เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ถึงแม้คุณทั้งคู่จะตกลงปลงใจร่วมใช้ชีวิตคู่ด้วยกันแล้ว มันไม่ได้ความว่าเรื่องราวทุกอย่างจะจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง เหมือนในละคร เพราะชีวิตคู่ที่แท้จริงเริ่มจากวินาทีหลังจากแต่งงานต่างหาก อีกทั้งคุณไม่มีวันรู้เลยว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร จะสวยงามหรือมืดมน ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ตัวคุณทั้งคู่ ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันก่อนดีกว่าว่า มีเรื่องอะไรบ้างที่คุณทั้งคู่ควรหลีกเลี่ยง ไม่ควรทำให้คู่รักต้องเสียน้ำตา...
1. เครียดมากเกินไปหลังจากที่คุณแต่งงาน ทั้งภาระและหน้าที่ของคุณทั้งคู่ก็เพิ่มมากขึ้น ก็อาจหัวหมุนไปตาม ๆ กัน ทำให้หลายคนมักเก็บเอาความเครียดจากปัญหาต่าง ๆ มาลงกับคู่ครองของตัวเอง จนเกิดการโต้เถียงกันบ่อยครั้ง ซึ่งลิ้นกับฟันกระทบกระทั้งกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่หากกระทบบ่อย ๆ อาจจะสั่นสะเทือนถึงความสัมพันธ์ได้ ดังนั้น คุณทั้งคู่ควรถามสารทุกข์สุขดิบกันบ่อย ๆ หรือถ้าพอมีเวลาว่างก็พากันไปพักกายพักใจ ซึ่งจะช่วยลดความเครียดของคุณได้เช่นกัน
2. ไม่ซื่อสัตย์กับคนรักของคุณความซื่อสัตย์...เป็นสิ่งสำคัญในชีวิตคู่ อย่างที่ใคร ๆ พูดกันว่า "รักได้แค่ครั้งละคน แต่ความเชื่อใจให้ได้แค่คนละครั้ง" ก็แหม...คงไม่มีใครอยากแต่งงานกับแม่เสือสาวหรือหนุ่มเจ้าสำราญหรอก เพราะการแต่งงานแสดงให้เห็นว่าเขามั่นใจในความรักของคุณ แถมคุณก็เป็นคนที่ดีที่สุดแล้ว ดังนั้น อย่าไปทำลายความศรัทธาในความรักของเขาเลยนะคะ
3. ออกเที่ยวกับเพื่อนตลอดหากมีเวลาว่างกิจกรรมที่คุณมักทำเสมอ นั่นคือ การออกไปช้อปปิ้ง ดูหนัง กินข้าวกับกลุ่มเพื่อนสาว หรือถ้ามีวันหยุดยาวก็จะแพ็คกระเป๋าออกเดินทางขึ้นเหนือล่องใต้กับเพื่อน ๆ ตลอด จนใคร ๆ คิดว่าคุณยังโสด เอ้า..แล้วแบบนี้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคู่รักจะดีขึ้นได้อย่างไร ทางที่ดีหากคุณเป็นคนชอบท่องเที่ยว ทำไมไม่ชวนเขาวางแผนไปเที่ยวต่างจังหวัด เก็บรูปเป็นความทรงจำดี ๆ ระหว่างคุณกับเขา แล้วเอาไว้เล่าให้ลูก ๆ ฟังบ้างล่ะ อะ ๆ แต่ถ้ามีเวลาไม่มากพอ แค่ลองแบ่งเวลาจากเพื่อน ๆ มาชวนเขาไปกินข้าว ดูหนังบ้างก็ดีนะ
4. ใช้ความรุนแรงตัดสินปัญหาการใช้ความรุนแรงตัดสินปัญหาไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะหากคุณทั้งคู่ทะเลาะกันถึงขั้นตบตีกันแล้วนั้น เปอร์เซ็นต์หย่าร้างจะมีสูงมากกว่าคู่รักที่มีปัญหาในเรื่องอื่น ๆ ทั่วไป ซึ่งถึงแม้จะมีเรื่องที่คุณทั้งสองคนไม่เข้าใจ ก็ควรพูดกันดี ๆ หรือถ้ายังอารมณ์ร้อนทั้งคู่ก็ปล่อยให้อารมณ์เย็นลงก่อน แล้วค่อยคุยกันใหม่จะดีกว่า
5. ไม่มีเวลาดูแลคนรักทุกคนต่างก็มีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากันทั้งนั้น แต่ขึ้นอยู่กับว่าใครจะบริหารเวลาได้ดีกว่ากันเท่านั้นเอง ถึงแม้คุณไม่มีเวลาดูแลคู่รักของคุณมากนัก แต่ก็สามารถแสดงความรักทางอื่นก็ได้ เช่น สวมกอด พูดจาให้กำลังใจกัน หรืออาจจะหากิจกรรมทำร่วมกัน สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ก็ทำให้ชีวิตคู่ยืนยาวได้แล้วค่ะ
6. แยกห้องนอนอาจเพราะคู่รักของคุณชอบนอนกรน ละเมอ หรือกัดฟัน ฯลฯ แต่ในเมื่อคุณเลือกใช้ชีวิตคู่ด้วยกันแล้ว คุณควรยอมรับในกันและกันให้ได้ หรือลองให้เขาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่คุณไม่ชอบ พฤติกรรมที่ทำให้คุณนอนไม่หลับ หรือรู้สึกรำคาญจนต้องแยกห้องนอน ดังนั้น คุณควรบอกเขาไปตรง ๆ ดีกว่าเก็บไว้เป็นระเบิดเวลา
7. ความสนใจแตกต่างกันจนเกินไปทั้งไลฟ์สไตล์และเรื่องส่วนตัวทำให้คุณต้องทะเลาะกันบ่อย ๆ ทางที่ดีถ้าคุณไม่มีอะไรเหมือนกันเลย คุณควรแบ่งเวลาให้กับความสนใจของคุณส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งสำหรับกิจกรรมที่ทำร่วมกันได้ เช่น เล่นกีฬา เดินเล่นในสวน จิบกาแฟร้านสวย ๆ ก็ดีนะ
8. คิดไปเองคุณมักคิดและสรุปทุกอย่างไปเอง โดยที่ไม่ถามเจ้าตัวสักนิดว่าเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายลงเอยด้วยการทะเลาะกัน ฉะนั้น ก่อนอะไร ๆ มันจะเลยเถิด ถ้าสงสัยอะไรให้ใจเย็น ๆ แล้วค่อย ๆ สังเกตสถานการณ์ไปก่อน จากนั้นค่อยถามรายละเอียดจากปากเจ้าตัวจะดีกว่า อย่าเพิ่งคิดเองเออเองแล้วสรุปผลเองนะจ๊ะ คิดไว้เสมอว่าชีวิตคู่คือการเชื่อใจกันและกัน
9. เบื่อคู่ครองของตัวเองชีวิตคู่หากเดินทางมาถึงจุดที่ตกอยู่ในภาวะอารมณ์เบื่อคู่ครองของตัวเองแบบไม่มีสาเหตุ ไม่อยากอยู่ใกล้ หรือเขาทำอะไรก็ผิดไปหมด จนอยากจะเลิกรากันไปนั้น ก่อนที่ตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรดี ควรลองหันมาสำรวจตัวเองดูก่อนว่าคุณเครียดเกินไป หรือเหนื่อยล้าจากการทำงานมากเกินไปหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ออกไปพักผ่อนกับเพื่อน ๆ ทำกิจกรรมที่คุณชอบ หรือไปในที่ที่พวกคุณเจอกันครั้งแรก อาจทำให้ความสัมพันธ์กลับมาดีขึ้นกว่าเดิมก็ได้
10. เสพติดเรื่องบนเตียงหากหมกมุ่นกับเรื่องเซ็กส์มากเกินไปก็ไม่ใช่ชีวิตคู่ที่ดีนัก เพราะเซ็กส์เป็นแค่ส่วนหนึ่งของการแต่งงาน แต่ไม่ได้หมายถึงทั้งหมดของชีวิต และชีวิตคู่สามารถสร้างความสุขได้หลายวิธี บางคู่แค่นั่งดูโทรทัศน์ด้วยกันก็มีความสุขแล้ว อย่าเอาเรื่องนี้มาเป็นปัญหาให้ชีวิตคู่ต้องหม่นหมองเลยดีกว่า
การแต่งงานก็เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอีกครั้งหนึ่งของชีวิต คนที่คุณแต่งงานด้วยนั้น แสดงว่าเขาเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ฉะนั้น ก็ควรให้เกียรติกันและกัน หากมีอะไรไม่เข้าก็หันหน้าเข้าหากัน พูดกันตรง ๆ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ เพราะอย่าลืมนะคะว่ากว่าจะถึงวันนี้ คุณและเขาต้องผ่านอะไรมาบ้างอย่าให้เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มาทำให้คุณสองคนต้องผิดใจกันเลยนะคะ
วางแผนแต่งงาน ชุดแต่งงาน เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับงานแต่งงาน คลิกเลย
