ดีมากกว่า ไม่ได้มาตลกขำกันทุกคำพูด แต่อารมณ์ดีคุยอะไรในสิ่งที่บวก ๆ ๆ ทำให้คนที่สนทนาหรือสถานการณ์ดูบวก แต่เวลาทำงานเขาจะนิ่ง ๆ ของเขาไป

น้องนกยูง โมลีดา

มาคุยเรื่องน้องนกยูงกันบ้าง เห็นว่าลิงทั้งหวงทั้งห่วงและตามใจลูกสาวมาก

          มด : พี่ลิงคือนิสัยเสียมากค่ะ สมมติมดบอกลูกว่าอย่า อย่าทำ แต่พี่ลิงจะแบบโอ๋ลูก มันไม่ได้ เสียการปกครองหมด พี่ลิงตามใจลูกมาก เวลานกยูงอยู่กับพ่อจะทิ้งมดไปเลย อยากได้อะไรเขาไปกระซิบพ่อได้ทุกอย่าง แต่มดไม่ตามใจ หรือเวลาพี่ลิงไปทำงานมดบอกให้พี่ลิงเดินออกจากบ้านเดี๋ยวนี้อย่ามาร่ำลาพิรี้พิไรลูกก็จะร้องไห้ไปอีก ซึ่งจะทำให้ลูกรู้สึกว่าพอเขาร้องพ่อก็จะโอ๋หรือพ่อก็จะกลับมา อะไรอย่างนี้เป็นอย่างนี้จริง ๆ ตลอด หรือบางทีแอบไปกระซิบลูกไม่เป็นไรเนาะเดี๋ยวพ่อพาไป อะไรทำนองนี้ (มดพูดตำหนิสามีด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ) บางทีมดอยากบีบคอพี่ลิงมากเลย เพราะมดโมโหมาก แต่เขาชอบทำให้ลูกแบบเยอะเรื่องขึ้น มดก็เลยบอกทีหลังมาเลี้ยงเองเลยนะ

          ลิง : ก็คนอย่างเธอลูกคงจะรักหรอก ชอบทำให้ลูกเสียน้ำตาตลอดเวลา ส่วนมากผมจะใช้วิธีคุยกับเขาก่อน ผมไม่ชอบให้เด็กร้องไห้ ผมชอบวิธีแบบว่าทำยังไงก็ได้ค่อย ๆ จากไป เขาจะได้ไม่มีอาการอะไรนิดหน่อยก็ร้องไห้ แต่เขาจะเป็นเด็กที่แข็งแกร่ง ซึ่งมันคุยได้ด้วยเหตุและผล

          มด : เหตุผลที่พี่ลิงพูดมามันก็ถูก แต่ลูกเด็กมากไง บางทีเขาไม่เข้าใจเหตุผลหรอก เพราะฉะนั้นมันต้องได้ร้องบ้าง เด็กน่ะพอโดนขัดใจปุ๊บยังไงก็ร้อง เขาไม่มีวันเข้าใจว่าแบบนี้ไม่ได้เพราะอะไร ไม่มีทาง เขาไม่เข้าใจหรอก เขาไม่ยอมรับในสิ่งที่ต้องจากไปอยู่แล้ว ยังไงเขาก็ต้องร้อง

เสนาลิง มด อารดา

ลิงกับมดทะเลาะกันตั้งแต่เป็นแฟนจนแต่งงานยันมีลูก

          ลิง : มันก็มีไปเรื่อย ๆ แหละผมว่า แล้วแต่เหตุการณ์แล้วแต่สถานการณ์ นิสัยหรือเรื่องอะไรทั้งหมด

          มด : คือเราก็รู้ว่าต่างคนนิสัยเป็นยังไง

          ลิง : ผมว่าก็เป็นหลายคู่ เพื่อนผมบางคนตัดปัญหาคือไม่มีลูก หรือถ้าทำงานก็ให้เมียไปทำอย่างอื่นเลย ไม่ต้องมายุ่งกับสิ่งที่เราทำเลย ไม่งั้นจะคุยกันลำบาก เดี๋ยวก็ทะเลาะกัน

ลูกสาวเหมือนใครมากกว่ากันระหว่างพ่อกับแม่

          ลิง : ถ้าเป็นหน้าตาก็คงเหมือนผม ซึ่งเขาบอกลูกสาวเหมือนพ่อจะรุ่งเรือง จะดี

          มด : เขาบอกรุ่งเรืองในที่นี้หมายความว่าลูกสาวก็จะหน้าเข้มหน้าคมขึ้น แต่บางทีถ้าพ่อหน้าตาไม่ดีก็ดูอาภัพป่ะ

          ลิง : ไม่ต้องกลัวหรอกน่ะ เดี๋ยวเราไปเกาหลีได้ ผมว่าเขาก็เหมือนทั้งพ่อและแม่นั่นแหละ เขาพัฒนาการดีนะ เป็นคนมีเล่ห์เหลี่ยมด้วย ห้ามเรียนทูตเด็ดขาด เพราะสามารถแปลให้ลบได้ และมีมุกด้วย ซึ่งเราก็คิดว่าเขาคิดได้ยังไง หรือความทะลึ่งของเขา เดิน ๆ อยู่ดี ๆ ก็เปิดตูดให้ดู แต่เราบอกนกยูงอย่าเปิดตูดมันน่าเกลียด คงจะมีมุกเหมือนพ่อ แต่เหมือนแม่ตรงที่เล่นละครเหมือน แอ็กติ้งเก่งมาก เขาหกล้มหน้ากระแทกพื้น แต่ก็ชูมือโอ้ยเจ็บมากเลย ออเซาะ

น้องนกยูง โมลีดา

ไม่คาดหวังในตัวลูก แต่อยากปลูกฝังให้ลูกมีภูมิคุ้มกัน

          ลิง : ผมอยากปลูกฝังลูกเรื่องศาสนา คืออย่างนี้เราต้องมีชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราต้องมี 3 สิ่งนี้ เด็กจะรู้ว่าต้องมีศีลมีความกตัญญูมีการรู้คุณ แล้วรู้คุณใครล่ะ ก็รู้คุณแผ่นดินที่เราอยู่ เราทำอะไรกว่าเราจะมาได้แบบนี้ เราจะเล่าให้ลูกฟังตลอด เพราะสมัยนี้เด็กรุ่นใหม่แทบไม่รู้จักพระเจ้าอยู่หัวเลย ฉะนั้นเราต้องให้ความรู้กับเขา ไม่งั้นต่อไปเขาจะเรียนในกระดาษ แต่เราให้เขาดูก็จะรู้นี่ในหลวง นี่พระราชินี เขารู้จัก คือเราไม่เหมือนญี่ปุ่น ไม่เหมือนเกาหลี คือ เราไม่รู้จักชาติ เรารู้จักแต่ตัวเองหมายถึงการเอาเปรียบ การเห็นแก่ตัว แต่ถ้าเรารู้จักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราจะรู้จักให้ทานเผื่อแผ่ และรู้จักรู้คุณ ทำเพื่อชาติ ไม่งั้นต่อไปเด็กจะไม่รู้จักทำเพื่อใคร อ๋อ...ทำเพื่อตัวเอง อันนี้ผมเห็นจากรอบข้าง เลยทำให้เราคิดแบบนี้ หรือเรื่องของเทคโนโลยีเขาก็เล่นเป็นนะไอแพด เพราะเขาต้องไปโรงเรียน แล้วเด็กในโรงเรียนเล่นเกมทุกคน ถ้าเราไม่สร้างภุมิคุ้มกันเขาก็จะหลงไป กลับมาต้องมาบอก แต่เราสร้างภูมิให้เขา อย่างทีวีก็ให้เขาดูและให้ปิดเอง บางครั้งเขาบอกอันนี้ไม่ดูนะ

          มด : จริง ๆ เรื่องลูกเราไม่ได้ตีกรอบอะไรในชีวิต หรือพาไปเรียนโน่นนี่นั่นเหมือนพ่อแม่คนอื่น ไม่มีค่ะ แค่มดรู้สึกว่าพอเราอยู่กับเขาเราจะรู้เขาชอบอะไร เราก็คอยส่งเสริมสิ่งที่เขาชอบ เขาเคยเล่นเปียโนจากไอแพดเขาก็อยากเล่นของจริง แต่เขาก็ต้องได้รับการปฏิเสธด้วย ด้วยการพาเขาไปที่ร้านแล้วทางร้านบอกว่า หนูนิ้วเล็กไปเล่นไม่ได้ไม่ถึงแป้น และสมาธิสั้น เรารู้สึกว่าเขากำลังฟังอยู่ และรู้ว่าทำไม่ได้จริง ๆ เราก็บอกให้ลูกกินนมกินข้าวเยอะขึ้นจะได้โตไว ๆ ก็เล่นได้

เสนาลิง มด อารดา

ถึงจะทะเลาะถึงจะมีงอนแต่ก็สามารถประคับประคองชีวิตคู่อยู่ได้เพราะความรักและการยอมรับ

          ลิง : ไม่ว่าเราจะทะเลาะหรืออะไรกันก็ตาม ต้องถามว่ายังรักกันอยู่ไหม ถ้าตอบรักกันอยู่ก็จบ อันนี้ไม่มีประเด็นชู้สาวหรือเลวร้ายมาก ผมว่าไม่สมควรที่จะเลิกรา เมื่อไม่สมควรเลิกรา สุดท้ายก็ประคับประคองด้วยการยอม ความคิดตอนนี้คือปรองดอง เราต้องยอมเพื่อปรองดอง ไม่งั้นไม่มีทาง ถ้ายอมแต่รู้สึกฉันก็ยังเป็นฉันยังไงก็ไม่มีทางเชื่อมกันได้หรอก และอย่างที่บอกชีวิตคู่ต้องปรับกันตลอดเวลา
เพราะวิถีชีวิตของคน 2 คนไม่เหมือนกัน แต่เรามารวมเป็น 1 ก็ลำบากนะ ขนาดพ่อแม่หรือพี่น้องเรายังเถียงกันเลย

          มด : มดว่าถ้าเราคิดจะแต่งงานต้องคิดเลยว่าเขารับเราได้ และเรารับเขาได้จริง ๆ ใช่ไหม เพราะมันคือจุดเริ่มต้น และเราต้องไม่หลอกตัวเอง ไม่ใช่คิดว่าวันหนึ่งต้องดีขึ้น ถ้าเราอยู่กันไปเหตุการณ์จะทำให้เรารักกันมากขึ้น หรือพอใช้ชีวิตด้วยกันก็จะยอมกันไปเอง คือขนาดแค่นี้ยังไม่ยอม แต่งงานไปมดว่ามันมีอะไรเยอะกว่า เพราะฉะนั้นไม่มีทางยอมหรอก เขารู้ไหมว่าเราทำอะไรเป็น หรือได้ไม่ได้แค่ไหนเขารู้ มดไม่ใช่แม่บ้านซึ่งพี่ลิงก็รู้ แต่สุดท้ายเราก็สามารถทำได้เพราะอะไร เพราะเราต้องปรับเปลี่ยนใช่ไหม ซึ่งถ้าเราเปลี่ยนได้ปรับได้ มันคือโบนัส แต่สิ่งสำคัญที่สุดเราต้องยอมรับตั้งแต่ต้นว่าเขาเป็นอย่างนั้นจริง ๆ นะ ต้องยอมรับจริง ๆ นะ และอย่าไปคาดหวังอะไรมากนักในอนาคตว่ามันจะดีขึ้นกว่านี้




ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ปีที่ 38 วันที่ 11-24 กรกฎาคม 2555 Vol.1832

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เสนาลิง-มด อารดา ชีวิตคู่ที่ต้องปรับและยอมรับ อัปเดตล่าสุด 17 กรกฎาคม 2555 เวลา 14:58:26 6,542 อ่าน
TOP