เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ก่อนวันแต่งงาน...สาว ๆ หลายคนอาจจะตื่นเต้นจนเผลอลืมอะไรไปซะหมด หรือบางคนก็ไม่ได้คิดที่จะเตรียมพร้อมอะไรไว้ดังนั้น กระปุกเวดดิ้งเลยขอเสนอ "เคล็ดลับการเตรียมตัวเป็นเจ้าสาว" รวมทั้งสิ่งของที่ต้องเตรียมก่อนวันแต่งงานมาฝากกันค่ะ
ก็แหม...การดูแลตัวเองถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของว่าที่เจ้าสาวในคืนก่อนแต่งงาน ซึ่งเคล็ดลับง่าย ๆ สำหรับเจ้าสาวที่ต้องการทำเองที่บ้าน คือ การดื่มน้ำเยอะ ๆ ผิวพรรณจะได้เปล่งปลั่ง สดชื่น กินผลไม้สด อาทิ มะเขือเทศ เพื่อผิวสวยอมชมพู อีกทั้งการเข้านอนเร็ว ๆ จะทำให้ระบบการทำงานในร่างกายเป็นปกติ หน้าตาสดใส ขับถ่ายสะดวก ซึ่งว่าที่เจ้าสาวเอง ต้องข่มตานอน เพื่อความสวยที่สุดในวันงานด้วยนะคะ
การมาร์กหน้าก่อนนอนก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะเวลาที่ตื่นเช้าขึ้นมาก็จะทำให้ผิวพรรณสดชื่นเช่นกัน รวมถึงควรสระผมโดยที่ไม่ต้องใช้ครีมนวดหรือทรีทเม้นท์ เพราะจะทำให้ผมลื่นจัดทรงยากค่ะ และควรเลือกใช้ครีมบำรุงผิวหน้าที่ใช้อยู่เป็นประจำ เพื่อป้องกันการแพ้เครื่องสำอาง หรือถ้าหากมีอาการแพ้ อาการอักเสบของผิวหนัง ก็ให้ไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมแจ้งกำหนดวันงานให้แพทย์ทราบ เพื่อจะได้แก้ไขอาการให้ดีขึ้นทันตามกำหนดค่ะ
ซึ่งวันนี้เราก็มีสูตรขัดผิวหน้าและผิวกายให้สวยใสมาฝากกันด้วย มีหลากหลายสูตรด้วยกันค่ะ โดยเริ่มกันที่...
1. น้ำผึ้ง : นำน้ำผึ้งมาพอกหน้าเป็นประจำ จะทำให้หน้านุ่ม เนียน กระชับ เพิ่มความแข็งแรงให้ผิวหน้า ไม่แพ้ง่าย นอกจากนี้ น้ำผึ้งแท้ยังช่วยลดอาการอักเสบของผิวหน้า ส่วนถ้าใครที่เป็นแผลเป็นก็สามารถใช้เพื่อสมานแผลได้ และไม่ทำให้เป็นแผลเป็นอีกด้วยค่ะ 2. น้ำผึ้ง+โยเกิร์ต : นำน้ำผึ้งและโยเกิร์ตผสมกัน พอได้ที่แล้วให้พอกลงบนใบหน้าประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นให้ล้างออก จะช่วยให้ผิวขาวและนุ่มขึ้นได้ สูตรนี้คุณสาว ๆ สามารถทำได้วันเว้นวันค่ะ หรือน้ำผึ้งและโยเกิร์ตมาผสมให้เข้ากับทรายขัดผิว หรือหากไม่มีทรายขัดผิว สามารถใช้ใยบวบช่วยในการนำน้ำผึ้งและโยเกิร์ตมาขัดผิวกายได้ ทิ้งไว้บนผิวประมาณ 30 นาที ก่อนล้างออก จะช่วยให้ผิวขาวและนุ่มขึ้นได้ ทำสัปดาห์ละ 3 ครั้งนะคะ 3. สูตรมะละกอ+นมสด : นำมะละกอมาบดผสมกับนมสดและคนให้เข้ากัน จากนั้นผสมด้วยทรายขัดผิว นำไปขัดผิวกายประมาณ 5 นาที แล้วทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ทำสัปดาห์ละ 3 ครั้งจะช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และเผยผิวใสได้ทุกวัน 4. น้ำมันมะพร้าวเพื่อผิวเนียนนุ่ม : เป็นสูตรโบราณที่ใช้ได้ผลมาก น้ำมันมะพร้าวจะช่วยในเรื่องการทำให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้น แม้เพียงครั้งแรกที่ได้นำน้ำมันมะพร้าวมาทาผิว รับรองได้เลยว่า สาว ๆ จะรู้สึกถึงความเนียนนุ่มได้ทันทีเลยล่ะ
5. กล้วยหอม+นมสด : นำกล้วยหอมและนมสดมาผสมกัน จากนั้นนำมาพอกลงบนใบหน้าหรือผิวกาย จะทำให้ผิวขาวเนียนสวยได้ โดยสามารถทำได้วันเว้นวันเลยทีเดียว 6. สับปะรด หรือ มะขามเปียก : ผลไม้ทั้งสองชนิดนี้มีความเป็นกรดช่วยในการขัดขี้ไคล และทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดลอกออกมา อีกทั้งยังมีแอนติออกซิแดนท์ ช่วยให้ผิวตึงกระชับอีกด้วย เรียกว่าเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดค่ะ 7. มะขามเปียก+น้ำผึ้ง : นำส่วนผสมทั้งสองมาผสมรวมกัน และขัดให้ทั่วตัว นำน้ำผึ้งและนมสดหรือนมผงละลายน้ำ มาผสมน้ำอุ่นและลงไปแช่ หลังจากขัดตัว 2 วัน โดยวันที่ 3 ให้ใช้เกลือขัดผิวสูตรข้าวโอ๊ต จะช่วยให้ผิวกระจ่างใส ขาวเนียนนุ่มค่ะทั้งนี้ หลังจากการขัดผิวทุกครั้งควรทาโลชั่นด้วยทุกครั้ง เพราะการขัดผิวจะทำให้ผิวมีความแห้งมากกว่าปรกติ การทาโลชั่นจึงเป็นการกักเก็บความชุ่มชื้นของผิวไว้ด้วยเช่นกันค่ะ
ส่วนใครที่ชอบแบบสะดวกสบาย ทันสมัย ไม่ค่อยมีเวลา การเข้าคอร์ส ทั้งนวดตัว นวดหน้า เข้าสปา อบผิว ขัดผิว ทำผม ก่อนแต่งงาน ก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะปัจจุบันนี้มีหลายสถานที่ ๆ เปิดให้บริการแบบครบวงจรในด้านนี้ ดังนั้น เราควรเลือกคอร์สให้เข้ากับตัวเองมากที่สุด และขยันทำสม่ำเสมอด้วยนะคะ
สำหรับสิ่งของที่ต้องเตรียมก่อนวันแต่งงาน ได้แก่…
1. เสื้อผ้า นอกจากการเตรียมชุดเจ้าสาวที่สวยที่สุดในวันงานแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือการเตรียมชุดลำลองไว้เปลี่ยน เมื่อมีเหตุจำเป็นที่ต้องค้างที่โรงแรม ก็ให้เตรียมชุดลำลองรวมทั้งชุดชั้นในให้เรียบร้อยค่ะ 2. ของใช้ส่วนตัว คือ สิ่งที่จำเป็นสำหรับเจ้าสาวมากที่สุด เช่น ยา, พลาสเตอร์ปิดแผล, ครีมลบเครื่องสำอาง, โฟมล้างหน้า, สบู่, ยาสระผม เพราะในวันงานเจ้าสาวต้องแต่งหน้าทำผมมากกว่าปกติ, ไดร์เป่าผม, ผ้าอนามัย, เข็มและด้าย รวมทั้งชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือให้เรียบร้อย เพราะวันงานบางครั้งเพื่อน ๆ อาจโทรศัพท์ถามทางตลอด อีกทั้งช่างแต่งหน้าทำผม ช่างถ่ายรูปที่เรานัดกันด้วย แต่วันงานต้องฝากให้แม่งานช่วยถือแทนนะคะ และห้ามลืมเด็ดขาดเลย คือ รองเท้าที่สวมใส่สบายหลังงานแต่งเสร็จสิ้นแล้วค่ะ
3. ขนมและน้ำดื่ม สิ่งที่ขาดไม่ได้ในระหว่างการแต่งหน้า คือ ขนมกับน้ำ เพราะในวันงานเจ้าสาวจะต้องตื่นไปแต่งหน้าตั้งแต่กลางดึก และอยู่งานตั้งแต่เริ่มจนเสร็จงาน ทำให้เวลารับประทานอาหารไม่มีเลย ลองหยิบขนมสักชิ้นและดื่มน้ำสักหน่อย เดี๋ยวจะกลายเป็นลมเป็นแล้งไปนะคะ เตรียมของใช้ทั้งหมดเสร็จแล้วก็ต้องนำมากองรวมกันไว้ ไม่งั้นเดี๋ยวจะลืมแน่ ๆ ค่ะ 4. ควรหยุดงานก่อนวันงานอย่างน้อย 3 วัน เพื่อเช็กความเรียบร้อยของงาน พร้อมทั้งการให้เจ้าบ่าวคอยประสานงานกับผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย และตกลงกันถึงความรับผิดชอบส่วนไหนของงาน รวมทั้งเตรียมสคริปรายละเอียดของงาน และเตรียมจดบันทึกทั้งชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับงาน เช่น ช่างแต่งหน้า ช่างภาพ ช่างถ่ายวิดีโอ ร้านดอกไม้ รวมทั้งเบอร์ของแขกที่เข้ามาร่วมงานอีกด้วยเห็นไหมค่ะว่าการแต่งงานนี่มันไม่ง่ายเลย ยังไงเราก็ต้องเตรียมความพร้อมของตัวเองไว้เสมอ จะได้แต่งงานอย่างสบายใจหายห่วง และผ่านไปด้วยดีค่ะ
