เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
รอยยิ้มแห่งความสุขของผู้ที่มาร่วมงาน ความสวยงามที่รายล้อมอยู่รอบ ๆ ตัว รวมไปถึงความประทับใจต่าง ๆ ภายในงานเป็นสิ่งที่ไม่อาจลืมเลือนได้เลย และเป็นสิ่งที่ไม่อาจย้อนเวลากลับมาได้อีก คู่บ่าวสาวส่วนใหญ่จึงนิยมถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง และภาพในพิธีงานแต่งเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก เพื่อรวบรวมบรรยากาศความรักและความอบอุ่นเอาไว้ในความทรงจำตลอดไป และสามารถหยิบภาพเหล่านั้นขึ้นมาดูในวันที่คิดถึงได้ด้วย ทั้งนี้ ภาพที่ออกมาจึงจำเป็นต้องสวยที่สุด หน้าที่นี้จะเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจาก "ช่างภาพ" ในวันนี้เรามีทริคการถ่ายภาพงานแต่งสำหรับช่างภาพ (จำเป็น) มาฝากกันด้วย
1. ถามความต้องการคู่บ่าวสาวแต่ละคู่มีความต้องการแตกต่างกันไป ดังนั้น ควรคุยกับเจ้าบ่าวและเจ้าสาวให้เรียบร้อยก่อนจะเริ่มงานว่าอยากจะได้ภาพในสไตล์ไหน รูปแบบใด หรืออยากจะให้เน้นจุดใดเป็นพิเศษบ้างหรือเปล่า รวมไปถึงกำหนดพิธีการและรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับงาน อย่างเช่น ธีมงานแต่ง สถานที่ และประเภทของผู้ที่มาร่วมงาน จะช่วยให้การถ่ายภาพง่ายยิ่งขึ้น
2. ดูสถานที่ก่อนถึงวันพิธีก่อนจะถึงวันแต่งงานจริง ๆ ควรจะเข้าไปดูสถานที่จัดก่อนสักครั้ง เพื่อเช็กมุมตั้งกล้องและจุดภาพถ่าย ว่าควรจะยืนมุมไหนอย่างไรดี ในแต่ละจุดสามารถถ่ายภาพที่ต้องการได้หรือไม่ รวมไปถึงวางแผนสำรองหากไม่สามารถเข้าไปยืนในจุดที่ต้องการได้ และหากต้องการจะใช้อุปกรณ์เพิ่มเติมควรจะขอผู้จัดเอาไว้ล่วงหน้าดีกว่า
3. เก็บทุกรายละเอียดสำหรับการเก็บภาพในงานแต่งงานใช่ว่าจะถ่ายแค่ภาพของเจ้าบ่าวเจ้าสาว หรือแขกที่มาร่วมงานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ควรจะเก็บภาพบรรยากาศสีสันของสถานที่จัดงานและสิ่งที่น่าสนใจต่าง ๆ ทั้งของตกแต่ง เครื่องดื่ม อาหาร พิธีกร วงดนตรี ฯลฯ อีกทั้งยังรวมไปถึงสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย เช่น ภาพแหวนแต่งงานด้วย นอกจากจะได้ทุกรายละเอียดแล้วยังทำให้ดูเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น
4. ตรวจเช็กอุปกรณ์เรื่องสำคัญสำหรับช่างภาพอีกหนึ่งอย่าง คือ การตรวจเช็กสภาพความพร้อมของอุปกรณ์ที่จะนำไปใช้ ได้แก่ ตัวกล้อง เลนส์ แฟลช ขาตั้งกล้อง และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ไม่ควรจะให้ขาดตกบกพร่อง นอกจากนี้ หากเป็นไปได้ควรจะมีเตรียมอุปกรณ์สำรองเอาไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินหรือเกิดเหตุผิดพลาดด้วย เช่น เมมโมรี่การ์ด แบตเตอรี่ เป็นต้น พร้อมกับลองจับภาพตัวอย่าง เพื่อความรวดเร็วในการจัดแสง กับองค์ประกอบต่าง ๆ ในวันจริง
5. เตรียมกล้องให้พร้อมเนื่องจากการถ่ายภาพแคนดิด อย่างเช่น ภาพงานแต่งนั้นต้องใช้ความเร็วและแต่ละช็อตสำคัญมาก ๆ ดังนั้น เพื่อความรวดเร็วและความสะดวกในการหยิบใช้ควรจะเตรียมกล้องถ่ายภาพสำรองเอาไว้อีกหนึ่งตัว โดยกล้องตัวแรกใช้กับเลนส์ไวด์เอาไว้สำหรับถ่ายภาพในมุมกว้าง ส่วนกล้องอีกหนึ่งตัวเอาไว้ใช้กับเลนส์เทเลสำหรับเก็บภาพในมุมแคบ หรือภาพจากระยะไกล
6. ตั้งค่ารายละเอียดให้ครบการถ่ายภาพงานแต่งควรตั้งค่าภาพโดยการใช้ไฟล์ RAW ตลอดการถ่าย เพราะไฟล์ประเภทนี้จะช่วยให้ช่างภาพสามารถใช้โปรแกรมช่วยแต่งสี ปรับแสงให้ได้ดั่งใจและง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาพในบรรยากาศแบบ Indoor หรือ Outdoor พร้อมกับเช็กการตั้งค่าของ White balance ด้วย
7. ขอความร่วมมือจากแขกในงานเพื่อให้ภาพออกมาสวยและมีความสมบูรณ์มากที่สุด อาจจะขอความร่วมมือจากแขกในงานเก็บภาพอารมณ์ และทุกความรู้สึกของพวกเขาเอาไว้ ทั้งรอยยิ้มแห่งความสุข น้ำตาที่มาจากความยินดี และอีกหลากหลายความเคลื่อนไหวที่แสดงออกมาสำหรับวันพิเศษเช่นนี้ เพื่อช่วยให้ได้ภาพที่หลากหลาย และน่าสนใจมากขึ้น
8. เก็บภาพคู่ของเจ้าบ่าวเจ้าสาวหากเป็นไปได้ควรจะขอเวลาของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวมาถ่ายภาพแบบเอ็กซ์คลูซีฟร่วมกันสักเซต ทั้งภาพเดี่ยวและภาพคู่ เพระหากเข้าพิธีไปแล้วคงยากที่จะให้พวกเขาปลีกตัวออกมา และก่อนที่ความเหนื่อยล้าของทั้งคู่จะทำให้หมดอารมณ์สำหรับการถ่ายภาพ ส่วนภายในงานแต่งงานควรจะเดินประกบเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเอาไว้ตลอด เนื่องจากเป็นตัวหลักของงานนี้
อีกหนึ่งทริคที่ช่างภาพงานแต่งไม่ควรจะลืมเลย คือ การถ่ายภาพแต่งงานค่อนข้างจะแตกต่างจากงานทั่วไป เพราะในชีวิตหนึ่งอาจจะมีโอกาสจัดพิธีและแต่งงานเพียงครั้งเดียว และภาพเหล่านี้จะอยู่กับพวกเขาตลอดไป ดังนั้น ช่างภาพจึงควรใส่ใจทุก ๆ รายละเอียดและทุกขั้นตอนเป็นพิเศษ เพื่อให้ภาพที่ออกมาสวยสมใจเจ้าบ่าวเจ้าสาว และสมบูรณ์แบบมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
