x close

เตรียมตัวจัดงานแต่งงาน อย่างไรให้ตรงใจคุณ

วางแผนแต่งงาน

วางแผนแต่งงาน


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ นะโอ

          เมื่อความรักสุกงอม คู่รักหลายคู่ก็เริ่มมองไปถึงอนาคตร่วมกัน และการแต่งงานก็คือจุดเริ่มต้นแห่งการใช้ชีวิตคู่ ซึ่งสำหรับสาว ๆ ถือว่าวันแต่งงานเป็นวันสำคัญมาก ๆ ในชีวิต ใคร ๆ ก็อยากจะให้ออกมาเพอร์เฟคที่สุด และแน่นอนว่าต้องใช้เวลาในการเตรียมตัวค่อนข้างนาน แต่เพื่อความสมบูรณ์แบบแล้ว ว่าที่เจ้าสาวยอมได้เสมอ

          ดังนั้น วันนี้กระปุกเวดดิ้งจึงมีตัวอย่างข้อมูลในการเตรียมจัดงานแต่งงานจาก
คุณ นะโอ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวดี ๆ ในการเตรียมตัวแต่งงาน...มาฝากว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวกันค่ะ

การหาสถานที่และข้อมูลโรงแรม


วางแผนแต่งงาน

วางแผนแต่งงาน

         
งานเย็น ธีม Oriental Vintage @ Royal Orchid Sheraton [21 พฤษภาคม 2554] (แบ่งเป็นข้อมูลแต่ละส่วน เผื่อว่าที่เจ้าสาวท่านอื่นจะได้หาข้อมูลง่าย ๆ นะคะ)

          ระหว่างที่รอหาฤกษ์ เราก็ไปดูสถานที่กันก่อนเลยค่ะ ข้อกำหนดที่คิดกันไว้ คือ...

          1. งานในร่ม ตอนกลางคืน เพราะฉะนั้นต้องเป็นห้องบอลลูมของโรงแรม

          2. มีบริการจัดโต๊ะจีน (ถ้าอร่อยด้วยก็จะดีมาก) รับแขกได้ประมาณ 400-500 คน (กะจำนวนแขกคร่าว ๆ กันแล้ว)

          3. เดินทางสะดวก

          หลังจากดูข้อกำหนดกันแล้ว ก็คิดว่าตัวเลือกที่เหมาะ น่าจะเป็นโรงแรมติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เท่าที่ดูข้อมูลติด Top 3 มีอยู่ 3 ที่ คือ แชงกริล่า (บางรัก), รอยัลออคิดเชอราตัน (สี่พระยา) และ มิลเลเนียม ฮิลตัน (คลองสาน) ซึ่งอยู่ในโซนเดียวกันหมดเลย ทุกที่มีคนคอมเมนท์ในอินเทอร์เน็ตดีพอ ๆ กัน อาหารก็อร่อยด้วย และหลังจากหาวันว่าง 1 วัน ไปเดินเซอร์เวย์กันทุกที่เลย (ไม่ได้นัดเซลล์ล่วงหน้าอีกต่างหาก ลากแตะ walk in กันเลยทีเดียว) แต่เซลล์ทุกที่ก็ดีมากค่ะ ช่วยแนะนำ+พาไปดูสถานที่ และให้ข้อมูลมาครบ เราก็กลับบ้านมานั่งชั่งข้อดี-ข้อเสียของแต่ละที่กัน

          ซึ่งหลังจากดูข้อดี-ข้อเสียกันแล้ว ก็คิดว่า รอยัล ออคิด เชอราตัน น่าจะเหมาะกับงานเราที่สุด ข้อดีอีกอย่าง คือ โฮมออฟฟิศของคุณว่าที่ก็อยู่ที่ตลาดน้อย (สี่พระยา) พอดี เวลาไปติดต่อโรงแรมก็สะดวก (วันที่ไปดู ก็เดินจากออฟฟิศไปกันค่ะ) แถมก่อนวันงาน เราก็เอาพร็อพไปเก็บไว้ที่ออฟฟิศก่อนได้

          ฝ่ายเซลล์ คือ คุณอิง ดูแลดีมาก ๆ พูดคุยกันตั้งแต่แรกเลยว่า ในแพ็คเกจที่เราจ่าย เราจะได้อะไร หรือต้องเตรียมอะไรบ้าง (เช่น คนที่ดูแลปิด/เปิดเพลง) อะไรที่ทำไม่ได้หรือทำแล้วต้องเพิ่มเงิน คุณอิงก็จะแจ้งตั้งแต่ตอนตกลงกัน แต่อะไรที่จัดการให้ได้ (เจ้าหน้าที่ดูแลบนเวที, จัดหาน้ำให้ประธานบนเวที, คนดูแลตอนตัดเค้ก) คุณอิงก็จัดการให้อย่างใจ ทำให้งานออกมาราบรื่น

ธีมงานแต่งงาน

วางแผนแต่งงาน

วางแผนแต่งงาน

วางแผนแต่งงาน

          ตอนแรกที่วางแผนกัน เราคิดว่าต้องจัดงานเลี้ยง 2 ที่ (ต้องจัดงานเลี้ยงที่สิงห์บุรีบ้านของเจ้าสาวด้วย) เลยกะว่างานที่กทม. น่าจะเป็นงานกลางวันหลังจากจัดพิธีจีนแล้ว เจ้าสาวเลยคิดว่าคงไม่เปลี่ยนชุดละ ใส่กี่เพ้าในงานเลี้ยงไปเลยละกัน ธีมแรกที่คิดไว้จึงเป็น Chinese Vintage ค่ะ เน้นสีแดงลูกท้อ-น้ำตาลเข้ม-เขียวอมฟ้า ดูจีน ๆ ให้เพื่อนเจ้าสาว+แขกสาว ๆ ในงานใส่กี่เพ้ากัน

          ปรากฏว่าทางผู้ใหญ่ไม่ค่อยเห็นด้วยที่จะจัดเลี้ยงตอนกลางวัน เกรงว่าแขกหลาย ๆ ท่านจะไม่ค่อยสะดวก ขอจัดเป็นโต๊ะจีนตอนกลางคืนแล้วกัน พอเป็นงานกลางคืนจะใส่กี่เพ้าอีกก็คงแปลก ๆ ธีมที่คิดไว้เลยต้องขยับนิดหน่อย แต่เรายังอยากให้มีกลิ่นของธีมเดิมอยู่นิด ๆ เลยเปลี่ยนเป็น Oriental Vintage แทน คิดเองว่าเป็นวินเทจ แต่ไม่ใช่วินเทจฝรั่งที่สีฟ้า-ชมพู-ขาว เป็นวินเทจแบบตะวันออกที่เน้นสีเข้ม ๆ แดง-ส้ม-เขียว-น้ำตาล (ส่วนหนึ่งเนื่องจาก ดอกไม้สีเขียวอมฟ้าหายากค่ะ พอเป็นงานกลางคืนถูกย้อมด้วยไฟสีส้มแล้วมันก็จะกลายเป็นสีตุ่น ๆ ด้วย)

วางแผนแต่งงาน

          น้ำแข็งสลักรูปหงส์คู่ (ที่จริงไม่ได้อยากมี แต่อยู่ในแพ็คเกจ) ตอนแรกอยากได้นกกระเรียนคู่ (ดูตะวันออกดี) แต่ตรงขามันยาว จะเปราะง่าย เลยเปลี่ยนเป็นหงส์คู่ค่ะ บอกคุณอิงว่าขอไม่เอาหงส์หันหน้าชนกันเป็นรูปหัวใจนะ เลยได้หงส์ว่ายน้ำคู่กันแบบนี้มา ละลายช้าดี จบงานแล้วยังไม่เสียทรงเลย

การ์ดแต่งงาน

วางแผนแต่งงาน

วางแผนแต่งงาน

วางแผนแต่งงาน

          รบกวนรุ่นน้องนักวาดภาพประกอบที่ที่ทำงานช่วยวาดให้ค่ะ ขอน้องไว้นานแล้วว่าถ้าพี่จะแต่งงาน ช่วยวาดการ์ดให้หน่อยนะ พอได้ธีมมาก็เลยบอกน้องไปว่าขอสไตล์ตะวันออก ดูจีน ๆ หน่อย โจทย์ยากมาก แต่น้องก็ออกแบบมาให้ได้ถูกใจ เป็นลายดอกโบตั๋นสีแดง-เหลือง-เขียว บนพื้นสีครีมค่ะ

          Font : ฟอนต์ไทย www.f0nt.com / ฟอนต์ภาษาอังกฤษ www.dafont.com เจ้าสาวนั่งหาฟอนต์เอง (แต่ปรึกษากับเจ้าบ่าว + น้องคนออกแบบการ์ดด้วย)

          โรงพิมพ์ : TN Image เทคนิคอิมเมจ (แยกมหานาค) โรงพิมพ์นี้ได้รับคำแนะนำจากรุ่นพี่ในออฟฟิศค่ะ พอดีน้องชายพี่เขาเพิ่งจัดงานแต่งงาน การ์ดเชิญเป็นแบบโปสการ์ด 5 x 7 นิ้ว กระดาษสีครีม ๆ หนา ๆ แบบที่เราอยากได้พอดีเป๊ะ (กระดาษ Eration สีขาว หนา 270 แกรม) ราคาแผ่นละ 11 บาท คุณจิมมี่ เซลล์ของโรงพิมพ์รับประกันว่า ถ้าไฟล์ที่ส่งมาไม่มีปัญหา งานพิมพ์ 10 วันก็เสร็จ

ของชำร่วย

วางแผนแต่งงาน

วางแผนแต่งงาน

          อันนี้สืบเนื่องมาจากธีม Chinese Vintage ค่ะ โอคุงเป็นคนชอบให้ของขวัญเป็นของใช้อยู่แล้ว ของชำร่วยในงานแต่งตัวเองก็เลยอยากให้เป็นของที่แขกเอาไปใช้ได้ด้วย ตอนแรกคิดเป็นช้อน-ส้อมคู่เล็ก ๆ (แบบช้อนกาแฟกับส้อมขนม) เป็นคู่ด้วย แต่กลัวว่าผู้ใหญ่จะถือเรื่องของมีคม
 
          คิดไปคิดมา ตะเกียบเนี่ยแหละเหมาะดี ต้องใช้เป็นคู่ แล้วก็ดูจีน ๆ ดีด้วย ใจเราอยากได้ตะเกียบเงิน (แน่นอนว่าแพงเกินสำหรับแจกแขก 2 งาน) เป็นตะเกียบแสตนเลสก็แล้วกัน
 
          ไปเดินดูกับแม่ที่พาหุรัด เดินเข้าเดินออกอยู่หลายร้าน เจอตะเกียบสแตนเสลส ราคามีตั้งแต่ 10 บาท – 20 บาท แต่แพ็คเกจก็ยังไม่เจอที่ถูกใจ เลยเดินดูไปเรื่อย ๆ สุดท้ายมาเจอที่ร้าน เจริญพร (ร้านกระจกติดแอร์ค่ะ แถวนั้นมี 3 เจริญพรได้ ไม่รู้เจ้าของเดียวกันรึเปล่า) คู่ละ 13 บาท พร้อมซองผ้าโปร่งและ Tag ค่ะ เราเลือกซองผ้าโปร่งสีแดงอย่างเดียว

          ที่จริงอยากเลือกตะเกียบลายเดียวกันหมดด้วย (กันแขกขอหลายลาย เดี๋ยวของไม่พอ) แต่ที่ร้านบอกว่าตะเกียบจะมาเป็นแพ็ค ๆ คละลาย เราเลยบอกว่างั้นขอให้ทางร้านช่วยสกรีนไม่เอาลายที่มีสีดำ (ไม่เป็นมงคล) ก็แล้วกัน พอเอามาใส่ซองผ้าแล้วก็ไม่ค่อยเห็นลายค่ะ ดูเหมือนกันหมด 

ชุดแต่งงาน

          มาถึงเรื่องใหญ่ของเจ้าสาว ชุดแต่งงานค่ะ >.< Wedding Costume (ชุดเจ้าสาว + สูทเจ้าบ่าว) : Saree Bridal Idea

          จะบอกว่า เราเลือกร้านตัดชุดเจ้าสาวก่อนเลือกแบบชุดอีกละ (แต่ถ้าใครที่มีแบบชุดในดวงใจอยู่แล้ว ไม่ควรทำนะคะ เพราะบางทีสไตล์ของร้านกับแบบในใจเราอาจจะไม่ได้ไปในทางเดียวกัน - - อย่าเห็นแก่แพ็คเกจ หรือเห็นว่าชุดสวยก็เลือกเลย ต้องหาข้อมูลเยอะ ๆ ค่ะ)

          เราอ่านนิตยสาร WE บ่อย ๆ แล้วก็ถูกสไตล์ Minimal ของร้าน Saree Bridal Idea มาตั้งแต่แรก ชุดที่ปิ๊ง ๆ โดนใจเลย คือ แฟชั่นของ คุณคริส หอวัง เรียบ ๆ แต่น่ารักมาก คิดว่าซารีน่าจะทำสไตล์วินเทจแบบที่เราชอบได้ พอไปเดินงาน Woman Live ของ บ.อมรินทร์ (ความจริงก็บริษัทที่เราทำงานนั่นแหละ ไปเป็นสต๊าฟค่ะ) Saree ไปออกบูธด้วย เรากับคุณว่าที่ก็เลยเข้าไปคุย ตอนนั้นมีแพ็คเกจเช่าตัดชุดเจ้าสาว แถมเช่าตัดชุดเจ้าบ่าว แต่เราเช่าตัด 2 ชุด งานกทม. กับงานที่สิงห์บุรี เลยต่อรองว่าขอเอาชุดมาถ่ายพรีเวดดิ้ง (ในสตูดิโอ) ด้วย 1 วัน แล้วค่อยเอากลับไปคืนที่ร้านให้ทำความสะอาด วันจริงก็ใช้อีกวันค่ะ

          พอเซ็นสัญญาตกลงกันเรียบร้อย พี่เดียร์ (เจ้าของและนักออกแบบของ Saree) บอกว่าตอนนี้ยังมีเวลา (เราไปติดต่อตั้งแต่เดือนกันยายน ก่อนได้ฤกษ์ แต่กะ ๆ กันว่าจะแต่งเดือนพฤษภาคม) ให้ลองหาแบบที่ชอบแล้วส่งอีเมล์มาคุยกันดูก่อน เดือนธันวาคมค่อยมาตกลงแบบกัน ช่วง 2-3 เดือนนั้น เรานั่งเปิดเว็บแต่งงานของฝรั่งทุกวันเป็นกิจวัตรเลยค่ะ ทั้ง martha stewart wedding, bride.com, ruffle blog, wedding project มีรูป reference เป็นตัน ๆ แต่ปรากฏว่าชุดที่ปิ๊งชุดแรก กลับเป็นชุดในละครไทยซะงั้น
 
          ชุดแต่งงานของ คุณลอออร (อ้อม พิยะดา) กับท่านเจ้าคุณโยธาบดี ในเรื่องมาลัยสามชาย (ช่อง 5) ค่ะ ที่จริงกรี๊ดตั้งแต่ตัวบทประพันธ์ละ มาดูละครยิ่งกรี๊ด เพราะคอสตูมสวยมาก โดยเฉพาะชุดแต่งงานชุดนี้ เราเห็นแล้วใช่เลย เป็นชุดสั้น ดูวินเทจ แต่หรูหรา

          ปัญหาคือ ลุกส์กับหุ่นดิชั้นมันจะไม่เก๋อย่างคุณอ้อมนี่สิ พอส่งภาพให้พี่เดียร์ดูทางอีเมล์ พี่เดียร์ก็ให้ความเห็นกลับมาว่า "ชุดทรงนี้ ถ้าไม่ผอมจริง ๆ จะใส่ลำบากนะหนู เพราะนอกจากจะเป็นทรงตรงแล้ว ลูกไม้ยังยิบ ยิ่งจะส่งให้ดูอวบขึ้นอีกจ้า"

          โอเค...เรื่องอวบเรื่องใหญ่ หาแบบใหม่ค่ะ ^^! หลังจากนั่งหาชุดวินเทจอีกพักใหญ่ ก็เจอชุดเนื้อคู่ (อีกแล้ว) ในเว็บ ruffle blog เว็บรวมภาพแต่งงานแนววินเทจของฝรั่ง เห็นแล้วกรี๊ด น่ารัก ค้นลิงก์ดูเป็นชุดของ Justin Alexander เบอร์ 8465 ค่ะ

          สาว ๆ ฝรั่งที่ชอบแนววินเทจกรี๊ดชุดนี้เหมือนเราเลย ส่งภาพไปให้พี่เดียร์ดู คราวนี้พี่เดียร์ไฟเขียนบอกว่า "ชุดนี้น่ารัก หุ่นไม่ผอมก็ยังใส่ได้ แต่อาจจะต้องปรับนิดหน่อยนะคะ" โอเค นัดวันไปไฟนอลแบบได้เลยค่า ^o^

วางแผนแต่งงาน

          เราเขียนรีวิววันไฟนอลแบบที่ Saree (มีแบบตอนลองชุดยาวด้วย) ลองเข้าไปดูเพิ่มได้ที่นี่ค่ะ directory.weddingsquare.com
 
          สำหรับชุดงานกรุงเทพฯ เราขอเพิ่มแถบผ้าโปร่งด้านบน ไม่ให้เป็นชุดเกาะอก (รีเควสว่าที่คุณแม่สามีค่ะ) ส่วนพี่เดียร์ขอปรับแถบเข็มขัดให้เล็กลง เพื่อไม่เน้นให้เอวดูตัน กับร่นความยาวขึ้นไปอีกหน่อย ให้อยู่ประมาณใต้เข่า แต่ใส่สุ่มประมาณ 3 ชั้นให้กระโปรงบาน ๆ ฟู ๆ ใจจริงเราตอนนั้น อยากให้ชายของชุดยาวอีกหน่อย แต่ก็เห็นจริงอย่างพี่เดียร์ว่า ถ้าขืนยาวขนาดนั้นมันดูตัวตันแน่ ๆ เลยโอเคแบบสั้นค่ะ

แต่งงาน

         ตอนลองแบบผ้าดิบค่ะ ตอนนั้นเรายังกะความยาวจากสายตาไม่ค่อยเป็น คิดว่าน่าจะโอเคแล้ว (ความจริงถ้าจะเปลี่ยนใจอะไรเรื่องแบบชุด ควรจะเปลี่ยนตั้งแต่ตอนแบบผ้าดิบนะคะ ^^!) ทีนี้พอมาถึงตอนลองชุดจริง (ยังไม่ได้ปัก)

แต่งงาน

          ชุดน่ารักมาก ๆ แต่เราก็ยังรู้สึกว่ามันสั้นเกินไปจนดูเหมือนชุดงานกลางวัน ถามหลายคนก็ได้หลายความเห็น บางคนก็บอกโอเค บางคนก็บอกมันดูจืดไปหน่อย เครียดอยู่ 5 วัน สุดท้ายก็โทรไปหาพี่เดียร์ว่า ขอแก้แบบเถอะค่ะ หนูอยากได้ชายยาวกว่านี้ >_< พี่เดียร์ก็โอเค แต่ขอโทรถามทางช่างก่อนว่าจะสามารถต่อผ้าได้ (เราจะได้ไม่เสียเงิน) หรือต้องตัดผ้าใหม่ ปรากฏว่าถ้าต่อแล้วจะเสียทรงค่ะ เลยต้องตัดผ้าใหม่ทุกชั้น จ่ายค่าผ้าเพิ่มอีก 5 พันบาท แต่เราโอเค ขอให้ได้ชุดถูกใจละกัน ไหน ๆ เพิ่มแล้ว คราวนี้เลยขอเพิ่มแบบเต็มแม็กค่ะ จาก 23 นิ้วเป็น 33 นิ้ว เพิ่มมา 10 นิ้ว ยาวสะใจเลยทีนี้ อีก 1 เดือนมารับชุดที่เสร็จแล้วไปถ่ายพรีเวดดิ้ง

วางแผนแต่งงาน

          พอลองวันถ่ายจริงก็ค่อยแฮปปี้ ได้อย่างใจแล้วค่ะ ไม่อ้วนด้วย (เพราะพี่เดียร์ปรับทรงให้บานน้อยลง)

วางแผนแต่งงาน

          ซูมด้านบน (อันนี้รูปวันลองชุดรอบสุดท้ายค่ะ)  

รองเท้าเจ้าสาว

          Wedding Shoes: SIRENA แบรนด์รองเท้าเจ้าสาวในฝัน ^^ ชอบตั้งแต่ตอนเห็นใน WE ละ ร้านเป็น co- กับซารีด้วย เลยได้เลือกรองเท้าพร้อม ๆ กับที่ลองแบบชุดค่ะ ด้วยความที่ชุดเราเป็นชุดที่เห็นรองเท้า เลยเลือกรองเท้าแบบที่มีดีเทล+น่ารักหน่อย

รองเท้าเจ้าสาว

แต่งหน้า+ทำผม

          พี่หน่อง พงศ์ศักดิ์ (ช่างแต่งหน้า) และพี่แดน ภูวดล (ช่างทำผม) เหมือนงานเช้าค่ะ พี่ ๆ มาช่วยรอบเช้ารอบเย็นเลย ขอบคุณมาก ๆ

วางแผนแต่งงาน

วางแผนแต่งงาน

วางแผนแต่งงาน

แต่งงาน

          รอบเย็นพี่แดนทำผมให้ต่างจากตอนถ่ายพรีเวดดิ้ง (ตอนนั้นเราทำผมเรียบ ๆ เพราะเป็นทรงที่ปรับมาจากชุดกี่เพ้า) คราวนี้พี่แดนม้วนผม แล้วก็ขยุ้มให้เป็นทรงเบา ๆ เก๋ ๆ (อธิบายไม่ถูก บอกได้แต่ว่าชอบมาก) ติดแฮร์พีซเข้าไปแล้ว ดูวินเทจสมใจ ส่วนเมคอัพพี่หน่องก็เลยแต่งให้เป็นแนวตุ๊กตา ติดขนตาปลอมทั้งบนล่าง เน้นตาสุด ๆ งานนี้เพื่อน ๆ มีแต่คนชมว่า "ตาเด้งมาก ๆ เลยแก" ขอบคุณพี่ ๆ มา ณ ทีนี้อีกครั้งค่ะ

การจัดตกแต่งสถานที่

          เตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว ลองไปดูรอบ ๆ งานว่ามีอะไรบ้างนะคะ ... Wedding Bears: Ring Boy & Flower Girl อันนี้เราเอามาจากการ์ตูนเรื่องโปรดค่ะ ไม่รู้มีใครเคยอ่านไหม V.B.Rose (ขอหัวใจเจ้าสาวในฝัน สนพ.บงกช) พระเอกของเรื่องเป็นนักออกแบบชุดแต่งงาน ส่วนนางเอกก็ชอบประดิดประดอยค่ะ เล่ม 2 จุดประกายเรามา ตอนที่นางเอกทำของขวัญให้พี่สาวที่จะแต่งงานเป็น Wedding Rabbit

          เรากับคุณว่าที่ก็มีลูกชายเป็นลูกหมี อายุ 4 ขวบ (เท่าปีที่คบกัน) คิดไว้ตั้งนานแล้วว่าอยากให้หมีโหดได้มีส่วนร่วมในงานด้วย เลยได้ใช้เป็น Wedding Bear นี่แหละ จับคู่กับน้องสาว (ตุ๊กตาโมโมโกะของเรา เพิ่งได้มาหมาด ๆ จากญี่ปุ่น)

แต่งงาน

สูทลูกชาย จาก Build A Bear เซ็นทรัลลาดพร้าว ใส่ได้พอดีเป๊ะเลย

แต่งงาน

          ชุด Flower Girl ของลูกสาว จาก Studio D* ร้านชุดตุ๊กตาของเพื่อน อุตส่าห์หอบหิ้วลูกสาวมาให้จากญี่ปุ่น แถมตัดชุดให้ด้วย ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

          ด้วยความที่ลูกสาวตัวเล็ก ตั้งไว้ที่โต๊ะลงทะเบียนก็กลัวจะถูกโฉบวูบไปไม่รู้ตัว แถมเพื่อน ๆ ในห้องเจ้าสาว พฤษภาคม 2554 มาเล่าว่า มีเจ้าสาวคนหนึ่งเอาตุ๊กตาหมีของรักของหวงไปตั้งในงาน แล้วถูกโฉบหาย ราคาน่ะไม่เท่าไหร่ แต่คุณค่าทางจิตใจประเมินไม่ได้

          ฟังแล้วกลัว จะหากล่องมาใส่ก็ไม่สวย เลยไปเดิน JJ กับคุณว่าที่ หากรงแนววินเทจ (สีขาว) มาพ่นสีน้ำตาลให้เข้ากับธีม แต่งด้วยดอกไม้สีแดง ให้ลูก ๆ อยู่อย่างปลอดภัย

วางแผนแต่งงาน

เค้กแต่งงาน

วางแผนแต่งงาน

          เป็นเค้กสีขาว 7 ชั้น แต่งด้วยดอกไม้สีแดง ด้านล่างเป็นเค้กวนิลา (ของจริงสำหรับตัดเสิร์ฟ) ปกติเค้กแต่งงานจะหวาน ๆ แข็ง ๆ ไม่ค่อยอร่อย แต่เค้กก้อนนี้มีแต่คนชมค่ะ (บ่าวสาวไม่ได้ชิมเลย) ต้องยกความดีให้ทางเชอราตันละนะ

Presentation

วางแผนแต่งงาน

          Presentation : Short Film อลวนรัก นักสืบสาว (ตั้งชื่อเองหมาด ๆ ให้เหมือนการ์ตูนญี่ปุ่น – ฮา)

          พรีเซนต์เปิดตัวที่ขอให้เพื่อนผู้กำกับ (อดีตเพื่อนช่างภาพที่ทำงาน) ซึ่งไปเรียนต่อโท ภาควิชาภาพยนตร์ที่ ม.วาเซดะ ประเทศญี่ปุ่น ช่วยถ่าย+ตัดต่อให้ค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะทำหนังสั้น เล่าชีวิตสมัยมหาลัยฯ ของบ่าว-สาว ที่เดินสวนกันไปสวนกันมา แต่ไม่เคยเจอกัน แต่พอมาคุยเรื่องภาพ+วิธีการถ่ายทำแล้ว มันจะยากมาก (ไม่นับเรื่องต้องขออนุญาตเข้าไปถ่ายในมหาลัยฯ) สุดท้ายเลยล้ม Story board มานั่งคุยกันใหม่ ทำเป็นหนังสั้นที่ไม่เกี่ยวกับชีวิตจริงไปเลย เอาหนังเรื่องโน้นเรื่องนี้มาคุยกัน ออกมาเป็นพล็อตหนังฟิล์มนัวร์ เรื่องราวของนักสืบสาวกับผู้จ้างวาน ที่มาจ้างให้เธอตามหาผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะพิเศษหลาย ๆ อย่าง

          งานนี้ทำเสร็จด้วยฝีมือคน 3 คน คือ ผู้กำกับ (ถ่ายภาพ + ตัดต่อ + ใส่เสียงด้วย), เจ้าบ่าว (ฝ่ายสถานที่ + อุปกรณ์) และเจ้าสาว (คนเขียนบทร่วม + คอสตูม + เมคอัพ (ตัวเอง) ตัดต่อเสร็จแล้วมานั่งคุยกันอีกที "เฮ้ย...มันแนวมากเลยนะเนี่ย คนดูจะรู้เรื่องไหม" ปรากฏว่าส่วนใหญ่รู้เรื่องค่ะ แต่ผู้ใหญ่จะงง ๆ นิดหน่อย เพราะมันไม่เหมือนพรีเซนเทชั่นที่เห็นบ่อย ๆ (ได้ยินคำเปรย ๆ ว่า หนุ่มสาวเดี๋ยวนี้เขาทำอะไรแปลก ๆ กันดีนะ)  แต่เพื่อน ๆ ส่วนใหญ่ชอบค่ะ - - ถือว่าเสมอตัวละมั้ง

          ผลพลอยได้ คือ เพื่อนผู้กำกับติดใจโลเกชั่นโฮมออฟฟิศของเจ้าบ่าว เลยมาถ่ายหนังสั้นอีกเรื่อง (ที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องแรกเลย) กะจะทำเป็นหนังสั้นไตรภาค ฉายในงานเทศกาลหนังปีหน้าค่ะ ไว้ถ้าได้ฉายแล้ว จะเอาหนังสั้นของเรามาให้ชมแบบเต็ม ๆ นะคะ

เพลงแต่งงาน

          หลังจากนั้นก็เปิดตัวบ่าว-สาวเข้างานค่ะ

วางแผนแต่งงาน

          Song : เส้นทางนี้ โดย เจี๊ยบ วรรธนา เพลงโปรดเจ้าสาว ชอบมาตั้งนานแล้ว เลยตั้งใจใส่มาเป็นเพลงเปิดตัว รู้สึกว่าจังหวะเข้ากับการเดิน และเข้ากับบุคลิกของคู่เราด้วย คือ ไม่หวานเจี๊ยบ เน้นน่ารัก + สบาย ๆ มากกว่า

แต่งงาน

          แอบเขินนิดหน่อย เลยติดรูปตอนกำลังก้มหน้า หลังจากนั้นก็มีการพูดคุยเกี่ยวกับหนังสั้น (อธิบายที่มาที่ไป – เผื่อแขกไม่เข้าใจ) แล้วก็เข้าสู่พิธีการค่ะ เชิญประธานในพิธีขึ้นมาสวมมาลัย กล่าวอวยพร แล้วดื่มอวยพรค่ะ (อย่าลืมเตรียมเพลงมหาฤกษ์มาด้วยนะคะ บางโรงแรมอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ เราใส่รวมมากับซีดีเพลงที่ใช้เปิดในพิธีเลยค่ะ)

แต่งงาน

สัมภาษณ์ความรู้สึกกันเล็กน้อย แล้วก็ตัดเค้ก

วางแผนแต่งงาน

          (Note: งานนี้เจ้าสาวอาจจะมีอาการ "ซึ้ง" จนน้ำตาไหลได้ ไม่ว่าคุณจะใจแข็งแค่ไหน ก็แนะนำว่าให้เตรียมผ้าเช็ดหน้า หรือทิชชู่ใส่กระเป๋าสูทเจ้าบ่าวไว้ ปลอดภัยที่สุดค่ะ ของเรากะว่ายังไง๊ยังไงก็คงไม่ร้อง ปรากฏตอนขอบคุณแม่นี่ทนไม่ไหว น้ำตาไหล - - น้ำตาไม่ไหลเปล่า เราร้องไห้แล้วน้ำมูกมันตามมาด้วยนี่สิ ต้องกลั้นแทบแย่ ดีนะถ่ายรูปออกมาแล้วไม่ติด (-__-! )

แต่งงาน

แต่งงาน

          Song: ครึ่งหนึ่ง ของ มูซู เพลงโปรดเจ้าบ่าวค่ะ (แบ่งกันคนละเพลง) เป็นเพลงที่เขาเปิดตอนสารภาพรักด้วย ^^// เพลงนี้ยาวใช้ได้เลย ตอนแรกกลัวว่าเพลงจะจบก่อนตัดเค้กไปให้แขกผู้ใหญ่กับพ่อแม่สองฝ่าย แต่ปรากฏว่าเพลงจบกำลังพอดี กลับมาบนเวทีเลย

แต่งงาน

          และแล้วก็มาถึงเวลาที่สาว ๆ ทุกคนรอคอย เจ้าสาวจะโยนดอกไม้แล้วจ้า พิธีกร (โสด) ทั้งสองคนขอตัวลงไปรอรับดอกไม้ บ่าว-สาวเลยถือไมค์แทน ด้วยความที่รีเควสเยอะจากหลายฝ่าย เราเลยขอให้ทางโรงแรมแบ่งช่อดอกไม้เป็นช่อเล็ก 3 ช่อ ไปกระจายออกกลางอากาศค่ะ ติดตรงที่เจ้าสาวโยนเบาไปหน่อย (ตอนนั้นกลัวดอกไม้จะปลิวไปตกลงโต๊ะจีน) + ช่อดอกไม้หนัก มันเลยตกอยู่แถวหน้าหมดเลย (ข้างหลังบ่นเซ็ง ^^!)

แต่งงาน

          โยนดอกไม้เสร็จก็จบพิธีการค่ะ บ่าวสาวลงจากเวที ไปเดินทักทายแขกตามโต๊ะ แอบแถมเพลงลงจากเวที กันและกัน จากหนังเรื่อง รักแห่งสยาม อันนี้ก็เพลงโปรดค่ะ แต่ไม่ได้ใส่ไว้ในสคริป แค่ใส่ไว้ในลิสต์เพลง แต่น้องเจ้าสาว (คนคุมคิว) เปิดให้อย่างรู้ใจ ตอนเราได้ยินนี่ยิ้มเลย 

วางแผนแต่งงาน

          ถ่ายกับบรรยากาศภายในงานสักเล็กน้อย หลังจากนั้นก็เป็นช่วงรอส่งแขกกลับค่ะ พอหมดพิธีการ แขกส่วนหนึ่งก็ทยอยกลับพอดี มีถ่ายภาพเก็บตกสำหรับท่านที่ยังไม่ได้ถ่ายตอนก่อนเริ่มงานอีกนิดหน่อย ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อน ๆ ที่ทยอยกันมา เลยถ่ายไม่ครบทีม

          งานเริ่มตอน 6 โมงเย็น จบงานประมาณ 4 ทุ่ม เล่นเอาล้าไปเลยเหมือนกัน ต้องจัดการตัวเอง แกะกิ๊บ สระผม ล้างเครื่องสำอาง (อย่าลืมเตรียมอุปกรณ์ล้างเครื่องสำอางไปด้วยนะคะ) กว่าจะเสร็จแทบสลบเหมือด แต่ก็รู้สึกดีใจที่งานซึ่งเราเตรียมตัวมาร่วมครึ่งปีจบลงอย่างสวยงาม

          ความจริงงานเราก็ไม่ใช่งานใหญ่อลังการ แต่แค่ทุกอย่างที่ออกมาสมกับความตั้งใจ แขกทุกคนได้กินอิ่ม (และอาหารอร่อยมาก - - แต่บ่าวสาวไม่ได้กิน เพราะเหนื่อยเกิน) พ่อแม่และผู้ใหญ่มีความสุข เพื่อน ๆ ได้เฮฮา เท่านี้ก็พอแล้วค่ะ สำหรับอีเวนท์ใหญ่ครั้งเดียวในชีวิต

          รีวิวนี้ขอบคุณคนมาหลายคนละ ก่อนจบขอขอบคุณคนสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ เจ้าบ่าว (คุณสามี) ที่เตรียมงานมาด้วยกัน เป็นคู่หูช่วยออกความเห็นทุกอย่าง และที่สำคัญให้กำลังใจในวันที่เราเหนื่อย จนวันนี้แต่งงานกันมาได้หลายเดือนแล้ว ก็ยังดูแลเรามากขึ้น และดีขึ้นทุกวันๆ ขอบคุณมากนะคะ

แต่งงาน


          ได้ทราบข้อมูลดี ๆ จากรีวิวของ คุณนะโอ กันแล้ว หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับว่าที่เจ้าบ่าว-เจ้าสาวที่กำลังเตรียมตัวจะแต่งงานได้บ้าง ถ้าหากมีข้อมูลดี ๆ ในเรื่องการเตรียมตัวจัดงานแต่งงานของเพื่อน ๆ ท่านอื่น ๆ อีก กระปุกเวดดิ้งจะนำมาฝากกันอีกแน่นอน สุขสันต์วันวิวาห์ค่ะ


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เตรียมตัวจัดงานแต่งงาน อย่างไรให้ตรงใจคุณ อัปเดตล่าสุด 10 พฤษภาคม 2555 เวลา 16:01:34 1,924 อ่าน
TOP