x close

แฟนหนุ่มของคุณกำลังปกปิดอะไรไว้หรือเปล่า

ความรัก
แฟนหนุ่มของคุณกำลังปกปิดอะไรไว้หรือเปล่า

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


          เป็นเรื่องน่าช้ำใจสำหรับสาว ๆ หากรู้ว่าแฟนหนุ่มหรือสามีมีเรื่องบางอย่างที่ซ่อนเร้น และกว่าที่คุณจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรสายเกินไปหากคุณพบว่าชีวิตรักที่เป็นอยู่มันไม่เวิร์กเลย ถ้าเช่นนั้นมาดูกันว่าแฟนหนุ่มหรือสามีของคุณมีพฤติกรรมเช่นนี้จากคำบอกเล่าของเว็บไซต์ cafemom หรือเปล่า ถ้าใช่ละก็เตรียมตัวเตรียมใจบอกลาความสัมพันธ์ครั้งนี้เลย

1. เซ็กส์ที่ไม่ได้มาจากความรัก


          ผู้หญิงอย่างเราเรื่องเซ้นส์หรือเรดาร์จับผิดเรียกว่ามาแรงแซงโค้ง โดยเฉพาะเรื่องบนเตียงที่สาว ๆ คงรับรู้ได้ว่ามันเกิดจากความรักหรือความใคร่เพียงอย่างเดียว แต่ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างหลังชัวร์ ๆ ก็อย่าปล่อยให้มันเลยเถิดนะคะ เพราะไม่ใช่เรื่องผิดหากคุณจะเหยียบเบรกดังเอี๊ยดขณะทำกิจกรรมเข้าจังหวะ จำไว้ว่าเราไม่จำเป็นต้องเปลืองตัวเพื่อแลกกับความรักจอมปลอม โดยเฉพาะหากว่าแฟนหนุ่มของคุณมัวแต่พูดเรื่องบนเตียงหรือถึงเนื้อถึงตัวคุณตลอด นอกจากเขาจะไม่ให้เกียรติคุณแล้ว เขาอาจจะหวังแอ้มเราฟรี ๆ อีกด้วยนะ

2. เขาหายไปบ่อย ๆ

          พฤติกรรมเช่นนี้ก็น่าสงสัยไม่น้อย หากเขามักจะปิดมือถือหรือหายไปไหนนาน ๆ เป็นไปได้ว่าเขาอาจกลับไปดูแลลูกและภรรยาหรือสับรางคุยกับคนนั้นคนนี้อยู่ก็เป็นได้ แต่ก็อย่ากระโตกกระตากไป ของแบบนี้ต้องจับให้ได้คาหนังคาเขา อ้อ...แล้วอย่าใจร้อนหุนหันพลันแล่นตัดสินเขาโดยไม่มีพยานหลักฐานนะคะ เพราะนอกจากคุณจะหน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บแล้ว บางทีที่เขาหายไปอาจเป็นเพราะหน้าที่การงานของเขาด้วย แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะหายไปไหน อย่างน้อยก็ต้องบอกให้คุณรับรู้บ้าง ไม่ใช่หายไปเฉย ๆ

3. เขามีโลกส่วนตัวสูงปรี๊ด

          หากคุณรู้สึกเข้าถึงเขาได้ยากหรือรู้สึกว่าแทบไม่รู้จักเลยว่าเขาเป็นอย่างไรกันแน่ อย่าเก็บความข้องใจเอาไว้ ค่อย ๆ ตะล่อมถามถึงที่มาที่ไปหรือครอบครัวของเขาดู แต่ระวังนิดหนึ่งนะคะ อย่าถามเพราะความอยากรู้อยากเห็นหรือจ้องจับผิด แต่ต้องถามในลักษณะเป็นห่วงเป็นใยหรือสนใจเขา เช่น แทนที่จะถามว่าภูมิลำเนาเขาอยู่ที่ไหน ให้เริ่มต้นถามว่าพ่อกับแม่ของเขาสบายดีไหม จากนั้นค่อย ๆ ล้วงลึก ใจเย็น ๆ ไว้ก่อนแม้ว่าเราอยากจะรู้เรื่องส่วนตัวของเขามากแค่ไหน เพราะหากไม่มีอะไรในกอไผ่จริง ๆ เราอาจจะกลายเป็นผู้หญิงสอดรู้ในสายตาของเขาก็ได้

4. เขาเลี่ยงการตอบคำถามหรือเปลี่ยนเรื่อง

          หากคุณรู้สึกข้องใจหรือสงสัยในตัวเขา แล้วก็โพล่งถามเขาหรือขอคำอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เขามักจะเลี่ยงหรือโยนระเบิดใส่คุณแบบเนียน ๆ โดยการตอบด้วยคำถามกลับมาว่า "คุณไม่ไหวใจผมเหรอ ?" หรือ "แล้วคุณคิดว่าผมจะไปไหน ?" เพราะมันอาจหมายถึงว่าคุณกำลังไม่ไว้ใจเขาและกำลังจับผิดเขาอยู่ สุดท้ายแล้วคุณเองก็จะเป็นฝ่ายรู้สึกผิด แล้วเขาก็รอดตัวไปอีกจนได้ แต่จำไว้อย่างหนึ่งว่าถ้าเขารักคุณจริง ๆ ต่อให้คุณไม่ไปซักไซ้อะไร เขาก็พร้อมจะเปิดเผยทุกอย่างกับคุณอยู่แล้ว

5. เขาโกหก

          หากคุณรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่แกล้งถามเขาเพื่อหยั่งเชิงว่าเขาโกหกหรือเปล่า และคำตอบที่ออกจากปากเขา คือ คำโกหกทั้งเพละก็ อย่าเพิ่งบีบคั้นหรือต้อนเขาให้จนมุม แต่ให้เก็บข้อมูลไว้ก่อน เพราะการโกหกบางครั้งก็ต้องดูเจตนาประกอบกันไปด้วยว่าเขาโกหกหนีความผิดหรือโกหกเพื่อให้คุณสบายใจ (แม้ว่าไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ควรโกหกก็ตาม) และถ้าหากคุณพบว่าเขาโกหกคุณซ้ำ ๆ เรื่องเดิม ๆ เห็นทีจะต้องเคลียร์กันบ้างแล้วล่ะ

6. พฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ

          ยิ่งกว่าช้ำใจหากคุณรู้ว่าแฟนหนุ่มของคุณเบี่ยงเบนทางเพศ แต่กลับมาคบกับคุณเพื่อบังหน้าหรือเหตุผลอะไรก็ตาม แต่กว่าจะจับได้คาหนังคาเขาทีเดียวคงเป็นเรื่องยาก ดังนั้นให้ลองสังเกตพฤติกรรมของเขาดู ไม่ว่าจะเป็นท่าทาง อาการ หรืออะไรก็ตาม หากว่ามีพฤติกรรมแปลก ๆ แล้วมีแนวโน้มเหมือนเพศที่สามละก็ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะคบคุณเพียงเพราะผลประโยชน์ก็ได้

7. สัญญาณเตือนบางอย่างที่ไม่กล้าบอกคุณตรง ๆ

          แม้คนรักของคุณจะมีเรื่องปกปิดไว้ ไม่ว่าจะเป็นเขาแต่งงานกับคุณเพราะเรื่องอื่น เขาเบี่ยงเบนทางเพศ เขามีครอบครัวอยู่แล้ว หรืออะไรก็ตาม หากเขายังมีศีลธรรมอยู่บ้างแต่ไม่กล้าบอกคุณตามตรง บางครั้งเขาอาจจะทำอะไรบางอย่างเพื่อเป็นสัญญาณเตือนให้คุณรู้ว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด ให้ลองสังเกตพฤติกรรมแปลก ๆ ของเขาไว้ เพราะเขาอาจจะบอกคุณเป็นนัย ๆ ว่าเพราะอะไรที่เขาถึงมาคบกับคุณ

8. เขามีความลับเกือบทุกเรื่อง

          หากเขามีอาการหงุดหงิดทุกครั้งที่คุณถามถึงชีวิตส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพื่อนสมัยเรียน, ที่อยู่ หรือที่ทำงานของเขา แสดงว่าเขาจงใจปกปิดบางอย่างและพยายามทำให้คุณรู้สึกผิดประหนึ่งคุณกำลังก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขา ทว่าในอีกมุมหนึ่งคุณเองก็มีสิทธิ์ที่จะรับรู้ในเรื่องของเขาเช่นกัน และถ้าเขายังคงมีพฤติกรรมเช่นนี้ก็เป็นไปได้ว่าเขาอาจมีอะไรซ่อนอยู่และไม่อยากให้คุณรู้ก็เป็นได้

9. เขามักสับสนหรือลืมสิ่งที่เคยพูดกับคุณ

          เมื่อครั้งคบกันใหม่ ๆ เขาอาจจะบอกคุณว่าเขาเคยทำงานหรือเรียนที่ไหน แต่พอพูดอีกครั้งกลับไม่ใช่ที่เดิม หรืออะไรก็ตามที่เขาเคยบอกไว้ไม่เหมือนในตอนแรก แสดงว่าเขากำลังโกหกคุณอยู่ และที่สำคัญเขาดันลืมสิ่งที่ตัวเองโกหกแล้วก็ยังเดินหน้าโกหกต่อไปโดยที่คิดว่าคุณจะไม่มีวันรู้ ถ้าเขามีนิสัยเช่นนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาไม่จริงใจกับคุณแน่นอน หากไม่คบคุณเพราะผลประโยชน์ก็เชื่อได้เลยว่าเขาคิดไม่ดีกับคุณแน่ ๆ

10. เพื่อนและครอบครัวของคุณไม่ชอบเขา

          ผู้หญิงเราเวลารักใครก็มักจะมองข้ามข้อเสียของคนคนนั้น แต่ทว่าเพื่อนสนิทหรือครอบครัวของเราต่างหากที่เป็นเสมือนตัวกรองชั้นดี ที่สำคัญยังมองได้ทะลุปรุโปร่งถึงเนื้อในของผู้ชายที่เข้ามาคบกับคุณ หากทุกเสียงของคนในครอบครัวและเพื่อน ๆ ไม่ชอบเขาเลยก็มีแนวโน้มว่าเขาอาจไม่ใช่คนดีอย่างที่คุณคิด เพราะไม่มีเหตุผลเลยที่พวกเขาจะไม่หวังดีกับคุณ แต่ทางที่ดีก็ควรที่จะพิสูจน์ให้เห็นเองรู้เองด้วยนะคะ จะได้รู้ว่าคุณไม่ได้พลาดอะไรไป

          หากคุณพบว่าแฟนหนุ่มหรือสามีของคุณมีพฤติกรรมดังกล่าวและมีแนวโน้มว่าเขาไม่แมนทั้งแท่ง หรือมีอีกครอบครัวหนึ่งอยู่แล้ว ก็ควรพูดคุยหรือตกลงกันด้วยเหตุผล ที่สำคัญคุณเองก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับความเสียใจครั้งนี้ให้ได้ แล้วพร้อมเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แฟนหนุ่มของคุณกำลังปกปิดอะไรไว้หรือเปล่า อัปเดตล่าสุด 7 พฤศจิกายน 2557 เวลา 15:57:38 1,059 อ่าน
TOP