เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
การจัดงานแต่งงานแต่ละครั้งใช้งบประมาณไม่น้อยเลย เพราะไม่ได้มีแค่ค่าชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวเท่านั้น แต่ยังมีรายจ่ายอื่น ๆ ปลีกย่อยอีกมากมาย ทั้งค่าสถานที่จัดงาน อาหารสำหรับจัดเลี้ยง การ์ดเชิญแจ้งแขกและคนสำคัญต่าง ๆ รวมไปถึงของชำร่วย กับของตกแต่งภายในงาน ซึ่งหลายคู่นั้นมักจะพบปัญหาว่างบประมาณบานปลายและมากกว่าที่ตั้งเอาไว้ ดังนั้น เพื่อไม่ให้ปัญหาเหล่านั้นเกิดขึ้นกับตัวเอง มาดูวิธีวางแผนงานแต่งแบบประหยัด ที่ใช้งบประมาณไม่มาก แต่ได้ทุกอย่างตามความต้องการกันดีกว่า
1. แจ้งแขกผ่านสื่อออนไลน์
การสั่งจัดพิมพ์การ์ดแต่งงานใช้งบประมาณไม่ใช่เล่น ดังนั้น หากไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้มากนัก อาจจะพิมพ์การ์ดเท่ากับจำนวนของแขกสำคัญก็พอ อย่างเช่น ญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย ส่วนเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ และคนรู้จักเปลี่ยนวิธีโดยการแจ้งผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กต่าง ๆ แทน ได้แก่ เฟสบุ๊ก ทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นช่องทางที่ช่วยให้ประหยัดไปได้เยอะทีเดียว นอกจากนี้ ยังสะดวกและรวดเร็ว เหมาะกับคู่บ่าวสาวที่มีเวลาน้อยด้วย โดยการแต่งอีการ์ดสวย ๆ หรือคลิปวิดีโอน่ารัก ๆ ก็ได้
2. หาไอเดียงานแต่งจากเสิร์ชเอนจิน (Search Engine)
การหาไอเดียงานแต่งสำหรับตัวเองไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป และอาจไม่จำเป็นต้องจ้างออแกไนซ์มาช่วยคิดให้เสียเวลา เพราะตอนนี้ในโลกอินเทอร์เน็ตมีธีมแต่งงานมากมายให้ค้นหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถเปรียบเทียบความสวยงามของแต่ละสไตล์ และนำมาประยุกต์ใช้ได้เลย อีกทั้งยังมีข้อมูลกับคำแนะนำแบบละเอียดยิบทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกชุดไปจนถึงการตกแต่งงานเลยทีเดียว
3. ฉลองผ่านโปรแกรมแชท
สำหรับญาติหรือเพื่อนที่อยู่ทางไกลไม่สามารถเดินทางมาร่วมงาน คงน่าเสียดายไม่ใช่น้อยเพราะวันดี ๆ แบบนี้ใช่ว่าจะจัดกันได้บ่อย ๆ ฉะนั้น แทนที่จะเดินทางไกลไปหาพวกเขา ใช้โปรแกรมแชทที่มีระบบวิดีโอคอลแทน ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลกคนละประเทศ หรือคนละทวีปก็สามารถร่วมฉลอง และแบ่งปันประสบการณ์น่าประทับใจแบบนี้ได้เช่นกัน
4. แจ้งข้อมูลผ่านระบบแชร์ไฟล์
หากมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานแต่ง การ์ดใบเดียวอาจไม่เพียงพอที่แจ้งข้อมูลทั้งหมดได้ ดังนั้น อาจเปลี่ยนมาแจ้งกำหนดการและรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านระบบแชร์ไฟล์ ซึ่งนอกจากจะสามารถระบุข้อมูลได้ตามความต้องการแล้ว ยังมีรายละเอียดของที่อยู่ ชื่อกับนามสกุล และการติดต่อไว้พร้อม แค่พิมพ์รายะเอียดลงไปกับชื่อของคนที่ต้องการจะส่ง พร้อมแนบไฟล์ให้เรียบร้อยและกดส่ง เพียงเท่านี้ข้อมูลถึงมือผู้รับได้ในทันทีโดยไม่ต้องรอ แถมยังสามารถเช็กประวัติการส่ง และติดตามข้อมูลได้ง่ายอีกด้วย
5. จองทุกอย่างไว้ล่วงหน้า
เนื่องจากยิ่งจองใกล้งานแต่งมากเท่าไหร่ ราคาจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะในช่วงที่ตรงฤกษ์ดีสำหรับการแต่งงาน เพราะหลาย ๆ คู่จะติดต่อเข้ามาพร้อมกันในโอกาสนี้ผู้จัดอาจจะมีการชาร์จราคาเพิ่มขึ้น ดังนั้น หากกำหนดวันแต่งงานได้แล้วควรจะรีบลงมือจองซะตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยเฉพาะสถานที่แต่งงาน นอกจากจะมีโอกาสได้เลือกมากกว่าแล้ว ราคาที่ได้อาจจะถูกกว่าเดิม หรือสามารถต่อรองได้ง่ายขึ้น
6. ดนตรี
โดยปกติแล้วการจ้างวงดนตรีมาเล่นสดใช้งบประมาณค่อนข้างเยอะเป็นธรรมดา ดังนั้น อาจเปลี่ยนวิธีเปิดแผ่น หรือโหลดเพลงมาใช้แทน ทั้งนี้ หากกลัวว่าบรรยากาศในงานจะกร่อย อาจจะเพิ่มกิจกรรมสนุก ๆ ให้แขกได้มีส่วนร่วม อย่างเช่น เชิญญาติมากล่าวคำอวยพร หรือร้องคาราโอเกะก็ได้ นอกจากจะช่วยเพิ่มความสนุกสนานแล้ว ยังช่วยประหยัดอีกทาง
7. ของชำร่วย
ของชำร่วยที่ใช้สำหรับแจกให้กับผู้ที่มาร่วมงาน ไม่จำเป็นต้องเลือกของที่เหมือนกับงานอื่น ๆ เสมอไป เพราะสามารถนำของที่มีอยู่มาใช้อาจจะดีกว่า อย่างเช่น เครื่องปรุงส่วนผสมหรือขนมที่เป็นสูตรลับจากที่บ้าน รูปถ่ายพรีเวดดิ้งของพวกคุณ ของแฮนด์เมดที่เป็นของขึ้นชื่อก็ได้ นอกจากจะเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายแล้ว ยังเป็นไอเดียที่ไม่ซ้ำใครด้วย
8. สถานที่จัดงาน
สถานที่จัดงานแต่งงานไม่จำเป็นต้องจัดในโรงแรมเสมอไป เพราะนอกจากจะต้องใช้งบประมาณมากพอสมควรแล้ว อาจมีค่าใช้จ่ายแตกออกไปอีกมากมาย ดังนั้น สำหรับคนที่อยากจะประหยัดลองมองหาสถานที่อื่น ๆ ดูบ้างน่าจะช่วยได้เยอะเลย อย่างเช่น ร้านอาหารน่ารักริมทะเล สโมสร โบสถ์ต่าง ๆ รวมไปถึงสนามกลางแจ้งตามสวนต่าง ๆ สามารถดัดแปลงเป็นสถานที่สำหรับงานแต่งได้เช่นกัน
9. ชุดแต่งงาน
สำหรับชุดแต่งงานยิ่งรายละเอียดมากเท่าไหร่ยิ่งมีราคาสูงมากเท่านั้น โดยเฉพาะชุดเจ้าสาวที่มีการใช้เม็ดคริสตัล ผ้าลูกไม้ หรือแบบที่มีรายละเอียดเยอะ ฉะนั้น หากเป็นไปได้ควรเลือกแบบเรียบเอาไว้ก่อน ก็สามารถช่วยให้เจ้าสาวสวยได้เช่นกัน และนำมาตกแต่งเองเพิ่มเข้าไปอีกเล็กน้อย หากต้องการจะสร้างสีสันก็สามารถทำได้ โดยการเลือกช่อดอกไม้สักช่อเท่านั้นเอง
10. อาหารเลี้ยงแขก
อาหารเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ขาดไปไม่ได้เลย ทั้งนี้ สามารถตัดค่าใช้จ่ายให้น้อยลงได้โดยการเลือกใช้อาหารไทย เนื่องจากมีราคาถูกกว่าอาหารชนิดอื่น ๆ ที่สำคัญยังถูกปากกับแขกทุกคนที่มาร่วมงานด้วย ส่วนขนมหวานที่ใช้หากมีเค้กแต่งงานอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเตรียมมาก เพราะสามารถนำเค้กมาเป็นขนมหวานให้กับแขกได้เลย
เห็นไหมล่ะว่างานแต่งงานจะดีหรือไม่นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับงบประมาณเพียงอย่างเดียว เพราะสามารถจัดงานแต่งออกมาให้สมบูรณ์แบบได้ดั่งใจเช่นกัน ด้วยงบประมาณที่จำกัด อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลกับเรื่องงบประมาณบานปลายอีกด้วย เพียงแค่ตัดค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยออก และจัดการวางแผนให้ดีเท่านั้นเอง
