แต่ถ้าหากหยิบจับดอกไม้มาใส่ในงานแต่งไม่ถูกตำแหน่งก็อาจจะทำให้มันกลายเป็นสิ่งที่รกหูรกตาไปได้ วันนี้เรามีเคล็ดลับในการจับวางดอกไม้ใส่ลงไปในงานแต่งมาฝากกันค่ะ จะมีตำแหน่งไหนในงานบ้างนั้นไปติดตามกันเลยค่ะ
1. บนโต๊ะอาหาร
ตำแหน่งแรกที่เราสามารถจัดวางดอกไม้ลงไปได้โดยไม่ทำให้มันดูเก้อเขินมากนักก็คือโต๊ะอาหารค่ะ โดยอาจจะวางไว้เพียงดอกเดียวบนจานอาหารหรือในแจกันทรงสูง แต่ถ้าอยากใส่ให้มากกว่านี้ก็ได้เช่นกัน โดยจัดให้เป็นช่อสวยงาม ใส่แจกันทรงเตี้ย วางไว้ตรงกลางโต๊ะ หากเป็นโต๊ะยาวก็สามารถวางไว้ได้ 2-3 ช่อ แล้วแต่ความยาวของโต๊ะ แต่ให้มีระยะที่พอเหมาะ ไม่ห่างกันมากเกินไปและไม่ใกล้กันมากเกินไปจนรู้สึกอึดอัด หากต้องการให้โต๊ะอาหารดูหวานขึ้นอีกนิดก็สามารถจัดดอกไม้เป็นช่อเล็ก ๆ ติดไว้บนเก้าอี้ด้านใดด้านหนึ่ง ประดับด้วยริบบิ้นสีโทนเดียวกับธีมงาน ก็จะทำให้โต๊ะอาหารดูน่านั่งขึ้นอีกเยอะเลยทีเดียว
2. บริเวณทางเดิน
หลายคนคงคิดไม่ถึงว่าบริเวณทางเดินจะสามารถนำดอกไม้มาประดับประดาได้ด้วย แต่มันเป็นจุดที่เหมาะมาก ๆ สำหรับการนำดอกไม้ลงมาจัดวาง ถ้าเป็นพื้นหญ้าอาจจะใช้กลีบดอกไม้โรยลงไปเป็นแนวทางเดินให้แขกได้เดินไปยังส่วนต่าง ๆ ของงาน หรืออาจจัดเป็นพุ่มเล็ก ๆ ไว้บนเสาสูงประมาณเอว ตั้งเรียงรายเป็นทางยาวไปสู่จุดสำคัญของงาน หรืออาจจะสลับกับตะเกียงไฟสำหรับงานยามค่ำคืนก็โรแมนติกไม่แพ้กัน
3. ทรงผมของเจ้าสาว
เป็นจุดเล็ก ๆ แต่ก็ไม่ควรพลาด สำหรับการประดับผมของเจ้าสาวด้วยดอกไม้ ซึ่งต้องดูว่าเจ้าสาวแต่ละคนนั้นทำผมทรงไหน ก็เลือกปักดอกไม้ลงไปให้เหมาะกัน อาทิ ถ้าเกล้าผมเป็นมวยต่ำไว้ข้างหลังก็ปักดอกไม้ไว้บนมวย หรือถ้าถักเปียก็ใช้ดอกคัตเตอร์สีขาวประดับลงไปบริเวณเปีย สวยงามเป็นธรรมชาติสุด ๆ นอกจากนี้ เพื่อนเจ้าสาวหรือแขกที่มาร่วมงานก็สามารถร่วมประดับดอกไม้บนศีรษะได้เช่นกัน
4. ซุ้มทางเดินเข้างาน
การตกแต่งซุ้มบริเวณเข้างานด้วยดอกไม้เป็นตำแหน่งที่นิยมมากที่สุด ซึ่งไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นประตูซุ้มโค้งเสมอไป อาจจะจัดเป็นกำแพง เพื่อสามารถใช้เป็นฉากหลังในการถ่ายภาพได้ด้วย แต่ถ้าหากกลัวงบในการซื้อดอกไม้สดจะบานปลาย ใช้ดอกไม้ปลอมแซมก็ยังคงสวยงามเช่นกัน ซึ่งต้องเลือกสีและชนิดของดอกไม้ให้ไปในทิศทางเดียวกัน และไม่ควรใกล้เคียงกับสีของชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวมากนัก เพราะมันจะทำให้ถูกกลืนไปเวลาถ่ายรูป
5. ชุดแต่งงาน
ตกแต่งทั้งงานให้หวานแหววไปด้วยดอกไม้กันแล้ว ก็ต้องมาเนรมิตให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้มีส่วนเชื่อมโยงกับบรรยากาศในงานด้วย ทางฝั่งเจ้าบ่าวอาจจะทำบูโทเนียร์ (Boutonniere) หรือดอกไม้ติดเสื้อเจ้าบ่าวมาประดับสักเล็กน้อย ส่วนทางฝั่งเจ้าสาวก็สามารถประดับชุดด้วยดอกไม้ได้เช่นกัน แต่ต้องไม่มากมายนัก เพราะจะทำให้ดูรกจนเกินไป
6. รถแต่งงาน
ไม่ว่าจะเป็นประเพณีของศาสนาหรือประเทศใด สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ "รถแต่งงาน" เพื่อลดความแข็งกระด้างของเจ้าเหล็กคันโต เราจึงสามารถประดับช่อดอกไม้เล็ก ๆ ไว้ที่กระจังหน้ารถหรือบริเวณกันชนท้ายรถ ขอแนะนำว่าไม่ควรใช้ริบบิ้น เพราะอาจจะทำให้พันกับเครื่องยนต์จนเป็นเหตุให้เครื่องยนต์ขัดข้องหรือมีปัญหาอื่น ๆ ได้
7. บริเวณรอบ ๆ งาน
การประดับประดาดอกไม้ไม่จำเป็นที่จะต้องจัดวางไว้เฉพาะจุดใดจุดหนึ่ง เจ้าของงานสามารถตกแต่งดอกไม้ได้รอบ ๆ งาน ยิ่งถ้าเป็นงานแต่งในสวนยิ่งง่าย เพราะสามารถนำดอกไม้สดมาประดับกับต้นไม้ภายในงานได้อย่างสวยงาม อาจจะร้อยเป็นมาลัยยาวแล้วนำไปผูกกับต้นไม้ให้ห้อยระย้า หรือมัดเข้ากับต้นเสาก็เก๋ไก๋ไปอีกแบบ
สำหรับเจ้าสาวและเจ้าบ่าวที่เป็นฟลาวเวอร์เลิฟเว่อร์ก็สามารถตกแต่งดอกไม้ลงไปได้ในทุกตำแหน่งข้างต้น แต่ใครจะเลือกเฉพาะบางตำแหน่งก็ได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสถานที่และพิธีการด้วย การตกแต่งด้วยดอกไม้นั้นต้องไม่ลืมที่จะคำนึงถึงชนิดของดอกไม้และสีสัน เพราะบางชนิดอยู่ได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็แห้งเหี่ยว ส่วนสีก็ต้องเลือกให้เข้ากับธีมของงาน เรารอชมงานแต่งของคุณอยู่นะคะ :)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
wedding.allwomenstalk.com และ utahbrideandgroom.com
