x close

รีวิวพรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น พร้อมแนะมุมสวย ๆ ในการถ่ายภาพ

พรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น

พรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น

พรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น

พรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น
Japan...A Wonderful Destination Prewedding-พรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น เล่าสู่กันฟัง

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ trumantuk สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม, www.coffeoto.com และ เฟซบุ๊ก Coffeoto

          อาจเพราะการถ่ายพรีเวดดิ้ง (Pre-Wedding) เปรียบเสมือนการบันทึกเรื่องราวความทรงจำดี ๆ ในการเริ่มต้นชีวิตคู่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วคู่รักต่างก็จะนิยมเดินทางไปถ่ายพรีเวดดิ้งตามสถานที่ที่เป็นความทรงจำดี ๆ ร่วมกัน ทั้งสถานที่ที่พบกันครั้งแรก สถานที่ที่บอกรัก หรือสถานที่ที่ขอแต่งงาน ฯลฯ ดังนั้นวันนี้เราเลยหยิบเอาอีกหนึ่งประสบการณ์ในการถ่ายพรีเวดดิ้งจากการลั่นชัตเตอร์ของ คุณ trumantuk ที่ได้มีโอกาสบินลัดฟ้าไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งยังประเทศญี่ปุ่น พร้อมกับนำเรื่องราวดี ๆ ในการเตรียมตัวและการวางแผนถ่ายภาพพรีเวดดิ้งยังต่างแดนมาแนะนำให้เราได้ทราบกันด้วย ^^
 


          สวัสดีครับ เนื่องจากมีโอกาสได้ไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งให้ลูกค้าคู่หนึ่ง ณ ประเทศญี่ปุ่น มาครับ เลยมีประสบการณ์สนุก ๆ บวกรูปภาพพรีเวดดิ้งตามมุมต่าง ๆ มาให้ชมกันนะครับ (รูปที่ลงได้ถูกย่อและลด Quality ลงเพื่อให้ได้ขนาดตามที่สามารถ upload ใน Pantip ได้นะครับ ความคมชัดอาจจะหายไปบ้าง สำหรับใครถ้าอยากติดตาม Album เต็มเข้าไปชมได้ที่ https://www.facebook.com/Coffeoto ครับผม)

          ทริปนี้เราวางแผนกันว่าจะไปถ่ายกันช่วงปลายปี ซึ่งแน่นอนเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีของประเทศที่สวยงามนี้ ถ้าใครวางแผนจะไปที่เมืองไหนอย่าลืมเช็กตารางให้ดีนะครับ เพราะแต่ละเมืองของประเทศญี่ปุ่นนั้นจะเริ่มเปลี่ยนสีไม่พร้อมกัน เว็บไซต์สำหรับเช็กใบไม่เปลี่ยนสีนั้นมีหลากหลายครับ ทางผมใช้ข้อมูลจาก http://www.japan-guide.com/e/e2014.html เพราะรู้สึกว่ามีรูปภาพประกอบจากสถานที่จริงมาประกอบด้วย จึงรู้สึกว่ามีประโยชน์มาก ๆ เลยครับ

          หลังจากดูตารางงานทั้งของผมและของลูกค้าแล้ว จึงได้ช่วงที่สามารถจะไปได้ช่วงปลายเดือนตุลาคม สถานที่ คือ มหานครกรุงโตเกียว ซึ่งถ้าดูจากตารางแล้วทางโตเกียวจะยังไม่เริ่มเปลี่ยนสีเลย ^^ (ถ้าใครอยากได้ใบไม้เปลี่ยนสีในโตเกียวต้องไปประมาณปลาย ๆ เดือนพฤศจิกายนครับ) ทางผมจึงลองดูตัวเลือกอื่น สรุปแล้วแพลนที่ออกมา ก็คือ เราจะไปถ่ายกันสองวัน

          วันที่ 1 คือ ตะลุยถ่ายกันในเมืองโตเกียว ไม่ต้องเน้นความธรรมชาติมาก เน้นความเป็นเมือง ความเป็นโตเกียว

          วันที่ 2 ไปถ่ายให้เห็นพระเอกของเรา นั่นคือ น้องฟูจิซัง อีกหนึ่งแลนด์มาร์กแสดงออกถึงความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างยิ่ง จริง ๆ มุมในการถ่ายเพื่อให้เห็นมุมฟูจินั้นมีค่อนข้างหลากหลาย แต่เราเลือกไปกันที่ทะเลสา Kawaguchiko 1 ใน  5 ของทะเลสาบรอบภูเขาไฟ และนับเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุด และที่สำคัญเราสามารถเดินทางไปเช้ากลับเย็นจากโตเกียวได้ครับ

พรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น

          เดี๋ยวผมจะค่อย ๆ เล่าไปเรื่อย ๆ นะครับ ไปกันเลยยยยยยยยยยย

          เราออกเดินทางกันโดยสารการบิน Airasia-X  เป็นเที่ยวบินกลางคืน ประมาณ 23.55 น. ไปถึงที่สนามบินนาริตะกันช่วงเช้า หลังจากผ่าน ตม. ที่นาริตะแล้วนั่งรถไฟ Keisei Skyliner เข้ามายังโรงแรมแถว Ueno ครับ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ก็ถึงโรงแรมแล้วครับ

          ในวันแรกนี้ทางทีมงาน Reserve 1 วันไว้สำหรับการ Survey ตามจุดต่าง ๆ ที่เราวางแผนไว้ว่าจะถ่ายจุดใดบ้าง เพื่อให้แน่ใจว่าเวลาพาลูกค้ามาถ่ายตามจุดนั้น ๆ จะได้รูปได้มุมตามที่วางแผนไว้ไหม หรือมีอุปสรรคอื่นใดบ้าง (แสง, มุม, คน และอุปสรรคอีก 108) หรือว่าต้องปรับเปลี่ยนแพลนที่เราคิดไว้ตั้งแต่อยู่เมืองไทยอะไรหรือไม่

          เราก็เริ่ม Survey ตามจุดต่าง ๆ ตามที่เราเล็งไว้ครับ เช่น มุมที่จะถ่ายให้เห็น Tokyo Tower, Tokyo Skytree, Rainbow Bridge, Shibuya etc... ซึ่งก็เป็นไปตามคาดที่ว่าโตเกียวนั้นใบไม้ยังเขียวสด ไม่มีการเปลี่ยนสีแม้แต่น้อย

          และแล้วก็ถึงวันถ่ายจริงครับ เราไปเริ่มกันที่ Tokyo Skytree ก่อนเลย นับเป็นสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดของญี่ปุ่น เป็นอันดับสองของโลก รองจาก Khalifa Tower ที่ดูไบ และนับเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของกรุงโตเกียว อันใหม่ เพิ่มเติมจาก Tokyo Tower ที่มีมาช้านาน

พรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น

          การเลือกมุมถ่ายนับเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ถ้าอยากได้รูปตามที่เราแพลนไว้ครับ บางครั้งรูปแค่ว่าแลนด์มาร์กที่เราจะถ่ายอยู่ตรงไหนอาจจะไม่พอ อาจจะต้องดูต่อว่าแล้วจะถ่ายให้แลนด์มาร์กนั้น ๆ เป็นองค์ประกอบในรูปนั้น ต้องอยู่จุดใด สถานที่ใด เวลาไหน เพื่อให้ได้รูปตามที่เราต้องการ

พรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น

พรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น

          ถึงแม้แพลนหลักสำหรับจุดแรกเราจะไปถ่ายกับ Tokyo Skytree แต่ถ้าเราเจอมุมสวย ๆ แสงสวย ๆ ระหว่างทางก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ

พรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น

พรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น

          อุปสรรคอย่างหนึ่งของทริปนี้ คือ การไปถ่ายรูปในช่วงเข้าใกล้หน้าหนาว ที่ญี่ปุ่นจะมืดเร็วมาก ๆ คือประมาณ 5 โมงเย็นนี่นึกว่าประมาณสักทุ่มหนึ่งของบ้านเรา แต่มันก็ทำให้เราได้มุมที่ถ่ายกับ Tokyo Tower อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองนี้ในซีนกลางคืน ซึ่งเมื่อ Tokyo Tower เปิดไฟช่วงกลางคืนแล้วก็สวยไปอีกแบบนะครับ

พรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น

          ไปต่อกัน โดยนั่งรถไฟข้ามไปยังเกาะ Odaiba กันครับ พระเอกของเรางานนี้คือเจ้า Rainbow Bridge นั่นเอง ถ้าใครจะมาที่นี่นะครับบอกเลยว่าลมแรงและหนาวมากกกกกกก แต่ก็นับว่าคุ้มครับกับวิวสะพานสวย ๆ แบบนี้ ปกติแล้วสะพานแห่งนี้จะมีสีรุ้ง แต่เนื่องจากวันที่เราไปวันนั้นเขาไม่ได้เปิดสีรุ้งแล้ว สอบถามทางพนักงานแถวนั้นได้คำตอบว่า เนื่องจากหลังจากเกิดเหตุสึนามิใหญ่ ทางประเทศญี่ปุ่นมีความต้องการประหยัดพลังงานลง เจ้าสะพานสีรุ้งนี้จึงจะเป็นสีรุ้งเฉพาะวันสำคัญ ๆ เท่านั้น เราเลยได้เป็นสะพานสีขาว ๆ แบบนี้แทนครับ สังเกตดี ๆ เราจะเห็น Tokyo Tower จากมุมนี้กลับไปด้วยครับ ^__^

พรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น

พรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น

          จบแล้วสำหรับคร่าว ๆ ในวันแรกครับ เนื่องจากตอนนี้ค่อนข้างดึกแล้ว และเรามีแพลนต้องเดินทางไป ทะเลสาบคาวากูจิโกะกันตั้งแต่เช้าเลย เลยจบวันแรกกันตรงนี้ครับ

          สำหรับวันที่สอง จริง ๆ ขอกลับมาที่แพลนนิดหนึ่งครับ เนื่องจากการที่จะไปที่คาวากูจิโกะตอนแรกเราก็สองจิตสองใจว่าจะไปดีหรือไม่ เหตุผลหลัก ๆ ที่ลังเลคือไปแล้วจะได้เห็นฟูจิซังหรือเปล่า จะคุ้มกับเวลาและเงินที่เสียไปหรือไม่ เนื่องจากก่อนเดินทางเราลองหาข้อมูลดูแล้วอาจจะยากสักหน่อยที่เราจะเห็นน้องฟูจิซังในช่วงที่เราถ่ายทำ ทางทีมงานเลย Plan ไว้สองแบบครับ คือ

          1. ถ่ายกันที่โตเกียวสองวันเลย

          2. ถ่ายโตเกียว+คาวากูจิโกะ

          สิ่งที่ใช้ในการตัดสินใจในครั้งนี้ คือ ตัวพยากรณ์อากาศ ซึ่งดูแล้วมีความน่าเชื่อถือว่าแม่นยำใช้ได้ ระบุว่าในช่วงเวลาที่เราบินนั้นท้องฟ้าโปร่งใส (อาทิตย์หนึ่งก่อนหน้าวันที่เราจะถ่ายนั้นเมฆบดบังทั้งอาทิตย์)

          เว็บไซต์ที่เราเอาไว้ดูในการวางแผนครั้งนี้ คือ เว็บนี้ครับ ดูได้ว่าแถวคาวากูจิโกะวันนั้นแดดดี วันไหนเมฆเยอะ หรือมีฝนหรือไม่ http://weather.yahoo.co.jp/weather/jp/19/4920.html ประกอบกับตัว live cam ครับ คือดูของจริงประกอบกับตัวพยากรณ์ด้วยว่าแม่นยำขนาดไหน http://www.fujigoko.tv/live/camera.cgi?e=1&n=10

          เราลุ้นกันจนถึงหนึ่งอาทิตย์ก่อนบิน และแล้วดูเหมือนฟ้าฝนจะเข้าข้างเรา ฮูเร !!!! แล้วเจอกันกันน้องฟูจิซัง

พรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น

          สำหรับใบไม้เปลี่ยนสีแถวคาวากูจิโกะนั้น ยังไม่เปลี่ยนเต็มที่สักเท่าไร แต่ถ้าพอหามุมสักนิดจะพอมีมุมให้เราได้ถ่ายเหมือนกันครับ ส่วนคนที่จะเดินทางเพื่อไปดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ทะเลสาบนี้ลองหาข้อมูลดูนะครับ ทางทีมงานเดินทางไปเมื่อปลายเดือนตุลาคมอาจจะเร็วไปสักนิด ถ้าไปช่วงพฤศจิกายนน่าจะเปลี่ยนสีกันเยอะกว่านี้ ยังไงลองตรวจสอบก่อนเดินทางนะครับ รับรองไม่ผิดหวังกับความสวยงามจริง ๆ ครับ

พรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น

          Momiji Tunnel หรืออุโมงค์ใบเมเปิล แถวทะเลสาบคาวากูจิโกะ เป็นอีกหนึ่งที่ที่มีความสวยงามและคนนิยมไปถ่ายรูปกัน แต่เนื่องจากช่วงที่ทีมงานไปนั้นใบไม้ในจุดนี้ยังไม่เปลี่ยนสี ถ้าลองคิดภาพตามว่าอุโมงค์แห่งนี้ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงและสีเหลืองคงจะสวยงามไม่ใช่น้อยนะครับ

พรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น

          สำหรับการมาถ่ายที่ญี่ปุ่น สิ่งที่เหมือนจะขาดไม่ได้อีกหนึ่งอย่าง คือ ชุดประจำชาติของญี่ปุ่นนั่นเอง ถ้าใครวางแผนจะมาถ่ายนอกสถานที่แบบนี้ อย่าลืมตรวจสอบว่ามีคนที่ใส่ชุดเป็นหรือเปล่านะครับ เพราะหน้างานถ้าไม่มีคนที่มีประสบการณ์มาใส่ให้นี่ถือว่ายากเอาเรื่องอยู่นะครับ ^^

พรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น

          Chureito Pagoda อีกหนึ่งสถานที่ที่น่าจดจำมาก ๆ ครับ เป็นเจดีย์ที่อยู่บนเขา ซึ่งต้องปีนขึ้นไปสูงมาก ๆ ผมไม่แน่ว่าบันไดจำนวนกี่ขั้น แต่รับรองว่าเหนื่อยกว่าเดินขึ้นดอยสุเทพแน่ ๆ ครับ โชคดีนะครับที่วันนี้ทางทีมงานและบ่าวสาวเช่ารถกันมา หลังจากขึ้นมาเรียกว่าวิวที่เห็นทั้งเจดีย์ทรงญี่ปุ่น+น้องฟูจิซังด้านหลังแล้ว หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยครับ (เอ๊ะไหนบอกว่านั่งรถขึ้นมา 555)

พรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น

พรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น

          อีกมุมหนึ่งจาก Chureito Pagoda ที่มองลงมาเห็นทั้งเมืองทั้งยอดฟูจิซังในช่วงแสงเย็น ปกติแล้วเวลาทีมงานไปถ่ายรูปลูกค้าจะใจจดจ่อกับการหามุม และไม่ค่อยได้สนใจดื่มด่ำความงามของวิวนั้น ๆ เท่าไร แต่มุมนนี้ยอมรับเลยครับว่าพอขึ้นไปเห็นกับตาแล้วเหมือนสตั๊นไป 10 วินาที เพื่อดื่มด่ำกับความงามที่ธรรมชาติสร้างมาให้โลกใบนี้จริง ๆ ครับ

พรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น

พรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น

          หลังจากเสร็จจากการถ่ายทำที่ Chureito Pagoda แล้ว เราเดินทางกลับมาที่โตเกียวกันทันที เพื่อที่จะไปถ่ายทำกันในจุดสุดท้าย นั่นคือแยก Shibuya ที่เต็มไปด้วยผู้คนหลากหลาย ทั้งวัยรุ่นและวัยทำงานที่มาช้อปปิ้งเที่ยวเล่นกันต่าง ๆ นานา ถามว่าไปถ่ายซีนนี้คนญี่ปุ่นเขามองไหม บอกเลยว่ามายืนดูตลอดการถ่ายทำครับ ^^

พรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น

          จบแล้วครับสำหรับเรื่องเล่าสนุก ๆ มุมต่าง ๆ ของเมืองโตเกียวและฟูจิซัง หวังว่าคนที่เข้ามาอ่านจะได้อะไรไปบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ สำหรับคนที่จะไปเที่ยวหรือไปถ่ายรูปอย่าลืมวางแผนกันดี ๆ นะครับ ถ้าวันที่ของเราไม่ได้ fix แนะนำให้จองวันไปเผื่อ ๆ แล้วไว้ไปดูช่วงใกล้ ๆ ว่าเราสามารถไปดูฟูจิได้วันไหน แล้วค่อยแพลนไปใกล้ ๆ อีกทีครับ จะได้ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

          ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ ^^

          Copyrighted by Coffeoto
          www.coffeoto.com
           instagram.com/coffeoto

          LineID : tuckcoffeoto, oomcoffeoto



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รีวิวพรีเวดดิ้ง ญี่ปุ่น พร้อมแนะมุมสวย ๆ ในการถ่ายภาพ อัปเดตล่าสุด 26 พฤศจิกายน 2557 เวลา 14:45:44 5,617 อ่าน
TOP