เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ไม่ว่ามองไปทางไหนก็เห็นข่าวเกี่ยวกับการแต่งงานเต็มไปหมด ทั้งเซเลบฯ คนดัง เพื่อน หรือญาติ ๆ ที่ต่างก็สละโสดกันไปทีละคนสองคน แถมบางคู่ก็ถึงขั้นมีลูกกันแล้ว คงทำให้สาวโสดที่เหลืออยู่อยากจะเปลี่ยนสถานะเป็นเจ้าสาวบ้าง แต่ทว่าไม่กล้าพูดกับคนรักตรง ๆ เพราะกลัวคนข้างกายจะอึดอัดจนหนีเตลิดเปิดเปิงไปเสียก่อน ดังนั้น ในวันนี้เราขอนำทริคสำหรับสาว ๆ ที่อยากจะแต่งงานมาฝากกัน
1. หยั่งเชิงด้วยเรื่องอนาคตในวันที่เขากำลังอารมณ์ดีลองเปลี่ยนจากหัวข้อพูดคุยทั่ว ๆ ไปมาโฟกัสที่เรื่องอนาคตกันดูบ้าง ว่าอีกฝ่ายวางแผนเกี่ยวกับชีวิตของตัวเองเอาไว้อย่างไร ทั้งการงานและส่วนตัว อย่างเช่น เรื่องซื้อบ้านใหม่ หรือถามความเห็นเรื่องเด็ก ๆ เพื่อเป็นการหยั่งเชิงว่าเขาพร้อมจะดูแลและรู้สึกแบบเดียวกับเราหรือเปล่า ในขณะเดียวกันยังเป็นการส่งสัญญาณให้เขารู้ตัวด้วยว่า ตอนนี้พร้อมจะสวมแหวนแต่งงานแล้ว
2. ช่วยคุยเรื่องงานแต่งในฝันเวลาที่เจอข่าวหรือเรื่องที่เกี่ยวกับการแต่งงานก็สามารถนำมาเป็นประเด็นในการพูดคุยได้เหมือนกัน แล้วตามด้วยเล่ารายละเอียดเรื่องงานแต่งในฝันของตัวเอง อาจจะเริ่มจากธีมของงาน สไตล์แหวนที่ชอบ หรือดีไซน์ชุดเจ้าสาว จากนั้นก็ค่อยเปลี่ยนไปถามความคิดเห็นจากเขาดูบ้าง จะได้รู้กันไปเลยว่าตอนนี้มีคนกำลังรอคำขอแต่งงานอยู่
3. ส่งผ่านความสุขหากมั่นใจแล้วว่าคนที่กำลังคบหาอยู่เป็นคนที่ทำให้รู้สึกว่าอยากจะยืนเคียงข้างกันไปตลอดชีวิต เพราะเป็นคนเดียวที่ทำให้รู้สึกปลอดภัย มีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ด้วยกัน และเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด อย่าเก็บสิ่งดี ๆ แบบนี้เอาไว้คนเดียว แต่ควรรีบบอกออกไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อทำให้เขารู้ว่าเราจริงจังกับความสัมพันธ์ครั้งนี้มากแค่ไหน และคงไม่มีวันเปลี่ยนใจไปหาคนอื่นอีกแล้ว
4. เข้าหาครอบครัวและคนสนิทสำหรับสาว ๆ ที่ไม่กล้าพูดเข้าเรื่องแต่งงานตรง ๆ อาจจะเริ่มจากการถามข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับครอบครัวและเพื่อนสนิทของเขา ทั้งนิสัย ความชอบ ไลฟ์สไตล์ในแต่ละคน จะช่วยให้เราสามารถเข้าหาและทำให้พวกเขายอมรับตัวเราได้ง่ายขึ้น หลังจากนี้ทำความสนิทสนมกันแล้วอาจไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องแต่งงานด้วยตัวเองอีกแล้ว เพราะทั้งครอบครัวและเพื่อนของเขาจะช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กับเราเอง
5. พูดกันตรง ๆหากทำมาทุกวิธีแล้วแต่อีกฝ่ายไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เลย ก็คงถึงเวลาที่ควรพูดเรื่องแต่งงานออกไปตรง ๆ เพื่อให้เขาว่าเราจริงจังและอยากจะให้ความสัมพันธ์พัฒนามากกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อให้เขารับรู้ถึงความต้องการของเรา ในขณะเดียวกันอย่าลืมถามความคิดเห็นของเขาด้วย จะได้ทำความเข้าใจให้ตรงกันทั้งสองฝ่าย เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง
คราวนี้สาว ๆ ที่กำลังเจอกับปัญหาเรื่องนี้อยู่คงสบายอกสบายใจขึ้นกันแล้วนะคะ เพราะว่าถึงแม้เราจะไม่กล้าพูดเรื่องแต่งงานตรง ๆ แต่ก็มีวิธีพูดอีกมากมายที่สามารถทำให้เขาเข้าใจความต้องการกับความรู้สึกของเราได้เหมือนกัน และหวังว่าจากหลังนี้คงจะได้เตรียมงานแต่งกันที่ฝันเอาไว้กันเสียที
