เพราะงานแต่งงานคือวันสำคัญสำหรับคู่รัก และแหวนแต่งงานก็ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญในวันแสนพิเศษนี้ ว่าที่บ่าวสาวจึงไม่ควรพลาดที่จะเลือกแหวนแทนใจให้ดีที่สุด ซึ่งสำหรับใครที่ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนดี วันนี้เราเลยมีเคล็ดลับดี ๆ จากเว็บไซต์ hitched.co.uk มาแนะนำกันค่ะ
อันดับแรกเลยคืองบประมาณที่วางไว้ เช่น 50,000 บาท แล้วมาดูว่าภายในงบห้าหมื่นบาทแหวนของคุณสามารถทำจากวัตถุดิบอะไรได้บ้าง เช่น ทอง, อัญมณี หรือเงิน ฯลฯ เพื่อที่คุณจะได้วางสเปคของแหวนแต่งงานได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม และไม่ต้องเสียเวลาไปเลือกแหวนเพชรหลายกะรัตเพราะมันคงเกินงบที่คุณตั้งไว้แน่ ๆ
2. ไปเลือกแหวนกับคนรัก
การควงแขนคนรักไปเลือกซื้อแหวนด้วยกัน นอกจากจะสร้างบรรยากาศความโรแมนติกก่อนแต่งงานแล้ว ยังทำให้คุณทั้งคู่ได้แหวนแต่งงานที่ถูกใจและตรงใจแบบไม่ต้องเสียเวลาเดาใจกันเลย ที่สำคัญคุณยังสามารถเป็นที่ปรึกษา เปรียบเทียบราคาและคุณภาพให้กันและกันได้ด้วย เรียกว่าเลือกซื้อแหวนแต่งงานครั้งนี้ไม่มีพลาดแน่นอน
3. มีตัวเลือกในใจไว้บ้างแล้ว
อย่าเดินดุ่ม ๆ เข้าไปในร้านโดยที่ไม่มีอะไรอยู่ในหัวเลย แต่คุณควรศึกษารายละเอียดต่าง ๆ ไว้บ้างแล้ว เช่น การเสิร์ชข้อมูลในอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับราคา การสั่งทำ การรับประกัน ความน่าเชื่อถือ และรายละเอียดต่าง ๆ ขืนเข้าไปแบบไม่รู้อะไรเลยก็มีสิทธิ์ว่าคุณจะถูกโก่งราคาง่าย ๆ และไม่กล้าปฏิเสธเมื่อพนักงานแนะนำแหวนรูปแบบต่าง ๆ แม้ว่าคุณจะไม่ชอบมัน
4. แบบแหวนและขนาดก็สำคัญ
ไม่ว่าจะเป็นแหวนที่สั่งทำพิเศษหรือแหวนสำเร็จรูป คุณเองก็ต้องมีแบบไว้ในใจด้วยเช่นกัน และขนาดของแหวนแต่ละวงก็ทำให้ราคาแตกต่างกันด้วย ดังนั้นไม่ควรพลาดที่จะศึกษาข้อมูลในส่วนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณอยากได้แหวนแต่งงานคู่ ก็ลองดูว่าร้านใดมีโปรโมชั่นอะไรน่าสนใจบ้าง รวมทั้งการต่อรองราคาและความน่าเชื่อถือด้วยเช่นกัน
5. วัตถุดิบที่ทำแหวน
วัตถุดิบที่ทำแหวนก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะมันสัมพันธ์กับงบประมาณโดยตรงเลยล่ะ ไม่ว่าคุณจะอยากได้แหวนที่ทำจากวัตถุดิบอะไรก็ให้ย้อนกลับไปดูข้อ 1 สักนิดว่ามันสอดคล้องกับงบที่ตั้งไว้หรือเปล่า งบประมาณจะได้ไม่บานปลายและคุณเองก็จะได้แหวนที่ตรงตามสเปคในราคาที่ตั้งไว้ด้วย หรืออาจจะเพิ่มงบนิดหน่อยเพื่อให้ได้ตามแบบที่ต้องการก็ได้เช่นกัน
6. เลือกแหวนที่ใส่ง่าย
อย่าลืมว่าแหวนแต่งงานมันอาจติดตัวคุณไปตลอดชีวิต ดังนั้นเลือกแหวนที่สวมใส่ง่ายและไม่เสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายต่าง ๆ เช่น แหวนเพชรเม็ดโตแบบเม็ดเดียวอาจเสี่ยงต่อการเกี่ยวโน่นพันนี่ให้เพชรหรือตัวแหวนมีรอยเปล่า ๆ ดังนั้นเลือกแหวนที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันของคุณด้วยนะคะ หากว่าคุณเป็นสาวขาลุยก็อาจจะเลือกแหวนแบบเรียบ ๆ เผื่อไว้ในกรณีที่คุณต้องทำกิจกรรมโลดโผนแหวนจะได้ไม่เป็นรอยให้ช้ำใจ อีกทั้งแหวนแต่งงานแบบเรียบ ๆ ยังเข้ากับทุกชุดทุกโอกาสด้วย
7. ใช้เวลาเลือกแหวนก่อนวันงานยิ่งนานยิ่งดี
จัดงานแต่งทั้งทีก็ต้องวางแผนล่วงหน้ากันเสียหน่อย ยิ่งจัดงานแบบสายฟ้าแลบก็ยิ่งมีแนวโน้มว่าข้าวของอาจมีราคาสูงขึ้น ซึ่งถึงตอนนั้นจะแพงเท่าไรคุณก็ต้องก้มหน้าก้มตาจ่ายเพราะไม่มีทางเลือก ดังนั้นควรมีเวลาวางแผนอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อเตรียมตัวทั้งชุดแต่งงาน ของชำร่วย จัดหาสถานที่ รวมทั้งการเลือกซื้อแหวนด้วยเช่นกัน ยิ่งหากเป็นแหวนที่คุณสั่งทำด้วยแล้วอาจต้องใช้เวลาในการทำ ไหนจะต้องเผื่อเวลาสำหรับแก้ไขด้วย
8. เมื่อซื้อมาแล้วให้ดูแลมันอย่างดี
เป็นเรื่องแปลกแต่จริงเมื่อเราได้สิ่งของมาอย่างหนึ่งแต่กลับรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ยังไม่ถูกใจ แหวนแต่งงานก็เช่นกัน หากคุณคิดว่า "รู้อย่างนี้" เอาแบบนั้นดีกว่า อย่าทำให้ตัวเองวิตกกังวลไปกับเรื่องที่ผ่านมาแล้ว อย่างไรเสียมันก็คือแหวนแต่งงานของคุณ ดังนั้นแทนที่จะไม่พอใจแต่ควรหันมาใส่และรักษามันเหมือนกับความรักของคุณดีกว่า ให้แหวนวงนี้เตือนใจคุณว่าแม้ชีวิตคู่ของคุณจะมีตำหนิไปบ้าง แต่สุดท้ายก็ยังมั่นคงเหมือนกับเพชรที่อยู่กับแหวน
9. รายละเอียดการรับประกัน
สำหรับแหวนเพชรหลายกะรัตหรือแหวนที่มีราคาแพง แน่นอนว่าทางร้านจะต้องมีใบรับประกันกรณีที่แหวนมีตำหนิหรือเพชรหลุด ฯลฯ ดังนั้นอย่าลืมศึกษารายละเอียดข้อนี้เอาไว้ให้ดี เผื่อกรณีที่แหวนชำรุดเองหรือเกิดจากความประมาทของคุณ ก็ต้องดูด้วยว่าทางร้านจะรับประกันหรือไม่ ทางที่ดีก็หมั่นดูแลรักษามันสักนิดดีกว่าต้องนำไปซ่อมนะคะ
10. อย่าลืมเอามันไปในวันแต่งงานด้วยล่ะ
ใครที่กำลังทำหน้าฉงนอยู่ก็บอกเลยว่ามันเป็นเรื่องจริงและมีโอกาสเกิดขึ้นได้กับคุณเองด้วย นอกจากจะเก็บรักษามันไว้อย่างดีแล้วก็อย่าลืมนำติดตัวไว้สวมให้คนรักในช่วงพิธีสำคัญด้วยนะคะ ประเดี๋ยวฤกษ์งามยามดีที่วางไว้จะเสียเปล่า
และนี่ก็เป็นคำแนะนำดี ๆ ที่เราแนะนำกัน ว่าที่บ่าวสาวคู่ไหนที่กำลังมองหาแหวนแต่งงานก็อย่าลืมนำทิปส์ของเราไปปรับใช้กันนะคะ เพราะอย่าลืมว่า "แหวนแต่งงาน" เป็นส่วนสำคัญในวันพิเศษเช่นนี้ไม่น้อยกว่าองค์ประกอบอื่น ๆ เลย
