x close

พิธีแต่งงานแบบจีน และสิ่งของที่ต้องเตรียม

พิธีแต่งงานแบบจีน
สิ่งของมงคลที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องเตรียมในพิธีแต่งงานแบบจีน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
 
             พิธีแต่งงานแบบจีน ถือเป็นอีกหนึ่งพิธีแต่งงานที่ชาวไทยทุกคนคุ้นเคย เพราะคนไทยกว่าครึ่งประเทศเป็นชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งในการจัดพิธีแต่งงานแบบจีนนั้นมีขึ้นตอนและพิธีการที่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก ฉะนั้นการเตรียมความพร้อมด้วยการวางแผนจึงเป็นสิ่งสำคัญ วันนี้กระปุกดอทคอมจึงมีวิธีการและขั้นตอนเกี่ยวกับพิธีแต่งงานแบบจีน พร้อมลิสต์รายชื่อสิ่งของที่ต้องเตรียมมาฝากกัน เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์แบบในการเข้าพิธีวิวาห์มากที่สุด โดยแบ่งเป็นสิ่งของที่เจ้าบ่าวต้องเตรียมและสิ่งของที่เจ้าสาวต้องเตรียม ดังนี้...

             สิ่งที่เจ้าบ่าวต้องเตรียม

พิธีแต่งงานแบบจีน

             นอกจากสินสอดทองหมั้นที่รู้กันดีอยู่แล้ว เจ้าบ่าวในพิธีจีนจะต้องเตรียมเครื่องขันหมากอย่างส้มเซ้งผลสีเขียว ติดตัวอักษรจีน "ซังฮี่" แปลว่า คู่ยินดี ไว้ทุกผล จัดเป็นเลขคู่จะ 44 ผล หรือ 84 ผล หรือร้อยกว่าผลก็ได้ และชุดหมูสด เช่น ขาหมู, ตับหมู และกระเพาะหมูสด ๆ หรือฝ่ายเจ้าบ่าวอาจนำเงินใส่ซองพร้อมเขียนว่าใช้ซื้อขาหมู ซื้อกระเพาะหมูแทนก็ได้ และสิ่งของสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย คือ ขนมขันหมาก หรือขนมแต่งงานเป็นขนมสี ๆ จะใช้ 4 สี หรือ 5 สีก็ได้ เพื่อแจกให้กับเหล่าบรรดาญาติพี่น้อง เช่น ขนมเหนียวเคลือบงา, ขนมเปี๊ยะ, ขนมถั่วตัด, ขนมข้าวพองทุบ และขนมโก๋อ่อน พร้อมซองเงิน 4 ซอง เพื่อเป็นค่าตัวลูกสาว (ตามธรรมเนียมการแต่งงานของจีน) ซองแรกเป็นค่าน้ำนม, ซองที่สองเป็นค่าเสื้อผ้า, ซองที่สามเป็นค่าทำผม แต่งหน้า และซองที่สี่เป็นทุนตั้งตัว ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับพ่อแม่เจ้าสาวว่าจะคืนให้คู่บ่าวสาวเอาไว้ใช้เริ่มต้นชีวิตคู่หรือไม่

            สิ่งที่เจ้าสาวต้องเตรียม
 
             สำหรับเจ้าสาวในการเตรียมของเพื่อออกเรือนจะมีข้าวของเครื่องใช้มากมาย เริ่มจากเอี๊ยมแต่งงานซึ่งเป็นเอี๊ยมสีแดง ตรงอกเสื้อเอื้อมมีช่องกระเป๋าปักตัวอักษร "แป๊ะนี้ไห่เล่า" แปลว่า อยู่กินกันจนแก่เฒ่า ในกระเป๋าเอี๊ยมบรรจุห่อเมล็ดพืช 5 ชนิด มีความหมายว่าเจริญงอกงาม พร้อมต้นชุงเฉ้าหรือต้นเมียหลวง 2 ต้น และปิ่นทองที่ทำเป็นตัวลายภาษาจีนว่า "ยู่อี่" แปลว่า สมปรารถนา เสียบไว้ให้ปลายโผล่พ้นขอบกระเป๋าขึ้นมา นอกจากนี้ยังมีเชือกแดงสำหรับผูกเอี๊ยมมีตัวหนังสือ "ซังฮี้" แปลว่า คู่ยินดี มีแผ่นหัวใจสีแดงสำหรับติดเครื่องประดับทอง เครื่องประดับเพชร ซึ่งจะมีมากแค่ไหนขึ้นอยู่กับฐานะของเจ้าสาว ไม่เพียงเท่านั้นเจ้าสาวยังต้องเตรียมกะละมังสีแดง 2 ใบ ถังน้ำสีแดง 2 ใบ กระป๋องน้ำสีแดง 2 ใบ กระโถน 1 ใบ พร้อมกระจก กรรไกร ด้าย เข็ม ถาดสีแดง และของที่ต้องจัดเป็นจำนวนคู่อย่างตะเกียบ ชุดน้ำชา พัดแดง สำหรับเจ้าสาวถือตอนส่งตัว นอกจากนี้ยังมีผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ๆ ผืน หมอน 1 ชุด ซึ่งจะมี 4 ใบ หรือ 5 ใบก็ได้ ประกอบไปด้วยหมอนข้าง 1 คู่ หมอนหนุนใบยาว 1 ใบ ซึ่งหมอนใบยาวนี้จะมีหรือไม่ก็ได้ ถ้าเจ้าสาวฐานะดีพ่อแม่อาจจะจัดเครื่องอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ให้ด้วย เช่น ทีวีจอยักษ์ ตู้เย็น จักรเย็บผ้าประมาณนี้ แล้วสุดท้ายยังมีหวีอีก 4 เล่ม ที่เป็นเคล็ดมงคลตามภาษาจีนเขียนว่า "ซี้ซี้อู่หอซิว" หมายถึงทุก ๆ เวลาจะได้มีทรัพย์

              ซึ่งเมื่อถึงวันยกขันหมากเจ้าบ่าวจะยกขันหมากมาที่บ้านเจ้าสาวมอบสินสอดทองหมั้น และเครื่องขันหมากที่เตรียมมาให้ฝ่ายเจ้าสาวต้องเก็บขนมแต่งไว้ครึ่งหนึ่ง และส่งอีกครึ่งหนึ่งคืนให้ฝ่ายเจ้าบ่าว พร้อมส้มเซ้งที่ติดตัวอักษร "ซังฮี่" จัดเป็นจำนวนผลคู่ กับเอี๊ยมแดงที่มีปิ่นทองเสียบอยู่ ในเช้าวันที่เจ้าบ่าวมารับตัวเจ้าสาว ฝ่ายเจ้าบ่าวจะนำปิ่นทองมามอบให้เจ้าสาวใช้ติดผมก่อนออกจากบ้าน นอกจากส้มเซ็งแล้วฝ่ายเจ้าสาวจะให้กล้วยทั้งเครือกับฝ่ายเจ้าบ่าวเพิ่มไปด้วย เพื่อเป็นเคล็ดว่าจะได้มีลูกหลานว่านเครือสืบสกุล

              หมายเหตุ : เนื่องจากเครื่องขันหมากสำหรับหมั้นและสำหรับแต่งนิยมจัดเหมือนกัน ดังนั้นในวันยกขันหมากอาจจะจัดให้มีพิธีหมั้นด้วยก็ได้ โดยมีธรรมเนียมว่าวันหมั้นฝ่ายหญิงเป็นผู้รับภาระเรื่องการเลี้ยงหมั้น แล้ววันเลี้ยงวันแต่งงานเป็นหน้าที่ของฝ่ายชาย ซึ่งข้อกำหนดนี้ปรับเปลี่ยนได้ตามฐานะของทั้งสองฝ่าย หลังจากพิธีหมั้นฝ่ายเจ้าบ่าวจะต้องนำของที่เจ้าสาวมอบให้ทั้งหมดยกเว้นกล้วย 1 เครือ นำมาวางไว้ที่หัวเตียงในห้องหอ และต้องนอนในห้องหอจนกว่าจะถึงวันแต่งงานและไปรับเจ้าสาวมาอยู่ด้วยกัน

พิธีแต่งงานแบบจีน

              นอกจากนี้ตามธรรมเนียมจีนในวันส่งตัวคืนที่เจ้าบ่าวไปรับเจ้าสาว ก่อนจะพาออกจากบ้านอาจมีการตั้งโต๊ะให้คู่บ่าวสาวกินอาหารมงคล 10 อย่าง เป็นเคล็ดให้คู่บ่าวสาวมีความสุขอาหารทั้ง 10 อย่าง ที่รับประทานร่วมกันนั้น ประกอบไปด้วย วุ้นเส้นหรือเส้นหมี่ หมายถึงให้รักกันนาน ๆ และมีอายุยืนยาว, เห็ดหอม หมายถึงให้ชีวิตคู่มีแต่ความหอมหวาน, ผักกุยช่าย หมายถึงให้รักกันยั่งยืนนาน, ผักเกาฮะไฉ่ มีนัยสื่อถึง "ฮัวฮะ" ซึ่งเป็นเซียนคู่ที่รักกันมาก "ฮัวฮะ" จึงมีความหมายให้รักใคร่ปรองดองกัน, หัวใจหมู หมายถึงให้รักกันเป็นใจเดียว ไส้หมูและกระเพาะหมู ซึ่งไส้หมู คือ ติ้ง กระเพาะหมู คือ โต้ว รวมกันเป็นภาษามงคลว่า อั่วติ้งอั่วโต้ว หมายความว่าให้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นหมายถึงการปรับตัวเข้าหากัน นิสัยใดที่ไม่ดีก็ได้เปลี่ยนเป็นนิสัยที่ดี เพื่อให้คู่ครองได้มีความสุขและรักกันยืนยาว, ตับหมู เป็นนัยสื่อถึงความก้าวหน้ารุ่งเรือง, ปลา แปลว่าให้มีเหลือกินเหลือใช้ คือมีมากมายร่ำรวยจนกินใช้ไม่หมดนั่นเอง และปู เมื่อต้มแล้วเป็นสีแดงมงคล และตัวปูที่เดินเร็ววิ่งเร็วจะอวยพรคู่บ่าวสาวให้ทำอะไรได้คล่องแคล่ว ขยันทำมาหากิน ทำงานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

              ทั้งนี้สำหรับ "คู่รักใหม่กลับไปเยี่ยมบ้าน" หลังวันแต่ง 3 วัน 7 วัน หรือ 15 วัน แล้วแต่ฤกษ์ ก็ถึงคราวที่ญาติหนุ่มของฝ่ายเจ้าสาวจะมารับตัวเธอกลับไปเยี่ยมบ้านพร้อมกับเขยคนใหม่ ที่เรียกว่า "ตึ่งฉู่" เจ้าสาวต้องเตรียมส้ม 12 ผล ใส่ถาดติดไม้ติดมือกลับไปด้วย เมื่อไปถึงบ้านของฝ่ายหญิงก็ต้องทำพิธียกน้ำชาให้กับพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงเช่นกัน ผู้ใหญ่ก็จะให้พรและมอบทรัพย์สินเพื่อเป็นของขวัญในการตั้งตัว จากนั้นจะมีงานเลี้ยงต้อนรับลูกเขย จึงเป็นอันเสร็จพิธีแต่งงานอย่างแท้จริง และถึงแม้ว่าการจัดพิธีแต่งงานแบบจีนจะมีวิธีการที่ซับซ้อน แต่การเตรียมความพร้อมของงานก็ถือเป็นหนึ่งตัวช่วยเพื่อให้งานแต่งสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีเช่นกัน


ขอขอบคุณข้อมูลจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พิธีแต่งงานแบบจีน และสิ่งของที่ต้องเตรียม อัปเดตล่าสุด 8 กันยายน 2557 เวลา 09:54:13 11,548 อ่าน
TOP