รีวิวงานแต่งงานสุดหรู ดูแพง ในราคาที่จับต้องได้

          เมื่อคู่รักคบกันมาได้ระยะเวลาหนึ่งเชื่อว่าทั้งคู่จะต้องคิดเรื่อง "แต่งงาน" ขึ้นมาอย่างแน่นอน เพราะเป็นอีกหนึ่งพิธีสำคัญในการตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตครอบครัวอย่างสมบูรณ์ แต่ด้วยหน้าที่การงาน "มนุษย์เงินเดือน" ที่หลายคนเป็นอยู่ ต่างมีข้อจำกัดทั้งเรื่องค่าใช้จ่าย วันเวลา หรือเรื่องจิปาถะมากมายที่ต้องสะสางในลงตัวที่สุด วันนี้เราเลยมีรีวิวประสบการณ์การจัดงานแต่งงานให้สวยหรู ดูแพง ในหอประชุม ฉบับมนุษย์เงินเดือน จาก คุณสมาชิกหมายเลข 2831791 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาฝากกันค่ะ ส่วนจะมีวิธีไหนและใช้ทริคสำคัญอะไรบ้างที่จะมาลดข้อจำกัดให้ลงตัวที่สุด ตามไปชมแบบเต็ม ๆ กันเลยค่ะ


          สวัสดีค่ะ ครบรอบแต่งงาน 1 สัปดาห์พอดี เราเพิ่งจะมีเวลาว่างมารีวิวการจัดงานแต่งงานที่ดูหรู ดูแพงในหอประชุมตามประสามนุษย์เงินเดือน ที่มีรายได้เสริมจากการเปิดร้านขายยาหลังเลิกงาน ให้สวยสมบูรณ์แบบที่สุดและรบกวนคุณพ่อคุณแม่ให้น้อยที่สุด


          อุปกรณ์ : เงินเดือนทั้ง 2 คน+เงิน OT+เงินจากร้านขายยา+บัตรเครดิต 3 ใบ

          ระยะเวลาเตรียมตัว 1 ปีครึ่ง
   
           Concept : งานดูหรู ดูแพง และคลาสสิก ในราคาที่จับต้องได้ตามประสามนุษย์เงินเดือน

          วิธีทำ

          1. ตั้งงบประมาณที่สามารถจ่ายได้ หารจำนวนเดือนในการเตรียมงาน จะทราบว่าต้องเก็บตังค์เดือนละเท่าไร แล้วพิจารณาที่มาของเงินทั้ง 4 ส่วน จะเป็นไปได้หรือไม่

          2. เปิดบัตรเครดิตหรือเตรียมวงเงินไว้ให้พร้อม บางครั้งเราต้องสงวนเงินสดไว้และใช้บัตรรูดแทน ค่อยเคลียร์บิลวันที่เรียกเก็บในภายหลัง

          3. จะตัดสินใจเลือกอะไรต้องเปรียบเทียบหลาย ๆ ที่ ข้อดี ข้อเสีย ต้องกล้าที่จะยกเลิกอะไรที่คุยไว้แล้วมีเจ้าอื่นที่ดีกว่า ถูกกว่า เพราะทุกอย่างคือ "เงิน" ที่เราตั้งใจทำงานหนักมา

          4. เปิดไฟล์ Excel ไว้ลงรายละเอียดรายรับและรายจ่ายให้ละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ

          งานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสเป็นโต๊ะจีน จัดในวันขึ้น 11 ค่ำ เดือน 12 ปี 2558 เป็นฤกษ์ดีที่พ่อเจ้าบ่าวจัดมาให้

          สถานที่ : ศูนย์ประชุมมารินทร์ จังหวัดมหาสารคาม หลายคนคิดว่าเราทำไมไม่จัดงานที่โรงแรม ต้องบอกก่อนว่าสาเหตุที่ต้องเลือกที่นี่เพราะแขกเราเยอะมาก 150 โต๊ะ แต่โรงแรมประจำจังหวัดจุได้เพียง 60-70 โต๊ะ โดยประมาณค่ะ ข้อดีคือที่นี่อาหารอร่อยขึ้นชื่อค่ะ เพราะเค้าเป็นสวนอาหารมารินทร์ ข้อเสียคือสถานที่ยังคงความเป็นหอประชุมสูง ผนัง ฝ้า เพดาน เวที จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายในการตกแต่งพอสมควร ส่วนราคาโต๊ะจีนเริ่มที่ 2,xxx บาทขึ้นไปค่ะ ไม่มีค่าสถานที่


          Tip : งานโรงแรมสวยในตัว สามารถตกแต่งสถานที่ในราคาหลักหมื่นได้งานสวยหรู/งานศูนย์ประชุมราคาถูกกว่าโรงแรม สถานที่กว้างขวาง แต่ต้องตกแต่งเยอะพอสมควร ต้องถมหลายส่วนให้เต็ม เวที เค้ก แกลลอรี่ แบ็คดรอป

          ธีมงานแต่งงาน : เราสองคนสรุปกันว่าของานที่ดูหรู ดูแพง และคลาสสิกในราคาที่จับต้องได้ สีที่เลือก หลัก ๆ คงต้องเป็นสีทองเพื่อให้ดูหรู ส่วนแขกต้องแต่งกายอีกโทนสีที่แมตช์กัน จากการรีวิวเราสะดุดที่โทนสี Navy blue หรือสีกรมท่า เราเลือกอย่างหนักแน่นมาก หลายคนสงสัยว่าทำไม ทำไมต้องสีน้ำเงินกรมท่า แล้วสีไม่ทึบไปเหรอ บางคนให้ความเห็นว่าทำไมต้องใส่ชุดดำมางานแต่ง (คนแสดงความเห็นไว้ในงานอื่นที่จัดธีมสีกรมท่า) แต่พอออกมาเป็นคู่สีที่หรู คลาสสิก สมใจมากค่ะ



          Tip : เลือกสีที่เป็นตัวตนของตัวเองที่สุด ถ้าเลือกสองสี ทูโทน ให้จินตนาการหรือดูตัวอย่างงานเยอะ ๆ เอาสีที่ตอบโจทย์ที่สุด

          ออแกไนซ์ : Seasonray ว่ากันด้วยเรื่องออแกไนซ์ มนุษย์ต่างจังหวัดอย่างเรามีตัวเลือก ทีมงานที่โดนใจไม่มากนัก ไปหาเจ้าไหนเค้าก็คิวไม่ว่างกันแล้ว เราเลยลองคุยกันว่าหรือเราจะลองติดต่อทีมจากกรุงเทพฯ แต่ยังแอบกังวลว่าเค้าจะมีปัญหาในการเดินทางไหม เค้าจะขนของมายังไง ฝนจะตกหรือไม่ แต่ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ล่าสุดพี่เรย์จัดให้ คุณอ้อน เกวลิน ด้วย ^^เราเลือกงานแบบที่พี่เรย์มี แล้วปรับแต่งเอา ไม่ใช่งานสร้างใหม่ เพราะราคาไม่แพง มนุษย์เงินเดือนอย่างเราไม่ต้องติดหนี้หัวโต เพื่อให้ได้มาซึ่งงานที่สวยอลังการ บางร้านในเขตจังหวัดเรา งานสวยค่ะแต่ราคา 800,000 บาท โอ้วววววววว ไม่ไหวค่ะ สรุปราคาเราคุยเริ่มต้นที่ 2xx,xxx บาท รวมค่าเดินทาง ไม่รวม lighting (งานศูนย์ประชุมต้องบอกว่าการย้อมไฟสำคัญมาก)








          Tip : เลือกจากผลงานและลักษณะการทำงาน การรีวิว การขอบคุณของบ่าวสาวหลังเสร็จงาน ความน่าเชื่อถือ อยากจะบอกว่าความสะดวกและค่าใช้จ่ายในการเดินทางของเค้าก็สำคัญ บางครั้งเป็นเงินหลายหมื่นบาท แต่ขึ้นกับความพอใจที่จะจ่ายของเรา

          ช่างภาพ : Jigcho Photography ช่างภาพทีมหลัก พิธีการ+แคนดิดเราไม่คิดมากค่ะ ชอบงานใครแนวไหน จัดเลยค่ะ การเดินทางเค้ามาได้อยู่แล้ว ไม่ได้ขนของมามากมาย เราสองคนชอบแนวอารมณ์ Dark Tone มาเต็มค่ะ ราคาที่สรุปกัน รวมค่าเดินทางโดยรถตู้ ประมาณ 4x,xxx บาท ค่ะ มีช่างภาพพิธีการ+ช่างภาพแคนดิด รวมประมาณ 5 คน ทุกคนเฟรนด์ลี่ค่ะ ก่อนที่เราจะได้ทีม Jigcho เราเคยแอบติดต่อทีมระดับประเทศด้วยนะ คุณ J เข้าถึงง่ายค่ะ ผลงานเป็นที่ประจักษ์ตามสื่องานดารา แต่พี่เค้าไม่ว่าง ราคาเหรอคะ ไม่ต้องพูดถึง 555+ ตามคุณภาพเลยค่ะ


          Tip : ขั้นแรกควรมีทัศนคติที่ดี เต็มที่ ลุย มีเวลาคุยมากพอกับลูกค้า วันงานควรบิวท์อารมณ์จัดท่าทางเราได้ หลังงานต้องมั่นใจว่าผลงานต้องมีคุณภาพมากพอ งานส่งตรงเวลา เหล่านี้ต้องดูจากการรีวิวของลูกค้าเค้า

          Cinematography : Day Wedding เราให้ทาง Jigcho ช่วยตัดสินใจค่ะ แอบเห็นถ่ายให้ดาราบางท่าน ผลงานไม่ธรรมดาค่ะ สรุปราคากันที่ 2x,xxx บาท

          Tip : ขั้นแรกควรมีทัศนคติที่ดี เต็มที่ ลุย มีเวลาคุยมากพอกับลูกค้า ควรเป็นทีมหรือเคยร่วมงานกับช่างภาพเพื่อรู้มุม รู้ใจกันไม่แย่งมุมกัน ต้องมั่นใจว่าผลงานต้องมีคุณภาพมากพอ งานส่งตรงเวลา เหล่านี้ต้องดูจากการรีวิวของลูกค้าเค้า

          มาต่อกันที่องค์ประกอบในงานนะคะ

          Wedding Presentation+ช่างภาพแคนดิด : เราได้ทีม Banrak Studio ค่ะ ในจังหวัดมหาสารคาม ผลงานวิดีโอน้องสวยอย่างไม่น่าเชื่อว่าอยู่ในมหาสารคาม จัดเลยค่ะ ในส่วน Wedding Presentation ราคาไม่ถึง 10,000 บาท เราว่าน้องราคาโอเคกว่าเจ้าอื่น ๆ เริ่มจากเราสองคนมีจินตนาการก่อนว่าวิดีโอเราต้องบอกเรื่องราวของเราสองคนที่ผ่านมาได้สมบูรณ์แทนการพูดคุย เพราะกว่าจะมีวันนี้ผ่านเรื่องอะไรมาเยอะค่ะ ทั้งสุขสุด ๆ และทุกข์สุด ๆ จึงคุยกับน้องให้ดีไซน์และถ่ายทอดออกมา ผลตอบรับดีเกินคาดค่ะ


          Tip : ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราต้องการพรีเซ็นต์และทีมงานตอบโจทย์หรือไม่ หลักการเลือกคล้าย ๆ กับช่างภาพ+ช่างวิดีโอค่ะ

          แต่งหน้าทำผมเจ้าสาวและเจ้าบ่าว : โดย อ.อ๊อฟ อรอุบล เวดดิ้ง ค่ะ แอบรู้มาว่า อ.อ๊อฟ มีรางวัลเวทีใหญ่ การันตีด้วย เรารู้จักผ่านงานของเพื่อนค่ะ จำได้ว่าเพื่อนเราสวยมาก สวยตั้งแต่ผม หน้า ผิว จรดปลายเท้า สวยที่สุด ก็ไม่ผิดหวังค่ะ สรุปราคากันที่ 3x,xxx บาท 2 ช่วงเวลาเช้าและเย็น รวมค่าเดินทางรวมที่พัก แต่งให้คู่บ่าวสาว คุณแม่ คุณพ่อ และน้องสาวค่ะ



          Tip : เลือกที่ผลงานเต็ม ๆ เลยค่ะ แขกเค้าเดินมาอย่างแรกที่เค้ามองคือหน้าเจ้าสาวค่ะ ต้องสวย เป๊ะ ปัง เลือกโทนสีที่เหมาะกับเรา ถ้าโชคดีก็จะเจอช่างที่เปิดใจ ฟังความคิดเห็นเรา พร้อมแก้ไขจุดด้อยต่าง ๆ ของเราจนเรามั่นใจค่ะ ตอนแรกว่าจะเลือกทาปากสีแดงค่ะ แต่ช่างให้เหตุผลว่าเราอาจจะดูสวยในวันนั้น แต่จะไม่ใช่เจ้าสาวที่สวยนานค่ะ

          วงดนตรี : ตอนแรกเลยเราคิดว่าอยากได้วงที่เล่นแนวเพลงสากลและป๊อปได้ สรุปเค้าก็เล่นได้ทุกวงนั่นแหละ แต่มีอาจารย์ที่รู้จักแนะนำน้องวงนารีรำพึงมา น้องเล่นหลายที่ เราไปฟังก็โอเคตกลง คุยง่าย น้องให้เราเลือกเพลงไปน้องจะไปทำการบ้านกันเอง จะมาเต็มวงค่ะ นอกจากนั้นเรายังเคยแอบติดต่อนักร้องดัง ๆ เพื่อมา Feat ราคาขึ้นกับชื่อเสียงและระยะเวลา มาเดี่ยว หรือคู่ค่ะ ราคาประมาณ 5x,xxx บาทขึ้นไป พอรับได้ค่ะ แต่รู้สึกเสียดายตรงไม่รวมค่าเครื่องบินของนักร้อง ผู้จัดการ และทีมงาน และค่าห้องพักต้องเป็นโรงแรมระดับจังหวัดให้ทุกคนด้วย โอ้วววววโนววววว เสียดายตังค์จุง …สรุปราคาวงดนตรีอยู่ที่ 1x,xxx บาท

          Tip : ขึ้นกับว่าเราชอบแนวเพลงแบบไหน เครื่องดนตรีแบบไหน เต็มวง, Quartet BAND 4 ชิ้น, Trio BAND 3 ชิ้น, Duo BAND 2 ชิ้น, SOLO เดี่ยว และที่สำคัญต้องได้ฟังเค้าเล่นด้วยค่ะ

          มินิคัพเค้ก : จากร้านดิษยา จังหวัดมหาสารคาม คัพเค้กกุหลาบโทนสีน้ำเงินสำหรับส่งมอบให้ผู้ใหญ่ สวยสมใจมาก ชิ้นละ 50 บาท คุณอาทใจดี ทั้งยังแถมให้อีก 10 ชิ้น


          Lighting and Sound : ของคุณเอ็ม MT Group จังหวัดมหาสารคาม คุณภาพแสงและเสียงของทีมงานเพื่อให้ครอบคลุมทั่วศูนย์ประชุม เมื่อเจอทีมออแกไนซ์ที่แพลนงานมาดีทุกอย่างจึงราบรื่นไปได้ด้วยดีค่ะ



          แหวนแต่งงาน : ร้าน Soothatip Gallery ในจังหวัดมหาสารคาม งานสั่งทำใหม่ เพชรมีใบ Certificate คุณลูกปลา ลดราคาให้พิเศษ จึงได้งานที่งดงามสมใจในราคาที่เหมาะสม



          ชุดเจ้าบ่าว : สั่งตัดจากร้าน New Stitches Tailors, Thailand ชุดเจ้าบ่าวใช้ชุด Classic Black Tuxedoโบสีกรมท่าปกโค้งผ้ามัน ผ้าเช็ดหน้าสีทอง ซึ่งตัดมาใช้สำหรับถ่ายพรีเวดดิ้งไปแล้ว 1 ครั้งค่ะ



          ชุดเจ้าสาว : ตัดเช่าจากร้าน Paris Mon Amour จังหวัดขอนแก่น โดยส่วนตัวผู้หญิงเรามีความฝันไว้มากมายค่ะกับชุดแต่งงาน เราแอบสังเกตว่าปีนี้งานลูกไม้ซีทรูมาแรง ตั้งแต่งาน คุณลีเดีย เลยพยายามหาร้านที่มีชุด "เช่า" ที่เป็นซีทรูลูกไม้ คงความหวานปนเซ็กซี่ค่ะ หายากมาก เลยตัดสินใจ "ตัดเช่า" ค่ะ ได้แรงบันดาลใจมากจาก Collection ของ Zuhair Murad Spring 2016 ตอนแรกตกใจกับราคาค่ะ 4x,xxx บาท ได้ชุดไทยบ่าวสาวอีก 2 ชุด แต่ได้ตัดสินใจไปแล้ว และแอบไปเห็นชุดเช่าจากร้านชื่อดังในกรุงเทพฯ ร้านหนึ่งชุดแบบเราเป๊ะ แต่ของเราราคานี้ถูกกว่าค่ะ แต่ได้แบบที่ต้องการตัดใหม่ในไซส์เราเลย






          Tip : เลือกแบบที่เราชอบที่สุดเป็นหลัก เสียงจากคนอื่นเอาไว้เป็นส่วนประกอบรอง ชุดต้องดูดีและดูไม่ตกรุ่นไปอีกหลายปี ที่สำคัญควรเปรียบเทียบจากหลาย ๆ ร้าน  สอบถามจากเพื่อน ๆ ที่มีประสบการณ์ ปัญหาที่พบในวัน Fitting ชุดตัดมาพอดีตัวแต่ติดที่ยาวไป เดินแล้วเหยียบชายค่ะ รองเท้าที่เราไปเดินซื้อมาที่ยูเนี่ยนมอลล์เป็นส้นสูง 6 นิ้วค่ะ รองเท้าเจ้าสาวมีแบรนด์ Sirena นะคะที่ขึ้นชื่อแต่เราไม่มีเวลามากพอที่จะไปวันนั้น และคิดว่าคงไม่มีรองเท้าเจ้าสาวแบรนด์เนมที่มีส้นสูงขนาดนี้ ถ้ามีคงต้องสั่งตัดแล้วแหละ เลยจัดรองเท้าแฟชั่นในราคา 600 บาทค่ะ แต่ ๆๆ ไม่พอค่ะ 6 นิ้ว กับชุดนี้ยังเดินเหยียบค่ะ


          เลยคุยกับร้านว่าจะทำยังไงดี ร้านแนะนำ 2 อย่าง คือ

          1. เย็บชายขึ้นแต่พอเย็บขึ้นเชิงลูกไม้ที่ชายกระโปรงหายไปค่ะ ไม่สวยเลย

          2. ใส่รองเท้าที่สูงขึ้นอีกประมาณ 3-4 นิ้ว ตัวเลือกนี้น่าสนค่ะ คนตัวเล็กอย่างเราถนัดกับรองเท้าส้นสูงอยู่แล้ว

          จัดไปค่ะ 9 นิ้ว เป็นส้นสูงจากร้านเช่าชุดไทย ชุดประกวด การแสดงในจังหวัดมหาสารคาม ราคาเช่า 200 บาท เสร็จงานขอซื้อไว้ในราคา 1,000 บาท ขอเป็นคู่เก่าคู่นี้เลยค่ะ เพราะเรารู้สึกว่าเค้าเป็นส่วนหนึ่งในวันสำคัญของเรา ทำให้เราสวย สง่า ไม่มีล้ม เท้าพลิกแพลงอย่างที่กังวล ใส่ตลอดงาน รวมทั้งเดินขอบคุณทีมงานหลังจากงานเลิกได้ทั่วศูนย์ประชุมไม่มีเหนื่อยค่ะ


          Tip : ถ้าเป็นเจ้าสาวตัวเล็กอย่างเราจัดเถอะค่ะ 9 นิ้ว 10 นิ้ว ฝึกเดินก่อนงาน วันงานคุณจะดูสง่า เมื่อยืนท่ามกลางแขกที่มาร่วมงาน แต่ต้องไม่สูงเกินเจ้าบ่าวนะคะ

          การ์ดแต่งงาน : จากร้าน Viriya และ Anya Wedding เป็นร้านที่โด่งดังจากนักรีวิว ผลงานเค้าจะสวยสะดุดตา โดยเราดูจากรีวิวและ Facebook ตามการ์ดแต่งงานดาราหลายท่านก็ใช้บริการร้านนี้ แล้วบังเอิญไปเจอที่งาน Wedding Fair ที่โรงแรมเดอะ แกรนด์โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่นพอดี ได้ของแถมเป็นสมุดอวยพรปกภาพพรีเวดดิ้ง 2 เล่ม และได้ส่วนลดค่าขึ้นแบบด้วยราคาแบบสร้างใหม่ ตอนนั้นอยู่ที่ 2x บาทขึ้นไป ส่วนซองสีทองที่ร้านไม่มี เราไปซื้อที่ ร้าน555 paperplus 950 ซอง ได้ในราคาสองบาทกว่าค่ะ ร้านมีหลายสาขาในกรุงเทพฯ ค่ะ



          Tip : ขึ้นอยู่กับว่าเราจะให้ความสำคัญกับค่าใช้จ่ายส่วนนี้แค่ไหน เพราะแขกเค้าดู เค้าชอบ แต่หลังเสร็จงานน้อยคนนักที่จะเก็บไว้ค่ะ

          ของชำร่วย : ผ้าพันคอจากเชียงใหม่ค่ะ คุณพ่อเป็นคนเลือกค่ะ ท่านชอบ บอกว่าดูดี เมื่อใส่ในถุงผ้าแก้วดูมีคุณค่า เราเห็นด้วยค่ะ ช่วงนี้เป็นฤดูหนาวด้วย ถุงผ้าแก้วซื้อจากจตุจักรประมาณ 5 บาท เป็นเกรดจีน ส่วนผ้าพันคอซื้อ 1,500 ชิ้น ได้ที่ราคา 2x บาท ไม่รวมค่าขนส่ง

          เฟซบุ๊ก EnjoyshoppCm


          Tip : เลือกอะไรก็ได้ที่คิดว่าเค้าจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงค่ะ

          คำแนะนำพิเศษ

          - ดอกไม้ช่อโยนเป็นช่อเดี่ยว โดยกระจายแตกเป็น 5 ช่อย่อยค่ะ เพราะยังไงเพื่อนเจ้าสาวต้องมารอรับเยอะแน่ ๆ เพื่อไม่ให้หลายคนพลาดค่ะ

          - ชุดเพื่อนเจ้าบ่าวและเจ้าสาวสำคัญค่ะ เราต้องพยายามหาพร็อพตกแต่งชุดให้ดึงสีของธีมงานออกมาให้ได้

          - ลูกโป่งเป็นอีก 1 สิ่งสำคัญในการดึงธีมงานออกมา เพราะพื้นที่กว้างต้องใช้ตัวช่วยค่ะ

          - งานนี้ให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยดูแลในส่วนของค่าโต๊ะจีนและเครื่องดื่มอื่น ๆ เล็กน้อยค่ะ

          ......ทั้งหมดนี้ต้องบอกก่อนว่างานสวย หรู ดูแพง ราคาไม่ต้องแพงเสมอไป ไม่มีงานใด Perfect ทุกงาน ทุกงานย่อมมีข้อผิดพลาด ขึ้นกับว่าเราจะพอใจที่จุดไหน หวังว่ารีวิวนี้คงจะเป็นประโยชน์กับบ่าวสาวคู่ต่อไปนะคะ......









          ต้องบอกก่อนว่างานนี้ไม่ใช่งานที่เป็นที่สุดถ้าเทียบกับงานในจังหวัดใหญ่ ๆ นะคะ แต่มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นในหอประชุมแห่งหนึ่ง ที่อยากให้ทุกคนได้รู้ว่าอย่าไปกลัวกับสถานที่ค่ะ




          ขอบคุณนะคะ ต้องขอโทษที่ไม่ได้สรุปราคารวม เพราะราคารวมเเปรตามแต่ละพื้นที่ ขออนุญาตแจงคร่าว ๆ ดังนี้นะคะ ^^

          คุณพ่อคุณแม่ดูแลให้ในส่วนของ

          1. งานเย็นโต๊ะจีน 150 โต๊ะ+เครื่องดื่ม+จิปาถะ

          เจ้าบ่าวเจ้าสาวจ่ายเอง (เงินเดือน+OT+รายได้เสริม เก็บไม่ต่ำกว่า 17,xxx-3x,xxx บาท/เดือน ในระยะเวลา 1 ปีครึ่ง)

          1. ออแกไนซ์ รวมค่าเดินทางทีมงาน/ขนของมา เกือบ 500 km. ประมาณ 2xx,xxxx บาท+ ตกแต่งไฟและเสียงในงาน ประมาณ 3x,xxx-5x,xxx บาท ตามสเปคงาน

          2. องค์ประกอบงาน เช่น ช่างภาพ ช่างวิดีโอ พรีเซ็นเทชั่น แต่งหน้า วงดนตรี ชุดบ่าวสาว การ์ด ของชำร่วย ราคาหลักหมื่น และอื่น ๆ ในพิธีในราคาหลักพันค่ะ

          เราเตรียมเงินเป็น 3 ส่วน 3 ช่วงเวลา ในระยะเวลา 1 ปีครึ่ง

          1. เริ่มมัดจำค่าใช้จ่ายแต่ละส่วน 10-50% ของราคาทั้งหมด ณ วันที่ตกลง

          2. ใกล้ถึงวันงาน 1 เดือน-1 สัปดาห์ เรียกเก็บประมาณ 50-70% ของราคาเต็ม

          3. ในวันงานจ่ายที่เหลือทั้งหมด

          ต้องตั้งเป้าและเริ่มเก็บตังค์ให้เร็วที่สุดค่ะ โชคดีนะคะ ^^

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณสมาชิกหมายเลข 2831791 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม