x close

เรื่องราวของงานแต่ง ที่อยากบอกให้คู่บ่าวสาวรู้เอาไว้

วางแผนแต่งงาน



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ก่อนงานแต่งจะเริ่มขึ้นทั้งเจ้าสาวและเจ้าบ่าวต่างก็มีเรื่องราวมากมายให้จัดการ ตั้งแต่การเลือกสรรวันที่ฤกษ์งานยามดี จัดจ้างออแกไนเซอร์กับผู้ช่วยที่จะมาดูแลงาน ตลอดไปจนถึงแจ้งข่าวดีให้กับแขกเหรื่อทั้งหลาย ซึ่งถึงแม้หลายคู่จะพยายามระมัดระวังและทำตามทุกขั้นตอนอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่วายเกิดความผิดพลาดขึ้นมาจนได้ ดังนั้น กระปุกเวดดิ้งจึงไม่อยากจะให้เจ้าสาวคนอื่น ๆ เสียใจหรือหงุดหงิดกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ในวันนี้ขอนำวิธีเตรียมตัวสำหรับเจ้าบ่าวเจ้าสาวมาบอกกันก่อนล่วงหน้า

       1. นัดแนะกับช่างภาพ

          เมื่อถึงเวลาจริงภายในงานแต่งนั้นค่อนข้างวุ่นวายพอสมควร อีกทั้งคู่บ่าวสาวยังเดินไปโน่นมานี่บ่อย ๆ น้อยครั้งนักที่จะได้ยืนอยู่กับที่ เพื่อต้อนรับแขกและจัดการภารกิจมากมาย ภาพที่ออกมาอาจไม่ได้ดั่งใจเท่าที่ต้องการ เพราะฉะนั้น ควรให้ช่างภาพแนะนำตำแหน่งยืน หรือมุมเหมาะ ๆ ด้วย ไม่ว่าจะบริเวณหน้างาน ระหว่างทางเดิน รวมไปถึงจุดบนเวที หรือถ่ายในช่วงเวลาว่างก่อนงานจะเริ่ม ถ้าหากไม่เตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าอาจจะเห็นเจ้าสาวหน้าเหวอกับเจ้าบ่าวแบบเบลอ ๆ ก็ได้

       2. ทำตามที่ใจต้องการ

          ไม่ว่าใครอยากจะจัดงานแต่งในสถานที่สวย ๆ กันทั้งนั้น อย่างเช่น ริมทะเล โรงแรมหรู หรือรีสอร์ทสวย ๆ ซึ่งหลายคนมักจะกลัวว่าสถานที่ที่ตนชื่นชอบนั้นจะคิดราคาค่าจัดงานสูงและงบประมาณที่มีอยู่คงไม่เพียงพอ เลยพากันตัดใจไปเลือกที่อื่นแทน ทั้งที่ความจริง ๆ แล้วอาจจะถูกและให้บริการดีกว่าที่คิดเอาไว้ก็ได้ ถ้าหากโทรไปถามข้อมูลเพื่อนำมาเปรียบเทียบคงไม่เสียหายอะไร ที่สำคัญจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง

       3. หาผู้ช่วยเอาไว้ก่อน

          อย่างที่รู้ ๆ กันว่างานแต่งงานมีรายละเอียดยิบย่อยค่อนข้างเยอะพอสมควร หากคำนวณดูเวลาแล้วไม่สามารถจะจัดการทั้งหมดด้วยตัวเองได้ ก็ควรหาคนอื่นมาช่วยจัดการเรื่องต่าง ๆ แทนที่จะเป็นออแกไนเซอร์หรือใครก็ได้ เพื่อทำการนัดแนะจัดคิวและเวลาสำหรับติดต่อประสานงานให้กับเรา อีกทั้งยังเป็นเหมือนเพื่อนช่วยคิดในการตัดสินใจเลือกเรื่องต่าง ๆ ในกรณีที่อีกฝ่ายติดธุระด้วย

วางแผนแต่งงาน

       4. ทำเช็กลิสต์ชื่อของที่ต้องใช้

          นอกจากจะนัดแนะคิวกับฝ่ายต่าง ๆ แล้วควรจะทำเช็กลิสต์สิ่งของที่จำเป็นต้องใช้สำหรับงานแต่งด้วย โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ลิสต์รายการของที่ต้องซื้อ กับลิสต์สำหรับตรวจเช็กอุปกรณ์สิ่งของเมื่อต้องเคลื่อนย้ายไปมา เพื่อป้องกันการสูญหาย และทำเพื่อความแน่ใจว่าเมื่อถึงพิธีแต่งงานไม่มีสิ่งของใด ๆ ที่จำเป็นตกหล่นไป

       5. ให้ความสำคัญกับอาหาร

          อาหารถือเป็นหลักสำคัญในการจัดงาน เพราะฉะนั้น แต่ละเมนูที่เลือกมาควรจะใส่ใจและพิถีพิถันให้มาก โดยเฉพาะตอนชิมรสชาติของอาหารแต่ละจานก่อนจะตัดสินใจ โดยตัดสินด้วยความรู้สึกทั้งรสชาติ และสัมผัสต่าง ๆ พร้อมกันนี้ควรจะคำนึงถึงชนิดของอาหารด้วย ว่าแขกที่เชิญมานั้นจะทานได้หรือไม่ สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างไรบ้าง เพื่อให้ทุกคนสนุกกับการทานอาหารมากยิ่งขึ้น

       6. ไม่ควรกังวลมากเกินไป

          ยิ่งใกล้ถึงวันงานมากเท่าไหร่ทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต่างตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งบางคนอาจจะคิดเลยเถิดไปถึงเรื่องร้ายที่มีแต่จะทำให้ตัวเองเครียดมากขึ้นเป็นเท่าตัว ทั้งที่จริงแล้วควรจะเป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลายเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม และปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติไม่ต้องกังวลไปล่วงหน้าหรือคิดมากจนเกินไป เอาไปเติมสวยแต่งหล่อเข้าสปาคอร์สทำหน้าให้สวยปิ๊งกันดีกว่า


          เรื่องที่เราหยิบยกมาบางเรื่องอาจจะดูไม่สำคัญหรือเป็นจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ถ้าหากขาดตกบกพร่องไปก็มีส่วนทำให้งานแต่งกร่อยไปได้เหมือนกัน อีกทั้งอาจจะเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมามากกว่าคิด อย่างไรก็ตาม หาทางป้องกันเอาไว้ก่อนล่วงหน้าน่าจะเป็นวิธีที่ดีกว่า หรือเก็บเอาไว้เป็นประสบการณ์ไปบอกต่อให้คู่อื่น ๆ ก็ได้นะ





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เรื่องราวของงานแต่ง ที่อยากบอกให้คู่บ่าวสาวรู้เอาไว้ อัปเดตล่าสุด 28 เมษายน 2556 เวลา 18:24:12
TOP