x close

ลำดับขั้นตอนพิธีการแต่งงานในช่วงเย็น

พิธีแต่งงานช่วงเย็น

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


           หลังจากที่เราได้ทราบ พิธีการแต่งงานในช่วงเช้า ไปแล้ว วันนี้กระปุกเวดดิ้งนำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับพิธีการและลำดับขั้นตอนการแต่งงานในช่วงเย็นมาฝากกันค่ะ จะมีขั้นตอนอย่างไร และต้องเตรียมอะไรเป็นพิเศษนั้น ตามเราไปชมกันเลยจ้า

           พิธีการแต่งงานในช่วงเย็น มักเป็นงานเลี้ยงขอบคุณแขกผู้ที่เดินทางมาแสดงความยินดี ซึ่งส่วนใหญ่แล้วพิธีการจะไม่มีอะไรมาก แต่ก็ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญเพราะเป็นการประกาศการเป็นครอบครัวใหม่ เป็นช่วงเวลาของการกล่าวอวยพรที่สร้างความซาบซึ้ง ประทับใจ และสร้างความน่าจดจำให้กับคู่บ่าวสาว คุณพ่อคุณแม่ และแขกที่มาร่วมงานทุกคน แต่ก็ยังมีพิธีแต่งงานแบบไทยอยู่บ้าง เช่น พิธีปูที่นอนและส่งตัวเข้าหอ (หากฤกษ์อยู่ในช่วงค่ำ)

การเลี้ยงฉลองมงคลสมรส

           ลำดับขั้นตอนบนเวทีในช่วงเย็นนั้น โดยมากจะใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ยกเว้นจะมีกิจกรรมอื่นเพิ่มขึ้น เช่น การแสดง การแจกรางวัล การอวยพร เป็นต้น โดยในการ์ดเชิญจะระบุเวลาเริ่มงานประมาณ 18.30 น. เมื่อแขกเริ่มทยอยมาประมาณ 70% ของที่เชิญ หรือเมื่อถึงเวลาประมาณ 19.30 น. พิธีการบนเวทีก็จะเริ่มต้นขึ้น แต่หากแขกยังมากันน้อยสามารถเลื่อนเวลาออกไปได้ไม่เกิน 19.45 น. โดยมีลำดับขั้นตอน ดังนี้

พิธีแต่งงานช่วงเย็น

           19.15 น. เตรียมความพร้อมขั้นสุดท้าย ในงานเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์หรือค็อกเทลแขกสามารถเริ่มทานอาหารที่จัดเตรียมไว้ได้ทันทีที่มาถึง แต่ถ้าเป็นงานเลี้ยงแบบโต๊ะจีน อาหารจะเริ่มเสิร์ฟจานแรกเมื่อเวลา 19.00 น. และพิธีกรจะเริ่มแนะนำตัวหลังเสิร์ฟอาหารจานที่ 3 แล้ว แต่ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงแบบใด พิธีการบนเวทีจะเริ่มต้นในเวลาประมาณ 19.30 น.

           19.30 น. พิธีกรกล่าวต้อนรับแขก จากนั้นเริ่มฉายพรีเซนเทชั่นซึ่งความยาวไม่ควรเกิน 8 นาที เพื่อแขกจะได้ให้ความสนใจชมตั้งแต่ต้นจนจบ

           19.45 น. พิธีกรกล่าวเชิญคู่บ่าวสาวขึ้นเวที ซึ่งช่วงนี้ถือเป็นไฮไลท์ที่เด่นที่สุดของงาน โดยการเปิดตัวนี้จะทำต่อเนื่องทันทีที่การฉายพรีเซนเทชั่นจบ ฝ่ายเสียงอาจจะเปิดเพลงคลอเบา ๆ ระหว่างที่บ่าวสาวกำลังเดินขึ้นเวที ระหว่างนั้นพิธีกรอาจจะแนะนำคู่บ่าวสาวกับข้อมูลเบื้องต้นสั้น ๆ ทั้งนี้ หากคุณพ่อคุณแม่ของคู่บ่าวสาวจะขึ้นบนเวทีด้วย ให้ประกาศชื่อเชิญตอนนี้ได้เลย

           20.00 น. พิธีกรกล่าวเชิญประธานขึ้นคล้องพวงมาลัยและกล่าวอวยพร โดยมีผู้ถือพานเชิญพวงมาลัยเดินตามหลังขึ้นมาด้วย และเมื่อประธานคล้องพวงมาลัยให้เจ้าสาวตามด้วยเจ้าบ่าวแล้วกล่าวอวยพร เจ้าหน้าที่ถือเครื่องดื่มสำหรับดื่มอวยพรมาส่งให้เพื่อเชิญทุกท่านร่วมดื่มอวยพร

           20.15 น. พิธีกรสัมภาษณ์คู่บ่าวสาวและกล่าวขอบคุณ ในลำดับพิธีนี้บ่าวสาวควรจะต้องนัดแนะกับพิธีกรก่อน อย่าปล่อยเรื่องสคริปต์ให้เป็นหน้าที่ของพิธีกร หากไม่อยากถูกเซอร์ไพรส์กลางงานแต่งงานของตัวเอง และช่วงสัมภาษณ์ควรมีไมโครโฟนครบทุกคน

           20.30 น. จุดเทียนและตัดเค้ก เพื่อมอบให้แก่ท่านประธานในพิธี คุณพ่อคุณแม่ของทั้งคู่ และผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ส่วนแขกอื่น ๆ ทางเจ้าหน้าที่จัดเลี้ยงจะช่วยจัดการนำไปเสิร์ฟให้เอง

           20.45 น. กิจกรรมพิเศษ ในกรณีที่มีกิจกรรมพิเศษอื่น ๆ หรือมีแขกท่านใดต้องการร้องเพลงให้คู่บ่าวสาว พิธีกรก็จะดำเนินรายการในช่วงนี้ จากนั้นก็เป็นช่วงที่คู่บ่าวสาวจะต้องเดินไปขอบคุณแขกภายในงานทีละโต๊ะ พร้อมทั้งถ่ายภาพเป็นที่ระลึกด้วย และแขกจะเริ่มทยอยกันกลับ เป็นอันจบพิธีการช่วงงานเลี้ยง

           อย่างไรก็ตาม สำหรับคู่บ่าวสาวที่ยังไม่ได้ทำ "พิธีปูที่นอน" และ "พิธีส่งตัว" เพราะมีฤกษ์ทำพิธีในช่วงดึกก็อาจจะทำพิธีเลย ทั้งนี้ กว่าคู่บ่าวสาวจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์พิธีแต่งงานได้ต้องผ่านพิธีที่สำคัญที่สุดก่อน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการแต่งงาน นั่นก็คือ "พิธีปูที่นอน" และ "พิธีส่งตัว" เพราะถือเป็นการรับพรจากผู้ใหญ่ที่เคารพ เพื่อชีวิตคู่จะได้ราบรื่นตลอดรอดฝั่งไปจนแก่เฒ่า ซึ่งผู้ใหญ่ที่จะมาทำพิธีให้จะต้องเป็นคู่ที่ใช้ชีวิตกันมายาวนาน กล่าวคือ เป็นคู่ที่มีสิริมงคลในการร่วมชีวิตคู่มาเป็นผู้ทำพิธีปูที่นอนเรียงหมอน

  พิธีปูที่นอน

พิธีแต่งงานช่วงเย็น

           ผู้ที่ทำพิธีจะต้องเตรียมข้าวของสำหรับเข้าพิธี ได้แก่


          หินบดยา 1 ก้อน (หมายถึง จิตใจหนักแน่น)
          ไม้เท้า 1 อัน (หมายถึง อายุยืน)
          ฟักเขียว 1 ลูก (หมายถึง ความเยือกเย็นอยู่เป็นสุข)
          ถั่ว งา อย่างละ 1 ถุง (หมายถึง ความเจริญงอกงามเพิ่มพูน)
          ภาชนะน้ำ 1 ที่ (หมายถึง สามัคคีกลมเกลียวเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว)
          แมว 1 ตัว (หมายถึง รักบ้านเรือน)
          ไก่ขาว 1 ตัว (หมายถึง ตื่นดึก ลุกเช้า เฝ้าขยันหมั่นเพียร)
          เครื่องนอนของเจ้าบ่าว-เจ้าสาว
          ขันน้ำมนต์ 1 ขัน พร้อมที่พรม
          ข้าวตอก ดอกไม้ 1 ขัน (ดอกรัก มะลิ กุหลาบ ผสมเหรียญทอง-เงินอย่างละ 9 เหรียญ หรือตามต้องการ)

           จากนั้นก็จึงเริ่มปูที่นอนแล้วพรมน้ำมนต์ที่นอน พร้อมกับให้ศีลให้พรเพื่อเป็นสิริมงคล และโปรยข้าวตอกดอกไม้ลงบนที่นอน ซึ่งในการทำพิธีญาติสามารถเข้าไปร่วมพิธีได้ เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมแก่การทำพิธี ผู้ที่ประกอบพิธีจะลุกขึ้นและยืนร้องถามข้อความต่าง ๆ และจะต้องมีคนคอยตอบด้วย

          ผู้ทำพิธี : ถึงฤกษ์ดีแล้วหรือยัง
          คนคอยตอบ : ถึงแล้วขอรับ
          ผู้ทำพิธี : นายบุญมั่นมาแล้วหรือยัง
          คนคอยตอบ : มาแล้วขอรับ
          ผู้ทำพิธี : นายบุญคงเล่ามาแล้วหรือยัง
          คนคอยตอบ : มาแล้วขอรับ

          ต่อมาก็ถามถึงคนที่มีชื่อเป็นสวัสดีมงคลอย่างอื่นอีกสัก 2-3 คน และให้มีคนคอยรับทุกครั้งว่ามาแล้ว ต่อมาผู้กระทำพิธีจะไปพูดกับภรรยาของตนว่า "ถึงฤกษ์ดีแล้ว ผู้ที่จะมาอำนวยพรก็มาพร้อมกันแล้ว เรามาช่วยกันปูที่นอนให้เถิด" ว่าแล้วก็ช่วยกันปูที่นอนจนเรียบร้อย ขั้นตอนต่อมาผู้กระทำพิธีทั้งคู่ขึ้นไปนั่งเคียงกันบนที่นอน หันหน้าไปทางข้างหัวนอน ไหว้พระสวดมนต์ด้วยกันสักครู่หนึ่ง พอจบแล้วก็ลงนอนเคียงกันบนที่นอน ให้พรบ่าวสาวเป็นคำสนทนากันและกัน เช่น

          ฝ่ายชาย :
ที่นอนน่านอน ใครนอนเห็นจะอยู่เย็นเป็นสุขสบาย อายุยืนนะแม่หนู
          ฝ่ายหญิง : สบายนักนะคะ ถ้าใครนอนที่นอนนี้คงจะเกิดทรัพย์สินมูลพูนเขา มีลูกเต้าน่ารักน่าชม
          ฝ่ายชาย : แหม...ที่นอนนี้ดีจริง ใครได้นอนคงอยู่เย็นเป็นสุขสบาย
          ฝ่ายหญิง : เราคงมีแต่ความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป

          และก็จะพูดในลักษณะนี้นี้อีกเล็กน้อย จนจบการให้พรแล้วนอนหลับตานิ่ง ๆ เหมือนกับหลับอยู่อีกสักครู่หนึ่ง แล้วจึงลุกจากเตียงเป็นอันเสร็จพิธี

  พิธีส่งตัวเจ้าสาว

พิธีแต่งงานช่วงเย็น

           นับเป็นขั้นตอนปิดท้ายงานแต่งงาน โดยหลังจากที่ทำพิธีปูที่นอนเสร็จสิ้น ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงนำเจ้าสาวเข้ามา เจ้าสาวไหว้หรือกราบเจ้าบ่าวก่อนเพื่อความเป็นสิริมงคล เพราะถือว่าสามีเป็นผู้ให้ความดูแลคุ้มครอง ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวกล่าวฝากฝังเจ้าสาวกับเจ้าบ่าวให้ทั้งสองรักกันมั่นคง จากนั้นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็จัดแจงวางหมอนหนุนศีรษะ ซึ่งที่ผู้ชายต้องนอนทางขวาและผู้หญิงต้องนอนทางซ้าย เพราะถือว่าสามีเป็นผู้ให้ความดูแลคุ้มครอง โดยสาเหตุที่เจ้าบ่าวนอนด้านขวาเพราะส่วนใหญ่แล้วห้องนอนของแต่ละบ้านในสมัยก่อนประตูจะอยู่ด้านขวามือ หากมีเหตุอันตรายสามีจะสามารถคุ้มครองปกป้องภรรยาของตนได้ เพราะถือว่าผู้ชายมีความแข็งแรงกว่าหญิง ควรทำหน้าที่ดูแลปกป้อง จากนั้นเป็นอันเสร็จก็ออกจากห้อง

          และนี่คือลำดับขั้นตอนพิธีการแต่งงานช่วงเย็น ซึ่งถือเป็นแนวทางของคู่บ่าวสาวในการนำเอาพิธีแต่งงานในช่วงเย็นนี้ไปประยุกต์ใช้กับงานแต่งงานของตนเอง และพิธีแต่งงานที่มีหลากหลายขั้นตอนแบบนี้ก็เหมือนสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับการเริ่มต้นการใช้ชีวิตคู่อีกด้วย  


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

, , timmywedding.com และ student.nu.ac.th




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ลำดับขั้นตอนพิธีการแต่งงานในช่วงเย็น อัปเดตล่าสุด 7 สิงหาคม 2556 เวลา 10:59:30 30,044 อ่าน
TOP