มากำจัดความกลัวก่อนทำลายความสัมพันธ์ของรัก
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ความกลัวสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนและทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้แต่คนมีคู่ที่การันตีความรักด้วยใบทะเบียนสมรสแล้วก็ตาม เพราะบ่อยครั้งที่เรามักจะนึกถึงสถานการณ์อันเลวร้ายในอนาคต เช่น การหย่าร้าง การนอกใจ หรือปัญหาอื่น ๆ ทั้งที่ในตอนนี้ชีวิตคู่กำลังไปได้สวย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องดีที่ทำให้คุณรู้จักระมัดระวังตัวและคอยหาทางป้องกัน แต่ถ้าความกลัวมันมากเกินไปก็อาจเป็นตัวการทำลายชีวิตแต่งงานได้เช่นกัน โดยเฉพาะ 5 ความกลัวที่ มิเชล คีน นักจิตวิทยา (thestir.cafemom.com) และผู้เขียนเรื่องความสัมพันธ์นำมาบอกกล่าวกันในวันนี้
1. กลัวโดนทอดทิ้งความกลัวในลักษณะนี้มักจะเกิดขึ้นกับคนที่คิดว่าจะโดนคนรักทอดทิ้งตัวเองให้อยู่คนเดียว คนรักตาย หรือไม่มีใครเกิดมาเพื่อกันอย่างแท้จริง โดยความคิดดังกล่าวก็สืบเนื่องมาจากการความโสดและการจากไปของคนรักในอดีตนั่นเอง และเป็นความรู้สึกที่ถูกกระตุ้นได้ง่ายมากเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีการตอบสนองใด ๆ กลับมาตามที่คาดหวัง ทั้งที่ในขณะนั้นอีกฝ่ายอาจจะยุ่งอยู่กับหน้าที่ตรงหน้าก็ได้ อีกทั้งไม่ใช่เรื่องที่ต้องเก็บมากังวลเลยสักนิด เพราะการที่อีกฝ่ายตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกับคุณ ก็น่าจะทำให้คุณมั่นใจในความรักได้แล้ว
2. กลัวโดนข่มเหงรังแกคนที่มีความกลัวเช่นนี้ก็มักจะคิดว่าตัวเองโดนทำร้ายโดยคนใกล้ชิดอยู่ตลอด หรือคนเหล่านั้นจะเข้ามาหาผลประโยชน์ถ้าไม่หาทางปกป้องตัวเอง ซึ่งบางครั้งความคิดเหล่านี้ก็สืบเนื่องมาจากกลัวการโดนทอดทิ้ง ก็เลยทำให้ต้องหาทางปกป้องตัวเอง โดยลืมมองว่าอีกฝ่ายไม่ได้ทำอะไรเลย เป็นสิ่งที่คุณคิดไปเองทั้งนั้น และการกระทำของคุณก็ยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้อีกฝ่ายค่อย ๆ ห่างหายไปจากชีวิตคุณด้วย
3. กลัวว่าไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกหากตัดสินใจเป็นคู่ชีวิตกันแล้ว อีกฝ่ายก็ย่อมเข้าใจคุณเสมอ แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดความกลัวเช่นนี้ขึ้นก็เพราะคุณไม่เคยทำความเข้าใจความรู้สึกของพวกเขาก่อน ก็เลยทำให้ความรู้สึกของพวกคุณไม่เชื่อมต่อถึงกัน และชอบคิดว่าคนใกล้ตัวไม่เคยใช้เวลาในการทำความเข้าใจความรู้สึกของตัวเองเลย ทั้ง ๆ ที่หากพวกคุณใส่ใจความรู้สึกกันสักนิด ก็จะรู้เลยว่าตอนนี้ต่างคนต่างรู้สึกและคิดอะไรกันอยู่
4. กลัวความไม่สมบูรณ์แบบถึงแม้ก่อนแต่งงานหลายคนจะคิดว่าคนที่รักกันจริง ๆ เขาจะต้องรับสิ่งที่ฉันเป็นได้ แต่พอมีคู่เข้าจริง ๆ ก็เลือกที่จะแสดงด้านดีของตัวเองออกมามากกว่า ก็เลยทำให้คุณรู้สึกกังวลว่าความไม่สมบูรณ์แบบจะทำให้เขาจากไป หลังจากที่ได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของคุณ ทั้งที่ยิ่งคุณกลัวเท่าไรก็จะยิ่งทำผิดพลาดมากขึ้นไปอีก ซึ่งจริง ๆ แล้วพวกเขาไม่ได้รังเกียจเลยสักนิด แถมยังพร้อมที่จะยอมรับและปรับตัวเข้าหากันอีกต่างหาก ถ้าต่างคนบอกกันตรง ๆ ว่าอยากให้อีกฝ่ายปรับเปลี่ยนจุดไหนบ้าง พร้อมช่วยกันหาทางแก้ไข
5. กลัวความล้มเหลวไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยหากคุณเอาแต่กลัวว่าชีวิตแต่งงานของตัวเองจะล้มเหลว อีกทั้งความคิดแบบนี้อาจจะกลายเป็นจริงสักวันหนึ่งก็ได้ ซึ่งมันจะส่งผลดีกับชีวิตแต่งงานของคุณอย่างมาก ถ้าหากคุณกลับมาคิดว่า คุณสามารถทำให้ชีวิตแต่งงานประสบความสำเร็จได้เหมือนกับเรื่องอื่น ๆ ในชีวิต เพราะมันจะเป็นแรงผลักดันที่ทำให้คุณเริ่มทำสิ่งดี ๆ ที่ส่งผลให้ความรักความสัมพันธ์ดีขึ้นตามไปด้วย
ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วคุณจะไม่สามารถควบคุมความรู้สึกของตัวเองหรือคู่ครองได้ เพราะความกลัวต่าง ๆ มันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่คุณสามารถควบคุมการกระทำของตัวเองที่แสดงออกต่อพวกเขาได้ ซึ่งมันก็คงจะดีกับชีวิตแต่งงานของคุณมากกว่า หากต่างคนต่างก็แสดงส่วนดีออกมา แทนที่จะทำอะไรที่จะคอยบั่นทอนความรู้สึกและทำใช้ต้องแยกทางกันในที่สุด
