เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ในปัจจุบันมีคนส่วนมากที่ยังทำตามความคิดกฎเก่า ๆ แบบคู่ในรักวันวาน เพราะเชื่อว่าวิธีเหล่านั้นจะทำให้ชีวิตหลังแต่งงานของพวกเขามีความสุขอย่างที่คิด ทั้งที่จริงแล้วกฎบ้างข้อที่คนเหล่านั้นทำอยู่ เป็นการทำลายความสัมพันธ์ทางอ้อมโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะกฎชีวิตคู่ทั้ง 9 ข้อต่อไปนี้ หากมองข้ามไปได้ก็มองข้ามไปบ้าง เพื่อชีวิตคู่ที่ดีกว่าและมีความสุขมากขึ้น
1. ต้องนอนร่วมเตียงเดียวกันในปัจจุบันมีคู่รักมากมายที่แยกเตียงนอนหรือห้องนอนด้วยหลากหลายสาเหตุ และมันไม่ใช่เรื่องแปลกหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะมีความคิดเช่นนี้ เพราะการนอนแยกกันเป็นเพียงการแก้ปัญหาการนอนอย่างหนึ่ง อย่างเช่น หลีกเลี่ยงเสียงกรน หรือต้องการพื้นที่ในการนอนมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งมันก็ไม่ได้หมายความว่าความรักของพวกคุณจะจบลงด้วยเสียหน่อย ฉะนั้น ก็แค่ทำใจให้สบาย แล้วค่อยทดแทนด้วยการใช้เวลาอื่น ๆ ร่วมกันให้มากขึ้นก็ดีแล้ว
2. การทะเลาะมักนำไปสู่การหย่าร้างหลายครั้งที่คู่แต่งงานมักจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกัน โดยกลัวว่าสิ่งนี้จะนำไปสู่การหย่าร้าง ทั้งที่จริงแล้วมันไม่ใช่เรื่อน่ากลัวอย่างที่คิดเลยสักนิด เพราะทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ เพียงพวกคุณหันหน้ามาปรึกษากันเท่านั้นเอง อีกทั้งการทะเลาะไม่ว่าด้วยเรื่องใดก็ตามหากมองอีกแง่หนึ่งมันก็ช่วยให้เกิดความเข้าใจกันมากขึ้นกว่าที่คาดเอาไว้ด้วย
3. ควรมีทริปเที่ยวร่วมกันบางครั้งการท่องเที่ยวแบบต่างคนต่างไปก็ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและมุมมองใหม่ ๆ ให้กับความรักได้เหมือนกัน เพราะผู้หญิงกับผู้ชายต่างก็มีความชอบกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ดังนั้น พวกคุณจึงไม่จำเป็นต้องควงแขนกันไปเที่ยวด้วยกันตลอดทุกครั้งก็ได้ พยายามลองปลีกตัวออกไปพักผ่อนคนเดียวบ้างก็ส่งผลดีกับชีวิตคู่ไม่น้อยเลย
4. มีงานอดิเรกเหมือนกันแม้จะแต่งงานเป็นสามีภรรยากันแล้วก็ไม่จำเป็นต้องมีงานอดิเรกเหมือนกันก็ได้ เพราะอย่างที่ทุกคนรู้ดีว่าแต่ละคนมีรสนิยมที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น บางทีแค่พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแบ่งปันความรู้สึกที่มีต่ออดิเรกให้กันและกันฟังก็เพียงพอแล้ว อีกทั้งยังเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยสร้างความสุขให้กับชีวิตคู่มากกว่าการบังคับให้อีกฝ่ายทำงานอดิเรกเดียวกันกับคุณ
5. ไม่นอนไปพร้อมกับความโกรธแม้การต่อสู้กับอารมณ์ด้านลบ อย่างเช่น โกรธหรือหึงหวงไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อต้องเจอกับตัวเองช่วงก่อนเข้านอน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเข้านอนไปพร้อมกับอารมณ์เหล่านั้นไม่ได้ เพราะการนอนเป็นการพักผ่อนที่ช่วยขจัดอารมณ์ด้านลบได้ดีทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามหากเป็นไปได้ก็ไม่ควรให้เกิดขึ้นบ่อยนัก ไม่อย่างนั้นมีปัญหากับการนอนหลับอย่างแน่นอน
6. ซื่อสัตย์ต่อคำมั่นสัญญาเพราะมันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้เลยน่ะสิ แต่อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าคุณควรโกหกหรอกนะ เพราะมันคงจะดีกว่าหากบอกกับคนรักไปตามความจริง ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นการทำร้ายความรู้สึกพวกคุณทั้งคู่ มันก็ดีกว่าการให้ความหวังโดยไม่มีอะไรให้หวัง โดยเฉพาะเรื่องสำคัญที่มีผลกับชีวิตคู่ หรือโกหกได้เล็กน้อยเพื่อความสบายใจ แต่ไม่ควรทำจนเป็นนิสัย
7. รักษาความตื่นเต้นเอาไว้ให้ได้บ่อยครั้งที่คนเรามักจะคิดว่าชีวิตต้องการความตื่นเต้น ถึงจะอยู่กินกันไปได้ตลอดรอดฝั่ง ซึ่งก็ไม่ผิดนักแต่จะให้ทำเช่นนั้นทุกวันก็คงเป็นเรื่องยากเกินไป แต่ถ้าหากลองพยายามทำ โดยไม่จำเป็นต้องทำทุกวันน่าจะดีกว่า เพราะไม่อย่างนั้นก็จะกลายเป็นความน่าเบื่อไป อีกทั้งฝ่ายที่ทำก็ยังเกิดเป็นความเครียดสะสมจนทำให้ชีวิตคู่ขาดความสุขไปอย่างสิ้นเชิง
8. ความรักสิ้นสุดเมื่อความหลงใหลหมดลงโดยเฉพาะคู่รักที่เริ่มจากความหลงใหลในรูปร่างหน้าตา และคิดว่าสิ่งนั้นจะคงอยู่คู่กับความรักตลอดไป ทั้งที่จริงแล้วอะไร ๆ ก็หมดลงได้ตามกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งคงจะดีกว่าหากพวกคุณหมั่นปลุกปั่นความรักให้ถักทอเป็นสายใยที่มั่นคง และรักกันด้วยหัวใจที่แท้จริงไม่แค่เพียงเปลือกนอก หากทำได้ความรักก็จะยั่งยืนอย่างที่คุณไม่คาดคิดเลยล่ะ
9. ห้ามมีเพื่อนต่างเพศที่จริงใคร ๆ ก็สามารถคบหาเพื่อนต่างเพศได้ เพราะการคบหากับเพื่อนต่างเพศนั้น ไม่ได้หมายความว่าเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน และจะต้องหลงรักกันเสมอไป อีกทั้งพวกเขาก็มองกันและกันเป็นเพียงเพื่อนคนหนึ่งมากกว่าจะมองหาความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งแบบคนรัก อีกทั้งในตอนนี้โลกก็ค่อนข้างเปิดกว้างทำให้คนรู้จักกันได้ง่ายขึ้น ฉะนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะคบหากับเพื่อนต่างเพศ
หลายครั้งที่คู่รักในปัจจุบันก้าวผ่านกฎเหล่านี้ออกมา เพราะพวกเขามองว่ามันเป็นเรื่องที่มีอิทธิพลกับความรักในทางลบมากกว่าทางบวก และถ้าหากคุณก็เป็นหนึ่งในคนที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข บางทีก็ควรมองข้ามกฎเก่า ๆ เหล่านี้ไปบ้าง หากลองทบทวนดูแล้วว่ามันไม่เหมาะสมหรือสวนทางกับความเป็นอยู่ของพวกคุณ
