สายใยรักที่ถักทอด้วยความเข้าใจ ชรินพร - ดนัย อุดมโชค (Woman’s story)
ขึ้นชื่อว่าความรัก ล้วนแต่เป็นสิ่งสวยงามที่คอยหล่อเลี้ยงให้หัวใจเราอิ่มเอม เฉกเช่นเดียวกันกับความรักในแบบฉบับของเธอและเขา ซึ่งเป็นสายใยรักที่ถูกถักทอขึ้นด้วยความเข้าใจ Love Story ฉบับนี้ เรามีโอกาสได้พูดคุยเจาะลึกถึงเรื่องราวความรัก ของนักเทนนิสมือวางอันดับที่ 1 ของไทย ปิ๊ก ดนัย อุดมโชค และภรรยาผู้น่ารัก ต๊าป จรินพร อุดมโชค เรื่องราวความรักครั้งนี้จะน่าสนใจขนาดไหน ไปติดตามพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
ช่วยเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการพบกันให้ฟังนิดนึงค่ะคุณต๊าป : ต้องเท้าความไปถึงตอนแรกเลยว่าทำไมพี่ปิ๊กถึงอยากมาเจอ (ยิ้ม) ซึ่งที่มาก็คือว่า เพื่อนต๊าปเป็นเพื่อนของ พี่ต้น- สนฉัตร ซึ่งเป็นเพื่อนพี่ปิ๊ก แล้วทีนี้เพื่อนต๊าปเขาก็เห็นว่าทั้งต๊าปทั้งพี่ปิ๊กยังไม่มีแฟน ก็อยากจะแนะนำให้รู้จักกัน ซึ่งต๊าปได้รู้จักกับพี่ต้นก่อน แล้วพอพี่ต้นมาเจอเรา ก็กลับไปบอกพี่ปิ๊กว่าอยากให้รู้จักกับต๊าป ซึ่งทางเพื่อนต๊าปก็ได้ส่งรูปต๊าปไปให้พี่ปิ๊กดูแล้ว เขาก็สนใจ แล้วก็อยากเจอตัวจริง (หัวเราะ) ก็เลยหาวิธีที่จะให้ได้มาเจอกัน บังเอิญช่วงนั้นเป็นช่วงที่ใกล้วันเกิดต๊าป พี่ปิ๊กก็เลยถือเอาโอกาสนี้ขอเลี้ยงวันเกิด ตอนนั้นบอกเลยว่าต๊าปไม่รู้จักเลย ปิ๊กไหน? ดนัยคือใคร เพราะเรื่องกีฬาจะไกลตัวต๊าปมากค่ะ (ยิ้ม)
คุณปิ๊ก : บ้านนอกนิดนึง ไม่รู้จัก (หัวเราะ)
คุณต๊าป : อาจจะยังไม่ดังพอ (หัวเราะ) พอถึงวันเกิดต๊าป ระหว่างเดินทางต๊าปรถชน ซึ่งตั้งแต่อยู่กรุงเทพฯ มาไม่เคยขับรถชนเลย เลยรู้สึกว่าทำไมซวยจัง ทั้ง ๆ ที่เป็นวันเกิดก็น่าจะมีแต่สิ่งดี ๆ แล้วกำลังจะไปเจอคน ๆ นี้เหรอ แสดงว่าเบื้องบนบอกมาว่าไม่ดีหรือเปล่า คือมันเหมือนกับว่าเราจะไปเจอเขาแล้วก็ต้องเจอเรื่องที่ไม่ดี เป็นลางที่ไม่ดีแล้ว พอเคลียร์เรื่องเสร็จก็เข้าไปในร้านที่นัดกัน ก็ได้เจอกัน แต่ยังไม่รู้จักหรอกว่าคนไหนคือพี่ปิ๊ก จนพี่ต้นแนะนำทีละคน ถึงได้รู้ว่าคนนี้เองคือพี่ปิ๊ก ซึ่ง ณ ตอนนั้นในใจคิดว่าคนนี้เหรอ ไม่หล่อเลย (หัวเราะ) แล้วเราก็คงไม่มีทางสนใจแน่ ๆ เพราะไม่ใช่สเปกเราเท่าไหร่ จากนั้นผ่านไปประมาณเดือนนึง ก็ยังไม่มีอะไรไม่ได้ติดต่อกันเลย จนมีวันนึงพี่ปิ๊กติดต่อมาทางเพื่อนต๊าปว่า อยากจะสอนเทนนิสต๊าปกับเพื่อน ๆ ประมาณว่าหาเรื่องจะเจอ ซึ่งวันนั้นก็ทำให้เราได้รู้จักคุ้นเคยกันมากขึ้น ได้คุยกันมากขึ้น แล้วก็มีโอกาสได้พาพี่ปิ๊กไปทานข้าวที่บ้านด้วย
คุณปิ๊ก : คือเราเองก็สนใจตั้งแต่ได้เห็นรูปที่เพื่อนเขาส่งมาให้ดูแล้ว ก็รู้สึกประทับใจในระดับหนึ่ง แต่ว่าบางทีรูปกับตัวจริงมันไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่าต้องเจอตัวจริงก่อนว่าเป็นยังไง ซึ่งพอได้เจอกันตอนแรกก็รู้สึกว่าโอเคในระดับหนึ่ง ก็ดูดีกว่ารูป เพราะเขาจะเป็นคนที่ถ่ายรูปไม่ขึ้น หน้าจะบาน ๆ นิดหน่อย (หัวเราะ) แต่เพื่อนบอกว่าตัวจริงน่ารักกว่ารูป ก็เลยอยากเจอตัวจริง แล้วก็เป็นที่มาของเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ได้เจอกัน
ความรู้สึกแรกหลังจากที่ได้เจอตัวจริง ปิ๊งเลยไหมคุณปิ๊ก : ก็ไม่ถึงขนาดนั้นนะครับ ไม่ได้กะว่าจะจีบเลย คิดว่าเป็นการศึกษาทำความรู้จักกันมากขึ้นมากกว่า เพราะผมเองก็ไม่ค่อยได้อยู่เมืองไทยอยู่แล้ว อย่างช่วงแรก ๆ ก็จะติดต่อกันทางอีเมล์ซะเป็นส่วนใหญ่
คุณต๊าป : คือหลังจากที่พี่ปิ๊กมาสอนเทนนิสแล้ว ต๊าปก็กลับบ้านที่ลำปาง พี่ปิ๊กก็บินไปอเมริกาเลย
คุณปิ๊ก : ไปอยู่อเมริกาเป็นเดือนเลยครับ (ยิ้ม)
คุณต๊าป : ใช่ ๆ คือเราก็ขาดการติดต่อกันไปเลย ประมาณเดือนนึง พี่ปิ๊กก็ส่งอีเมล์มา ซึ่งเขาไม่ได้เข้ามาจีบแบบหนัก ๆ ทีเดียว มันค่อย ๆ เป็นค่อยไปมากกว่า
คุณปิ๊ก : คือเราก็ไม่ได้รุกหนัก ๆ ครับ (หัวเราะ) ค่อย ๆ ให้มันพัฒนาไปเรื่อย ๆ ตอนนั้นผมจะส่งอีเมล์ถึงเค้าประมาณ 6-7 ครั้ง ถึงจะได้รับตอบกลับมาซักครั้งนึง (ยิ้ม)
คุณต๊าป : หลังจากนั้นเค้าก็เริ่มแอดเอ็มเอสเอ็นมา แต่ต๊าปก็ยังไม่ตอบรับทันทีนะ
คุณปิ๊ก : ทุก ๆ อย่างค่อย ๆ พัฒนาไปครับ จากอีเมล์เป็นเอ็มเอสเอ็น แล้วก็เป็นแมสเสจ จากนั้นก็เป็นโทรศัพท์ ตามสเต็ปครับ แต่ต้องขออนุญาตก่อนนะครับถ้าจะโทรหาเขา (ยิ้ม)
คุณต๊าป : (หัวเราะ) ตอนแรกก็จะนาน ๆ โทรมาที แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มโทรมาบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ ความสัมพันธ์ก็เริ่มพัฒนาขึ้นไปเรื่อย ๆ ค่ะ เริ่มเป็นคนรู้ใจกันมากขึ้น (ยิ้ม)
แล้วความสัมพันธ์เปลี่ยนจากเพื่อน คนรู้ใจ จนเป็นแฟนกันตอนไหนคุณปิ๊ก : มันเริ่มเปลี่ยนไปเอง โดยที่ไม่รู้ตัวครับ (ยิ้ม) คือพอเริ่มคุยกันมากขึ้นมันก็ทำให้ความรู้สึกมันพัฒนาขึ้นไปเรื่อย ๆ ความถี่ในการคุยกันมันก็จะเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ คุยกันมากขึ้นทุกวัน ซึ่งปกติผมเป็นคนไม่ค่อยพูด
คุณต๊าป : คือปกติเขาเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่ในเมื่อเค้าจีบเราก็ต้องพยายามพูด ยิงคำถามถามเรา แต่พอเปลี่ยนมาเป็นแฟนกันปุ๊บ มันกลับกัน กลายเป็นต๊าปที่ต้องพูดเยอะ เขาก็จะตอบอย่างเดียวประมาณนั้น แล้วตอนที่คุยกันทางโทรศัพท์ เราก็จะได้ยินเสียงเทรนเนอร์คอยบอกให้พี่ปิ๊ก พูดแบบนั้นแบบนี้อยู่ตลอด (ยิ้ม) เราก็เลยคิดว่าเขาเป็นคนซื่อ ๆ นะ จีบใครไม่เป็น ก็เลยคิดว่าเขาก็เป็นคนที่ดีคนนึงก็เลยเปิดใจมากขึ้น
แล้วอะไรที่ทำให้คิดว่าคนนี้คือคนที่ใช่ของกันและกันคุณต๊าป : ก็เราก็คบกันมานานถึง 5 ปี แล้วในระหว่างนี้พี่ปิ๊กก็ย้ำกับเราตลอดว่ามั่นใจในตัวเรา เขาทำดีทุกอย่าง แต่ก็อาจจะมีบ้างที่บางจุดเราคิดไม่ตรงกัน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เราคิดว่าจะปรับเปลี่ยนกันได้ ที่สำคัญเขามั่นใจว่าอยากจะแต่งงานกับเรา เราเองก็รู้สึกว่าเขาก็เป็นคนดี เราก็เลยมั่นใจได้ว่าเขาเป็นคนที่ใช่สำหรับเรา
คุณปิ๊ก : สำหรับผมปกติก็จะอยู่คนเดียว ซึ่งมันทำให้เราต้องดูแลตัวเองตลอด แต่พอมีต๊าปทำให้เรามีคนดูแลในส่วนที่เราไม่เคยสนใจ ไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่ อย่างเช่น บางทีจะไปหาใครก็ต้องซื้อของติดไม้ติดมือไปฝาก ซึ่งปกติผมไปแต่ตัว (ยิ้ม) แต่เขาไม่ได้ มันเหมือนกับต๊าปมาคอยเติมเต็มในส่วนที่ขาดไป เพราะผมก็ผู้ชายจัด เขาก็นิสัยผู้หญิงจัดเลย ซึ่งทำให้รู้สึกว่ามันใช่ครับ (ยิ้ม)
เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
ติดตามบทความทั้งหมดในฉบับที่ 2554
