DREAM WEDDIG ON THE BEACH เนรมิตงานแต่งงานริมชายหาดในฝันให้เป็นจริง (Bride Magazine)
เรื่อง : Praparpan
สายลมที่พัดโชยมาจากท้องทะเล ท้องฟ้าสีครามโปร่งใส คลื่นน้ำที่สงบไร้วี่แววของพายุ และหมู่มวลเมฆที่จับกันเป็นกลุ่มก้อนสีขาวไร้พิษสง นี่คือช่วงเวลาอันงดงามของฤดูร้อนที่อาจทำให้คู่บ่าวสาวหลาย ๆ คู่อยากจัดงานแต่งงานริมชายหาดที่เป็นดั่งภาพฝันของตน แต่การจัดงานแต่งงานริมทะเลนั้นต้องอาศัยการดูแลเอาใจใส่และการเตรียมงานที่ดีพร้อม เรามีคำแนะนำต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการเตรียมการจัดงานแต่งงานริมทะเลในฝันให้กลายเป็นงานที่เลิศเลอที่สุดในชีวิตของคุณ
หลังจากกำหนดฤกษ์ของคุณแล้วควรตรวจสอบสภาพอากาศในช่วงที่คุณจะจัดงานด้วย เวลาจัดงานควรเป็นช่วงเย็นเช่นเดียวกับเวลาจัดงานในโรงแรม แต่ถึงแม้ว่าจะจัดงานในช่วงฤดูร้อน คุณก็ไม่ควรประมาทต้องขยันตรวจสอบรายงานสภาพอากาศอยู่เป็นประจำ โดยคุณสามารถข้าไปที่เว็บไซต์ tmd.go.th ของกรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อตรวจสอบว่าวิมานชายหาดของคุณนั้นจะโดนเมฆฝนเล่นงานหรือไม่ โดยจะมีการประมาณการณ์ตั้งแต่รายวัน รายสัปดาห์ ไปจนถึง 3 เดือน
Beach ชายหาดในฝัน
เลือกชายหาดที่คุณใฝ่ฝันและคำนึงถึงความสะดวกในการเดินทางด้วย การแต่งงานบนเกาะอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก เพราะภูมิอากาศในปีนี้แปรปรวนเกินกว่าจะคาดเดาได้ ปล่อยให้เกาะในฝันเป็นสถานที่ฮันนีมูนชวนฝันของคุณดีกว่า หากคุณอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ลองเลือกชายหาดเหล่านี้ดู
ชายหาดบางแสน : ชายหาดที่คุ้นเคยของครอบครัวมีสถานที่จัดงานที่เรียบง่าย เป็นกันเองและราคาไม่สูงมากกัน ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 100 กิโลเมตร การเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
ชายหาดพัทยา : ชายหาดคึกคัก ดินแดนแห่งปาร์ตี้มีสถานที่จัดงานให้เลือกมากมายหลายราคา ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 150 กิโลเมตร การเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
ชายหาดระยอง : ชายหาดที่เงียบสงบ โรแมนติก มีสถานที่จัดงานที่เป็นหาดส่วนตัว ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 200 กิโลเมตร การเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
ชายหาดชะอำ: อีกหนึ่งชายหาดที่ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง มีสถานที่เป็นหาดส่วนตัวและโรงแรมที่ราคาไม่สูงมาก ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 180 กิโลเมตร การเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
ชายหาดหัวหิน : ชายหาดอันมีชื่อเสียง มีโรงแรมหลายระดับให้เลือกเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานริมชายหาด ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 200 กิโลเมตร การเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที
ชายหาดปราณบุรี : ชายหาดที่สวย เงียบสงบ เต็มไปด้วย สถานที่จัดงานราคาสูง ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 230 กิโลเมตร การเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
ชายหาดกระบี่-ภูเก็ต : ชายหาดที่ห่างไกล แต่เป็นความฝันของใครหลาย ๆ คน ด้วยความงามของธรรมชาติ ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 830 กิโลเมตร การเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 10 ชั่วโมง เครื่องบินประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
Venue สถานที่จัดงาน
สถานที่จัดงานนั้นขึ้นอยู่กับงบประมาณของคุณ การจัดงานแต่งงานริมทะเลนั้นไม่ได้มีงบประมาณสูงอย่างที่หลาย ๆ คนกลัว ยิ่งจัดจังหวัดไกลก็ยิ่งราคาถูก เพราะทางสถานที่ย่อมรู้ดีว่าทั้งคู่บ่าวสาวและบรรดาแขกเหรื่อจะต้องใช้งบประมาณไปกับการเดินทาง จากการทำการสำรวจเบื้องต้นแล้ว สถานที่ตามชายหาดต่าง ๆ จะมีงบประมาณการจัดงานรวมค่าอาหารแต่ไม่รวมค่าเดินทางต่อแขกไม่เกิน 100 คน ดังนี้
ชายหาดพัทยา-บางแสน งบประมาณการจัดงานส่วนใหญ่อยู่ที่ 150,000-40,000 บาท
ชายหาดหัวหิน-ปราณบุรี งบประมาณการจัดงานส่วนใหญ่อยู่ที่ 70,000-300,000 บาท
ชายหาดระยอง-ตราด รวมถึงเกาะต่าง ๆ ในจังหวัด งบประมาณการจัดงานส่วนใหญ่อยู่ที่ 200,000-300,000 บาท
ชายหาดกระบี่-ภูเก็ต งบประมาณการจัดงานส่วนใหญ่อยู่ที่ 40,000-70,000 บาท
ทั้งนี้ คุณต้องไม่ลืมคำนวณรวมค่าเดินทางและจำนวนห้องพักสำหรับญาติผู้ใหญ่และเพื่อนสินทไว้ด้วย ถึงจะได้เห็นงบประมาณที่แท้จริง และหากต้องการสถานที่ที่ประหยัดลงมา อาจเลือกรีสอร์ทเล็ก ๆ ร้านอาหารริมทะเลที่มีบริการ หรืออาจเป็นบ้านพักริมชายหาดส่วนตัวที่สามารถติดต่อเจ้าของบ้านได้ ในบางสถานที่อาจคิดเป็นแบบรายหัวเช่นเดียวกับการจัดงานในเมือง งานเลี้ยงแบบโต๊ะจีนยังคงเป็นการจัดที่มีราคาแพงที่สุด รองลงมาคืองานเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์ตามด้วยงานเลี้ยงแบบค็อกเทล ซึ่งทุกแบบควรมีเมนูหมู ไก่ สำหรับบริการแขกที่แพ้อาหารทะเลด้วย
Wedding Dress ชุดแต่งงานริมทะเล
การเลือกชุดแต่งงานให้ถูกกับสถานที่นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก คุณควรรู้เสียก่อนว่าจะจัดงานในธีมอะไร และเลือกชุดแต่งงานที่เหมาะกับสิ่งแวดล้อมของชายหาดด้วย โดยมีข้อแนะนำ ดังนี้
ความยาว (Length) ความยาวของชุดสามารถใส่แบบสั้นหรือแบบยาวกรอมเท้าได้ แต่ไม่ควรยาวแบบลากพื้น เพราะคุณจะเดินหรือเคลื่อนไหวบนพื้นทรายได้ลำบาก และอาจเผลอทำชุดเปียกน้ำทะเลโดยไม่รู้ตัว
ผ้า (Fabric) ชุดแต่งงานที่มีเนื้อผ้าชนิดที่ระบายความร้อนได้ไม่ดี ไม่ควรนำมาใส่อย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะจำพวกผ้าใยสังเคราะห์ เลือกผ้าเนื้อนุ่ม เบาและพลิ้วสวยไว้เป็นดีที่สุด เช่น ผ้าชีฟอง ผ้าเครป ผ้าด่วน ผ้าฝ้าย หลีกเลี่ยงผ้าเนื้อแข็งจำพวก ผ้าไหม ผ้าแก้ว ซึ่งอาจทำให้เจ้าสาวระคายเคืองผิวและไม่มีสมาธิกับงานได้ หากคุณไม่มีความรู้เรื่องผ้าให้สอบถามจากดีไซเนอร์ผู้เชี่ยวชาญในร้านที่ให้คำแนะนำได้
การตกแต่ง (Embroidery) หลีกเลี่ยงการประดับชุดด้วยลูกไม้จำนวนมาก นอกจากะทำให้ชุดแข็งไม่พลิ้วไหวแล้ว ขอบของลูกไม้อาจทำให้รู้สึกระคายเคืองผิวได้เช่นกัน ควรเลือกชุดเรียบที่มีการตกแต่งเล็กน้อย อาจเป็นจำพวกคริสตัล หิน ลูกปัด หรือชุดที่ตกแต่งด้วยริบบิ้น แต่ชุดเรียบ ๆ ที่ไม่มีการตกแต่งก็สามารถสวยได้ด้วยเครื่องประดับจำพวกหิน เช่น สร้อยคอ ต่างหู กำไล ข้อมือ เป็นต้น
ทรงชุด (Style) สไตล์ของชุดแต่งงานที่เหมาะกับงานแต่งงานริมทะเลที่สุด คือ แบบต่อได้อก (Empire Line) ที่ให้อารมณ์ที่เป็นธรรมชาติ และพานให้นึกถึงเทพธิดาแห่งท้องทะเลในนิยายกรีกโรมัน รองลงมาได้แก่สไตล์ชุดสั้นยาวประมาณปิดหัวเข่าที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและกระฉับกระเฉง
รองเท้า (Shoes) พยายามเลือกรองเท้าส้นแบนเพื่อเดินบนพื้นทรายได้ ลืมรองเท้าส้นสูงไปได้เลยถ้าคุณคิดจะจัดงานริมทะเล
People จำนวนของแขกผู้มาร่วมงาน
หากคุณไม่ได้มีภูมิลำเนาในจังหวัดที่ติดทะเล กล่าวคือการแต่งานของคุณจะต้องมีการเดินทางไปยังต่างจังหวัด อาจมีข้อจำกัดในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะจำนวนคน การแต่งงานริมทะเลจึงมักกำหนดคนไว้ที่ประมาณ 50-200 คน และควรเป็นคนที่เราสนิทใกล้ชิดเป็นพิเศษ การส่งการ์ดจึงต้องคำนวณให้ดี จำนวนการ์ดอาจต้องน้อยกว่าจำนวนคนเกือบเท่าตัว เพราะการ์ดเชิญ 1 ใบ เท่ากับแขก 1 คนที่อาจหรือไม่อาจชวนเพื่อนสนิทร่วมเดินทางไปด้วย ยกตัวอย่างสูตรที่ใช้คำนวณ
ครึ่งหนึ่งของจำนวนคนที่กำหนด + 20% ของจำนวนคน = จำนวนการ์ดเชิญ
จำนวนคน 100 คน ต้องใช้การ์ดเชิญ 50 ใบ + 20% ของจำนวนคน = 50 + 20 = 70 ใบโดยประมาณ
จำนวน 50 คน ต้องใช้การ์ดเชิญ 25 ใบ + 20% ของจำนวนคน = 25 + 10 = 35 ใบโดยประมาณ
ก่อนวันงานสัก 1-2 เดือน คุณควรต้องติดต่อขอคำยืนยันว่าแขกคนไหนสะดวกมาหรือไม่มาร่วมงาน หากแจ้งว่ามาร่วมงานคุณควรเตรียมพร้อมการเดินทางให้กับเขา ส่งแผนที่ ตารางเวลาที่แน่ชัด และควรสอบถามเรื่องที่พักว่าต้องการให้จองที่พักให้หรือไม่ หากเป็นญาติผู้ใหญ่ในครอบครัวเราควรออกค่าใช้จ่ายที่พักอำนวยความสะดวกให้กับท่าน รวมถึงบรรดาเพื่อสนิทที่ช่วยเราจัดงานด้วย
Wedding Band วงดนตรี
วงดนตรีในงานแต่งงานริมทะเลควรเป็นวงดนตรีอะคูสติกเพื่อให้เข้าบรรยากาศ อาจเป็นนักร้อง 2 คนกับกีตาร์โปร่งสักตัว ที่บรรเลงบทเพลงอันโรแมนติก ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะและไม่ต้องทำระบบเสียงให้ยุ่งยาก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Vol.13 29th YEARS
