บริหารงบประมาณงานแต่งให้ลงตัว (i DO)
วันแต่งงานแม้ว่าจะเป็นวันที่สำคัญที่สุดในชีวิต แต่การที่คู่บ่าวสาวจะทุ่มเทงบประมาณลงไปอย่างไม่คิดหน้าคิดหลังนั้น ไม่ใช่เรื่องที่จะพึงกระทำแม้แต่น้อย แต่การวางแผนค่าใช้จ่ายหรือวางแผนบริหารจัดสรรงบประมาณที่มีอยู่อย่างฉลาดต่างหาก คือวิธีที่คู่รักรุ่นใหม่ควรทำเพื่อให้งานออกมาครบถ้วนสมบูรณ์ภายใต้งบประมาณที่ไม่บานปลาย
การเตรียมเงินเตรียมงบอย่างไรให้ฉลาดล้ำนั้น คือ การใช้งบที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า โดยจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับการประหยัดงบจนทำให้งานสำคัญออกมาแห้งแล้งไร้ชีวิตชีวา ประเภทไม่มีดนตรี ไม่มีดอกไม้ หรือไม่เน้นตกแต่งสถานที่ มีเฉพาะข้าวของที่จำเป็นแบบนั้นไม่ควรทำเช่นกัน แต่การที่คิดว่างานเรามีงบประมาณไม่มาก คงจะจัดให้ออกมาดูดีไม่ได้นั้นก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะการบริหารงบประมาณที่ดี ไม่ได้อยู่ที่มีการมีงบน้อยหรือมาก แต่อยู่ที่เราจะใช้งบประมาณที่มีอยู่ได้อย่างคุ้มค่าแค่ไหนต่างหาก
ไม่ว่างบประมาณในการจัดงานแต่งงานของคุณจะเป็นเงินหลักหมื่น หรือมากไปจนถึงหลักล้าน การกำหนดงบประมาณออกเป็นส่วน ๆ จะช่วยให้คุณสามารถบริหารงบอย่างลงตัวได้ง่าย ๆ ลองเริ่มจากดูงบประมาณรวมทั้งหมด ที่ตั้งใจจะใช้ในการจัดงานว่ามีเท่าไร แล้วแบ่งออกเป็นส่วน ๆ เป็นเปอร์เซ็นต์ ดังนี้
ค่าการจัดพิธีการช่วงเช้า : 10-15%
ในการจัดการเรื่องพิธีการ มักมีค่าใช้จ่ายในส่วนของข้าวของเครื่องใช้ ทั้งเครื่องขันหมากทั้งขันหมากเอก ขันหมากโท พานไหว้ พานแหวน ชุดรดน้ำที่ต้องเช่า อาหารใส่บาตร หรือของสำหรับทำสังฆทาน อุปกรณ์ต่าง ๆ ในการทำบุญเหล่านี้ถ้าจะขอหยิบขอยืมจากวัด ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่ต้องใส่ซองทำบุญให้กับทางวัด หรือถ้าเป็นพิธีการแบบจีน ก็จะต้องใช้จ่ายในส่วนของค่าเครื่องใช้ในพิธีรับเจ้าสาว ไหว้ฟ้าดิน และยกน้ำชา ที่ควรต้องจัดสรรงบประมาณ ในส่วนนี้ไว้ด้วยให้พอเหมาะ
ค่าอาหาร เครื่องดื่ม ค่าเช่าสถานที่ : 40-50%
เรื่องอาหารและเครื่องดื่มนี้ เป็นค่าใช้จ่ายที่แปรผันตรงกับจำนวนแขกที่เชิญมาร่วมงาน ถ้างานวิวาห์ของเราจัดเป็นงานใหญ่ มีแขกมาเป็นจำนวนมาก การเลี้ยงอาหารแบบค็อกเทลจะประหยัด และสามารถรองรับแขกจำนวนมากกว่าการเลี้ยงแบบอื่นในสถานที่เดียวกัน สำหรับงานขนาดกลางที่เชิญแขกประมาณ 300-500 คน หากเลือกสถานที่จัดเลี้ยงที่มีราคาพอเหมาะ จะสามารถขยับมาเป็นงานเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ได้ แต่ถ้าจัดเป็นงานเล็ก ๆ ที่อบอุ่น เลือกเชิญเฉพาะญาติและเพื่อนสนิท ในงบประมาณที่เท่ากันจะมีเงินพอสำหรับจัดเลี้ยงเป็นโต๊ะจีนดี ๆ หรือ Sit-Down Dinner เก๋ ๆ งบประมาณสำหรับใช้จ่าย เพื่อการนี้จะอยู่ที่ 40-50% ของงบประมาณรวมทั้งหมด
การเลือกจัดงานแต่งงานตามโรงแรมนั้น จะได้ความสะดวกสบายทั้งในด้านการจัดเตรียมอาหาร เครื่องดื่ม บริการ การตกแต่งสถานที่ และความโอ่อ่าหรูหราครบถ้วนในขั้นตอนเดียวกัน แต่ความความสมบูรณ์แบบดังกล่าวจะต้องเตรียมงบประมาณไว้มากพอควร หากต้องการจะประหยัดงบประมาณในส่วนนี้ อาจเลือกเป็นสนามหญ้าหน้าบ้าน ร้านอาหารที่กว้างขวาง สวนดอกไม้ท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติก ก็จะสามารถจัดงานให้ออกมาเก๋ไก๋สบายกระเป๋าได้เช่นกัน
ก่อนจ่ายบิลค่าอาหารและเครื่องดื่ม ควรตรวจดูราคาให้เรียบร้อย ตรวจสอบรายการทั้งหลายให้รอบคอบ ว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่เราได้ใช้ไปจริง รวมทั้งตรวจดูให้แน่ใจว่าค่าใช้จ่ายบางรายการที่ตกลงว่าจะยกเว้นให้ อย่างค่าเปิดขวดหรือค่าใช้สถานที่จัดเลี้ยง เหล่านั้นไม่มีปรากฏอยู่ในบิล เพื่อป้องกันความผิดพลาดก่อนชำระเงิน สำหรับเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ที่มีให้เลือกหลายชนิด สามารถเลือกที่มีระดับราคาที่พอเหมาะกับงบประมาณ ทั้งเบียร์ ไวน์หรือแชมเปญ นอกจากนั้นยังควบคุมได้จากปริมาณการเสิร์ฟที่พอหอมปากหอมคอให้ทั่วถึง แต่ไม่ต้องถึงกับเสิร์ฟกันไม่อั้น
ค่าแหวนแต่งงาน : 20-30%
แหวนแต่งงานถือเป็นหนึ่งในเครื่องหมายแสดงความรัก การเลือกซื้อแหวนเพชรเรียบ ๆ เม็ดเล็ก ๆ นั้นคงไม่เหมาะ แต่ครั้นจะหมายตาแหวนวงใหญ่เพชรหลายกะรัดก็อาจเกินงบประมาณไปหน่อย งบประมาณสำหรับเลือกซื้อแหวนเพชรเม็ดพอเหมาะมาเป็นสมบัติติดกายว่าที่เจ้าสาวแบบนี้ จะไม่เกิน 30% ของงบประมาณทั้งหมด
โดยคู่บ่าวสาวอาจจูงกันไปเลือกซื้อแหวนใหม่ตามร้าน หรือถ้าจะประหยัดว่าที่เจ้าบ่าวสามารถทำได้โดยไปเลือกดูจากกรุสมบัติของคุณแม่ ว่ามีแหวนเพชรเม็ดสวยวงไหนที่จะนำมาใช้ได้ ยิ่งถ้าเป็นแหวนมรดกทอด แบบที่คุณมอบให้คุณปู่ คุณปู่มอบให้คุณย่า คุณย่ามอบให้คุณพ่อ คุณพ่อมอบต่อให้คุณแม่ แล้วคุณแม่มอบให้เรานำไปไว้หมั้นคนรักอีกที แหวนที่มีเรื่องราวผูกพันแบบนี้ยิ่งจะมีคุณค่าทางใจมากขึ้น และงบประมาณในส่วนนี้จะยิ่งประหยัดเป็นศูนย์เลยทีเดียว
ชุดวิวาห์ และช่างแต่งหน้า-ทำผม : 5-10%
สำหรับเจ้าสาวที่ต้องการประหยัดงบในส่วนของชุดเจ้าสาว คุณอาจไม่จำเป็นต้องตัดชุดใหม่มาเก็บไว้เป็นที่ระลึก ใช้วิธีเช่าใส่ก็สวยและดูดีได้เช่นกัน เพราะเวดดิ้ง สตูดิโอ สมัยนี้มีชุดแต่งงานสวย ๆ เริ่ด ๆ ให้เลือดมากมาย แต่ถ้ายังกลัวจะไม่สวยสมกับเป็นเจ้าสาวอย่างที่ฝันมาตลอด ก็ลองใช้วิธีเช่าตัดน่าจะถูกใจและถูกเงินในกระเป๋ามากกว่า แม้ว่าจะไม่ได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก แต่คุณก็ได้ใส่ชุดสวยในดีไซน์ที่ต้องการ
ส่วนช่างแต่งหน้าทำผมนั้น คุณภาพมักตามราคา หากคุณอยากสวยสมใจแนะนำว่าอย่าใช้ช่างราคาถูกมาก หรือคุณจะลองใช้วิธีเลือกใช้ช่างแต่งหน้าทำผมเป็นคนเดียวกันน่าจะประหยัดลงมาได้นิดหน่อย ทางที่ดีต้องเลือกคนที่มีประสบการณ์ และแนะนำกันมาแบบปากต่อปากจะปลอดภัยกว่า
การตกแต่งสถานที่ ดอกไม้ และค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด : 10-15%
ถ้าจะประดับประดางานด้วยดอกไม้ งบประมาณในส่วนนี้สามารถประหยัดได้ด้วยวิธีง่าย ๆ คือการใช้ดอกไม้สวย ๆ ที่ปลูกกันในเมืองไทยบ้านเรา โดยมาเน้นความเก๋ไก๋จากไอเดียของนักจัดดอกไม้ที่ฝีมือดีแทน เพราะถึงเราจะใช้ดอกไม้สวย ๆ นำเข้าจากต่างประเทศมาตกแต่ง แต่ถ้าการดีไซน์ออกมาสวยก็ย่อมจะเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ลองเลือกเป็นดอกไม้เมืองหนาวที่ปลูกกันทางเหนือบ้านเรา มาผนวกกับการจัดที่ดูดีลงตัว ไม่มากไม่น้อยเกินไปแล้วดอกไม้ในงานของคุณก็จะดูงดงามเหนือความคาดหมาย ส่วนค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดนั้น ส่วนใหญ่มักเป็นค่าใช้จ่ายจุกจิกเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นเบี้ยหัวแตกที่เราต้องควักโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น จำเป็นต้องจดหรือเก็บบิลให้ครบถ้วนเพื่อควบคุมงบประมาณ
การ์ดเชิญ และของชำร่วย : 5-10%
หากจะพูดถึงความจำเป็นของการ์ดเชิญ เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมี เพราะเป็นมารยาทที่ดี และแสดงถึงความตั้งใจที่ขอเรียนเชิญแขกท่านนั้นมาร่วมงาน แต่สิ่งที่ไม่จำเป็นหากงบประมาณมีจำกัด คือการสิ้นเปลืองไปกับการ์ดเชิญที่ออกแบบหวือหวามีลูกเล่นดีไซน์ซับซ้อน โดยทั่วไปเมื่อแขกได้รับการ์ดเชิญจะเก็บไว้จนถึงวันงานเพื่อเตือนความจำ และเมื่อไปงานเสร็จก็มักจะทิ้งไปแทบทั้งนั้น การ์ดเชิญสวย ๆ ที่มีแบบให้เลือกตามร้านรับทำการ์ด ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกมากมายทั้งรูปแบบ สไตล์การพับการ์ด และเนื้อกระดาษ ซึ่งราคาจะถูกกว่าการ์ดแบบสั่งทำพิเศษหลายเท่าตัว หรือหากมีเครื่องไม้เครื่องมืออย่างคอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์ที่ครบครัน จะออกแบบหรือประดิษฐ์ การ์ดเชิญเองก็จะได้การ์ดที่สวยถูกใจเหมือนกัน
ส่วนของชำร่วยจะประหยัดได้มากหากมีเพื่อน ๆ หรือญาติ ๆ ที่มีความสามารถและมีเวลาพอที่จะประดิษฐ์ของชำร่วยให้ได้ อย่างถุงผ้าบุหงา สบู่หอมเทียนหอม เทียนเจล หรืออื่น ๆ ที่ดูดีมีความคิดสร้างสรรค์ประดิษฐ์ได้ด้วยวิธีการที่ไม่ยุ่งยาก แต่ถ้าต้องไปซื้อหามา การเลือกของชำร่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เหมาะสมกับเงินงบประมาณในกระเป๋าก็ไม่ใช่เรื่องยาก ลองหาเวลาไปเดินดูของชำร่วยที่มีให้เลือกมากมายหลายแบบแถวย่านพารุหัด หรือตลาดนัดสวนจตุจักรสัก 2-3 ครั้ง รับรองว่าจะต้องได้ของดี ราคาไม่แพง แถมยังถูกใจอย่างแน่นอน
ช่างภาพ และวิดีโอวันงาน : 5-10%
คู่บ่าวสาวบางคู่ที่ให้ความสำคัญกับภาพประทับใจ เพื่อเก็บไว้ให้ลูกหลานดูเป็นที่ระลึก คงไม่ลังเลใจที่จะใช้งบประมาณที่เตรียมไว้เพื่อนการนี้อย่างเต็มที่ แต่สำหรับคู่แต่งงานบางคู่ที่มองว่าต้องการเพียงภาพถ่ายที่ระลึก จำนวนไม่ต้องมากมายนัก และขอประหยัดงบประมาณด้วยการออกปากถามญาติ หรือเพื่อนสนิทว่าใครพอช่วยได้บ้างนั้น สามารถทำได้สำหรับการถ่ายวีดีโอ เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ภาพจากวีดีโอจะเป็นสีสันที่หลังจบงานแล้ว จะนำมาชมกันในช่วงแรก ๆ เท่านั้น
แต่สำหรับการถ่ายภาพนิ่ง ขอให้จ้างช่างภาพมืออาชีพที่มีประสบการณ์เคยถ่ายภาพในงานแต่งงานมาแล้ว เพราะเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ย้อนเวลากลับมาไม่ได้ เพราะฉะนั้น จึงไม่ควรเสียดายที่จะตกลงใจจ้างช่างภาพมืออาชีพฝีมือดี ๆ รู้มุมกล้อง และตำแหน่งถ่ายภาพที่สอดคล้องกับขั้นตอนของงานพิธี มาช่วยบันทึกภาพความทรงจำทำสวยงามเอาไว้ให้
วงดนตรี : 2-5%
การเลือกวงดนตรีก็ควรที่จะดูสถานที่และธีมงานเป็นสำคัญ โดยไม่จำเป็นต้องเลือกเป็นวงดนตรีวงใหญ่ เครื่องดนตรีครบทุกชิ้น โดยเลือกเครื่องดนตรี 3-5 ชิ้น ที่ร่วมกันบรรเลงเพลงได้ไพเราะจับใจ ระดับราคาประมาณ 10,000-15,000 บาท หรือจะเลือกใช้งบประมาณไปกับนักร้อง ให้มาร้องเพลงสด ๆ คลอไปกับการเปิดทำนองดนตรีแบบ Backing Track ก็ประหยัดได้ หรือจะเลือกเป็นดีเจเปิดเพลง หรือใช้นักดนตรีเล่นอีเลคโทนและสามารถเป็นนักร้องด้วยก็ทำได้ ที่สำคัญแนวเพลงที่เลือกควรเป็นเพลงรักที่เหมาะกับธีมงานของคุณ
แม้จะจัดสรรปันงบอย่างดีเพียงไร ค่าใช้จ่ายในการแต่งงานก็ยังมีโอกาสจะมีการขยับ จนทำให้งบประมาณต้องเขยิบสูงขึ้นอย่างไม่ตั้งใจไปบ้างนั้น เพราะเมื่อถึงเวลาจัดงานจริง ๆ มักมีจินตนาการอันบรรเจิดที่คุณอยากจะสร้างสรรค์งานแต่งงานให้ออกมาโดนใจที่สุดเพิ่มเติมขึ้นมาอยู่เสมอ ดังนั้น งบประมาณต้องสามารถยืดหยุ่นเผื่อเหลือเผื่อขาดกันไว้บ้าง ซึ่งหากจัดสรรดีอาจจะมีเงินเหลือเป็นเงินก้นถุงสำหรับครอบครัวใหม่ในอนาคตอีกด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
