เรื่อง : สุวิมล/ภาพ : Pro Master
เป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับคู่รักคนดังอย่าง คุณขิง ภคอร สิริสุขะ นักแสดงสาว กับ คุณปาล์ม ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร นักการเมืองที่สืบสายมาจาก คุณพ่อปองพล และ คุณปู่ประมาณ อดิเรกสาร ทั้งคู่ได้เข้าสู่ประตูวิวาห์แม้จะใช้เวลาคบหาดูใจกันไม่นาน แต่เพราะความเข้าใจในกันและกัน ทำให้ทั้งคู่มั่นใจว่าจะรักและดูแลกันตลอดไป
Black berry สื่อรักคู่หวานอย่าง คุณขิง และ คุณปาล์ม ทั้งคู่รู้จักกันผ่านการแนะนำของเพื่อน โดยพัฒนาความรู้จักสนิทสนมกันผ่านการพูดคุยทางโทรศัพท์สมาร์ทโฟน Black berry
คุณปาล์ม : ช่วงเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เป็นช่วงน้ำท่วมพอดี ช่วงนั้นผมโสด เลยถามเพื่อนว่ามีเพื่อนแนะนำให้รู้จักไหม เขาก็แนะนำให้รู้จักกับขิง โดยให้พิน Black berry ของขิงมา ผมก็ถามเพื่อนว่าจะดีเหรอเจ้าตัวเขารู้หรือยัง
คุณขิง : ตอนนั้นเพื่อนโทรศัพท์มาถามก่อนว่าจะแนะนำพี่คนนึงให้รู้จัก บอกว่านิสัยดี โสด อยากให้ลองคุย เราก็โสดเหมือนกัน คิดว่าลองคุยดูก็ได้ ก็เลยให้พินไป ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องมาเป็นแฟนกัน มันเป็นโอกาสที่เราจะได้รู้จักคนเพิ่ม
คุณปาล์มเริ่มส่งข้อความพูดคุยกับคุณขิงในเรื่องทั่ว ๆ ไป จากภาพที่เห็นในโทรศัพท์ คุณปาล์มคิดว่าคุณขิงน่าจะเป็นคนสบาย ๆ สดใส ร่าเริง แต่ก็คิดว่าภาพสวย ๆ อาจหลอกตา และหากมีโอกาสก็อยากจะพบตัวจริง ต่อมาจึงมีการนัดทานข้าว ทำให้ทั้งคู่ได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรก
คุณขิง : ตอนนั้นไม่ใช่การนัดเดท แต่ตั้งใจจะชวนเพื่อนไปทานข้าวพร้อมกัน แต่เพื่อนเราเลื่อนมาหลายครั้ง เราก็เลยกลายเป็นไปทานข้าวกันสองคน ก็มีเขินนิดหน่อย เราตั้งใจไปทานข้าว ไม่ได้คิดว่าคนนี้จะต้องมาจีบ เพราะยิ่งคิดแบบนั้นจะยิ่งเขิน และเราได้คุยกันมาก่อน เลยไม่เหมือนการจู่โจมเข้ามาจีบ เป็นเหมือนพี่มากกว่า
คุณปาล์ม : มีเขินบ้าง เราคุยกันเรื่องงาน ชีวิต เรียนที่ไหนจบอะไรมา
ความรักนำทางหลังการนัดทานอาหารครั้งแรก ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก เนื่องจากทั้งสองยังวุ่นวายอยู่กับภารกิจส่วนตัว รวมถึงการกลับเข้าไปดูแลบ้านหลังน้ำลด แต่เพราะความรู้สึกดีที่มีให้แก่กันทำให้ต่อมาทั้งสองได้กลับมาพูดคุยกันอีกครั้งอย่างจริงจัง
คุณปาล์ม : ตอนนั้นยังไม่มีอะไรชัดเจน เราก็แชทกันบ้าง ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง ช่วงนั้นผมเองก็งานยุ่ง และพอหลังน้ำท่วมก็ต้องเข้าไปดูสภาพบ้านที่เสียหาย เลยต่างคนต่างยุ่ง รวมทั้งผมยังจะบวชอีก ซึ่งต้องให้ความสำคัญกับการเตรียมตัวบวช พอบวชผมก็ต้องสำรวม ตอนนั้นเขาก็ไปเยี่ยมผมที่วัด ไปถวายเพล ถวายสังฆทาน
คุณขิง : ตอนนั้นเราเข้าใจดี ไม่ได้คิดว่าเขาหายไปไหน รวมทั้งเราก็เป็นคนชอบทำบุญอยู่แล้ว ถ้ามีเวลาว่างก็ไปทำบุญ พาคุณแม่ไปด้วย ความสัมพันธ์ของเราเริ่มพัฒนามากขึ้นหลังช่วงบวชไปแล้ว
หลังคุณปาล์มลาสิกขาบท ความรักของทั้งคู่จึงค่อย ๆ พัฒนาขึ้นด้วยความเข้าใจ และกลายเป็นความรักที่กำลังพอเหมาะพอดี
คุณปาล์ม : หลังบวชผมได้ข้อคิดมากมาย เราควรอยู่กับความพอดี เราควรพอใจในสิ่งที่เรามี ในสังคมมีผู้หญิงเยอะแยะ แต่ตอนนี้เมื่อเราพบขิงผมก็อยากจะศึกษาเขาให้ดีที่สุด คนเราทุกคนไม่มีใครสมบูรณ์ ทุกคนมีจุดอ่อน แต่ผมมองในสิ่งที่ดีในกันและกัน เราไม่ได้มองจุดด้อยเขาไม่งอน ไม่งอแง โต มีความคิด อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ปรึกษาหารือกันทุกเรื่อง คนเราคบกันก็ต้องเป็นคู่คิดที่ดีด้วย แชร์ความรู้สึกกันได้ คิดว่าเขาลงตัว
คุณขิง : ตอนนั้นเราก็ยังดู ๆ ไป ยังไม่ได้จริงจังทีเดียว แต่จังหวะที่เราเจอเขาเป็นจังหวะที่ดี ตอนเขาบวชก็สอนแง่คิดให้เรา ให้หลักในการดำเนินชีวิต ทำให้เราคิดและหยุด บางทีชีวิตไม่ควรปล่อยให้ผ่านไปแบบเล่น ๆ กันไปวัน ๆ เท่านั้น เขาเองก็เป็นคนดีน่ารัก เจอทุกครั้งก็อยากเจอ มีความสุข ไม่ได้รู้สึกว่าเหมือนโดนบังคับให้ไปเจอ ไลฟ์สไตล์เหมือน ๆ กัน อย่างเรื่องผู้หญิงตอนแรก ๆ เราก็ระแวงบ้าง แต่เขาน่ารัก เวลาไปไหนจะถ่ายรูปมาบอกว่าไปทำอะไร เปิดเผย โปร่งใส ทำให้เราไม่ต้องกังวล เขาเป็นผู้ใหญ่ เวลาทำอะไรมีเหตุผล ใจเย็น บางทีเรามีอารมณ์เด็ก หงุดหงิด เขาจะคอยเบรกทำให้เราใจเย็นขึ้น เวลาเขาสอนเราก็จะเกรงใจ เป็นทั้งแฟน ทั้งพี่ และทั้งพ่อ
ลงตัว... ลงล็อคนับระยะเวลาในการศึกษาดูใจกันของทั้งคู่ไม่เกิน 1 ปี แต่เพราะความลงตัวในความรู้สึกที่มีให้แก่กัน ทำให้ทั้งสองตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน โดยงานแต่งงานจัดขึ้นในเดือนธันวาคม
คุณปาล์ม : บางคนมองว่าทำไมไม่ทำความรู้จักกันนาน ๆ สัก 3 ปี 5 ปี ผมคิดว่าเรื่องเวลาไม่ใช่ประเด็น ผมไม่ได้มองว่าระยะเวลายาวนานจะทำให้ความรักสดใสหรืองอกงาม แต่มันอยู่ที่ความเข้าใจกัน คบกันแล้วสบายใจไหม มีความสุขไหม เราพอใจในสิ่งที่เรามีไหม เรื่องแต่งงานผมพูดกับเขาเสมอตั้งแต่คบกันแรก ๆ ว่าจะมีลูกกี่คนแต่งงานปีไหนดี คุยไปก่อนทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าเขาจะตกลงหรือเปล่า ผมว่าของแบบนี้ไม่ต้องแสดงออกมากมาย แค่เป็นตัวของเราเองดีกว่า เราก็ปล่อยไปเป็นขั้นตอน พอถึงเวลาก็คุยเรื่องอนาคตชอบเด็กผู้หญิงหรือผู้ชาย อยากไปฮันนีมูนที่ไหน
คุณขิง : แรก ๆ ก็บอกว่าไม่เป็นไรค่ะ เราไม่รีบ เพราะเรายังเด็กอยู่ แต่เขาบอกว่าถ้าคิดว่าใช่แล้วจะต้องรออะไร เขาจะคอยบอกเราตลอด เขาจะค่อย ๆ กล่อมไปจนมุมมองเราเปลี่ยน
คุณปาล์ม : ชีวิตการแต่งงานเหมือนการออกผจญภัยไปด้วยกัน คุณต้องรีบเพราะมันมีระยะเวลา แต่งสักอายุ 40 ก็ได้ แต่เราก็ได้ใช้ชีวิตร่วมกันน้อยลง คนเราไม่ได้อยู่กันเป็น 100 ปี คนเราแต่งงานกันก็อยากจะอยู่กันวันสุดท้าย ถ้ามีความสุข เราพร้อมก็แต่งเลย อะไรมันก็ไม่แน่นอน เราจะรออะไร
เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างลงตัวทั้งสองจึงตั้งใจจะสร้างครอบครัวองตนเอง โดยใช้ความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้แก่กันมาเป็นรากฐานสำคัญในอนาคต
คุณปาล์ม ยังได้ฝากข้อคิดไว้ด้วยว่า ความรักเป็นเรื่องของคนสองคนที่เราควรเข้าใจ ผมยึดหลักเราต้องให้เกียรติ ไว้วางใจ มีอะไรต้องคุยกันด้วยเหตุผล อย่าใช้อารมณ์ ความรักเป็นสิ่งที่ทำให้โลกสดใส ถ้ามีความรักกันทุกคนก็มีความสุข แต่เราต้องรู้จักดูแลมันให้สดเสมอ เหมือนดอกไม้ต้องพรมน้ำตลอดเวลา ไม่ให้แห้งเหี่ยว อย่างเราใช้ความเข้าใจ สบายใจ พยายามให้อิสระทางความคิด การใช้ชีวิตประจำวัน เพราะต่างคนต่างมีสังคมมีเพื่อนฝูงของตัวเอง
ด้านคุณขิง บอกว่า ไม่ว่าคู่ไหนที่กำลังจะแต่งงาน มันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตคู่เท่านั้น คนเราคบกันมันต้องมีทั้งการให้อภัย ให้โอกาส ให้ความห่วงใย ให้เกียรติ ถ้าเราอยู่ด้วยกันและมีความซื่อสัตย์ก็จะไม่เกิดปัญหา
ความรักที่ไม่ต้องมีการกำหนดถึงระยะเวลาในการดูใจ ความรักที่ใช้เพียงความเข้าใจและความลงตัวที่พอดี จึงทำให้คู่รักคู่นี้หวานน่ารักและเหมาะสมกันอย่างยิ่ง
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
ISSUE 56
