x close

ถ้าทะเลาะกันแล้วมีความคิดแบบนี้ คบต่อไปก็ไม่แฮปปี้แน่

บทความ ความรัก



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          เมื่อคนคู่หนึ่งมาคบกัน การกระทบกระทั่งมีปากเสียงกันบ้างสามารถเกิดขึ้นได้เป็นเรื่องธรรมดา ถ้าคนทั้งสองคือคู่ที่คลิกกันจริง ๆ แม้จะทะเลาะกันหนัก สุดท้ายก็จะจบลงด้วยความเข้าใจ แต่คู่ที่ไม่ใช่ ถึงแม้จะคืนดีกันได้ ก็รับรองเลยว่าชีวิตคู่ในอนาคตต่อไปคงไม่แฮปปี้เท่าไหร่แน่นอน หากคุณอยากรู้ว่าความรักของตัวเองกำลังอยู่ในกลุ่มคู่รักแบบไหน ลองจับความคิดของตัวเองเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์มีปากเสียงกับคนรักของคุณดูสิคะ..

          ผลงานวิจัยของภาควิชาการสื่อสาร มหาวิทยาลัยเทกซัส อันได้รับการเผยแพร่ในวารสารบทความการสื่อสาร (Communication Monographs) ว่าด้วยสิ่งที่ยังเกิดขึ้นในความคิดของคู่รักขณะที่ทะเลาะกัน สามารถเป็นตัวบ่งชี้ถึงความสุขของคู่รักคู่นั้นได้

          การทดลองได้ทำขึ้นในระหว่างคู่รักชายหญิงจำนวน 71 คู่ ที่อยู่ด้วยกันมาแล้วอย่างต่ำ 3 ปี และยังไม่ได้แต่งงาน โดยได้ให้แต่ละคู่นั่งคนละห้องและพูดคุยกันถึงประเด็นปัญหาในความสัมพันธ์ที่ทำให้เป็นเรื่องต้องทะเลาะกันบ่อย ๆ  และให้หารือถึงทางออก หรือข้อตกลงเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกันผ่านทางโปรแกรมแชทในคอมพิวเตอร์ โดยในระหว่างที่คู่รักคุยกันผ่านการพิมพ์ แต่ละฝ่ายจะสามารถพูดเพื่อระบายความรู้สึก แสดงความคิดเห็นต่อปัญหารักกับเจ้าหน้าที่ประจำห้องที่มีอยู่ห้องละ 1 คนได้ด้วย

          จากการทดลองได้พบว่า 3 เรื่องยอดฮิตที่เป็นปัญหาระหว่างคนรัก มักไม่พ้นเรื่องนิสัยการใช้เงิน เรื่องแฟนเก่า และนิสัยการดื่มเหล้า

          แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าเรื่องที่ทำให้ทะเลาะกัน ก็คือความคิดที่หญิงชายแต่ละฝ่ายได้พูดเพื่อระบายหรือแสดงความคิดเห็นให้เจ้าหน้าที่ประจำห้องได้ฟัง ซึ่งได้พบว่าในเมื่อใครสักคนคิด (ด้วยการคุยให้เจ้าหน้าฟัง) ว่าจะหาข้ออ้าง หรือแก้ตัวยามที่โดนอีกฝ่ายถามถึงปัญหาอย่างไรดี หรือพยายามคิดหาคำปฏิเสธว่าตนเองไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหา แม้จะไม่เห็นหน้า แต่ฝ่ายตรงข้ามจะมีทีท่าว่าเริ่มมีความไม่พอใจอย่างสังเกตได้ และยังได้พบว่าคู่ที่มีอาการเช่นนี้จะมีความคิดที่ไม่ค่อยเปิดรับฟังความเห็นต่าง และพยายามเปลี่ยนหัวข้อเรื่องที่จะคุย เมื่อทั้งคู่ต่างรู้สึกไม่พอใจ ก็มักจะคิด (เล่าให้ฟัง) ถึงเรื่องว่าตั้งแต่คบกันมาใครได้เปรียบเสียเปรียบมากกว่ากัน เห็นได้ชัดว่าเมื่อถูกสะกิดเข้าสู่ปัญหา คู่รักกลุ่มนี้จะโฟกัสไปที่ความรู้สึก อารมณ์ ความโกรธ ความไม่พอใจของตัวเอง มากกว่าที่จะคิดช่วยกันหาวิธีแก้ไขปัญหา

          ในขณะที่คู่รักอีกกลุ่มแม้ถูกให้พูดคุยกันถึงเรื่องที่เป็นปัญหา แต่เมื่ออีกฝ่ายกล่าวว่า ฝ่ายตรงข้ามก็จะนิ่งฟัง คิดตาม และพูดคุยถึงตัวปัญหาไม่ใช่ความรู้สึก โกรธ โมโห หรือความไม่พอใจของตัวเอง รวมทั้งไม่ได้เอ่ยกล่าวโทษ หรือแสดงท่าทีหงุดหงิดออกมาให้เจ้าหน้าที่เห็นแม้แต่น้อย

          ท่าทีที่เจ้าหน้าที่ได้เห็น หรือความคิดที่คู่รักแต่ละคนได้ระบายให้เจ้าหน้าที่ฟัง เปรียบเสมือนท่าทางที่แต่ละคนแสดงออก และความคิดที่เกิดขึ้นในหัวแต่ไม่ได้พูดกล่าวออกไปให้อีกฝ่ายฟังในยามที่ทะเลาะกัน (ด้วยกลัวว่าการพูดต่อหน้าจะทำให้สถานการณ์แย่ลง ทั้งที่จริงแล้วในหัวคิดแย้งอยู่ตลอดเวลา) แม้ว่าจะเป็นความคิดในส่วนที่ไม่ได้แสดงออกไปจริง ๆ ก็ตาม แต่มันสามารถมีอิทธิพลต่อการกระทำ การแสดงออก สีหน้า หรือคำพูดอื่น ๆ ในทางอ้อมได้ และสุดท้ายมันจะส่งผลถึงระดับความสุข และคุณภาพของความสัมพันธ์ระหว่างกันได้ในที่สุด

          ถ้าคิดว่าชีวิตรักของตัวเองที่สามวันดีสี่วันทะเลาะจะสามารถประคับประคองกันได้ตลอดรอดฝั่งไหม ลองสังเกตความคิดที่ผุดขึ้นมาให้หัวยามที่คุณทะเลาะกันดูนะคะ มันก็เหมือนกับการจับผิดตัวตนจริง ๆ ของเรานั่นเองค่ะ คู่ที่รักกันจริงหากแม้ทะเลาะก็จะพยายามเข้าอกเข้าใจความทุกข์ของอีกฝ่าย ไม่คิดปกป้องหาข้ออ้างหรือแก้ตัวให้ตนเองเป็นฝ่ายชอบธรรม แต่ก็ไม่นึกเสียดสีว่าอีกฝ่ายกำลังกดขี่ หรือจับผิดเราอยู่ แม้จะขุ่นข้องใจจะเกิดขึ้นจริง ๆ ในตอนนั้น แต่สุดท้ายก็คลายเคืองขุ่นลงได้ในที่สุด ถ้าในหัวคิดแบบนี้ ถึงจะทะเลาะอีกสักหลายที ก็ยังจบลงได้ด้วยดีแน่นอนค่ะ .. แต่ถ้าพยายามไม่ทะเลาะกันได้ก็จะดีกว่าเนอะ ^^"









เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ถ้าทะเลาะกันแล้วมีความคิดแบบนี้ คบต่อไปก็ไม่แฮปปี้แน่ อัปเดตล่าสุด 5 มิถุนายน 2556 เวลา 13:33:29
TOP