เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
การถ่ายพรีเวดดิ้งนั้น นับเป็นอีกกิจกรรมสำคัญระหว่างคู่รักที่กำลังจะจูงมือเข้าพิธีวิวาห์ เพราะจะได้มีภาพหวาน ๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึก ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็สามารถหยิบรูปเหล่านี้ขึ้นมาชม และหวนระลึกถึงความหลังอันหอมหวาน ดังนั้น หลายคู่จึงลงทุนจ้างตากล้องมืออาชีพมาแชะภาพให้ แต่จะเสียเงินทั้งทีก็ต้องได้รูปที่สวยถูกใจจริงไหมล่ะ กระปุกเวดดิ้งจึงนำ 6 คำแนะนำที่ควรทราบก่อนออกไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งจาก allwomenstalk.com มาฝากกันค่ะ
1. แต่งตัวและโพสท่าให้เหมาะสม ไม่เซ็กซี่จนเกินงาม
คู่รักทุกคู่คงโชว์หวานกันจนมดขึ้นแน่ ๆ เวลาถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง แต่ว่าจะโชว์หวานขนาดไหนก็ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมด้วยนะ เพราะว่าญาติผู้ใหญ่ พ่อ แม่ รวมถึงหลานตัวเล็ก ๆ จะต้องได้รับชมรูปเหล่านี้อย่างแน่นอน ดังนั้น การโพสท่าที่ดูเกินงามหรือสวมเสื้อผ้าที่ดูวาบหวิวไม่เหมาะกับธรรมเนียมประเพณีไทยนั้น จะส่งผลให้ญาติผู้ใหญ่ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ นอกจากนี้ เด็ก ๆ อาจจะยึดเอาเป็นแบบอย่างด้วยก็ได้ ถึงแม้ว่าคนสมัยใหม่จะไม่ค่อยคิดถึงเรื่องพวกนี้นัก แต่การถ่ายภาพพรีเวดดิ้งไม่เหมือนรูปทั่วไปที่ถ่ายเล่นกัน เพราะมันเป็นเสมือนหน้าตาของครอบครัวทั้งสองฝ่ายด้วย ทางที่ดีจะถ่ายท่าไหน อย่างไรก็ต้องคำนึกเรื่องความเหมาะสมไว้ด้วย
2. ไม่ต้องเขินอายที่จะแสดงออกถึงความโรแมนติก
บางคู่อาจจะรู้สึกเขินอายและไม่กล้าโพสท่าที่แสดงออกถึงความรักแท้ที่มีให้แก่กัน เลยโพสท่าที่ดูน่ารัก ตลก ๆ เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มแทน อาจเป็นเพราะว่ามีตากล้องอยู่ด้วยเลยเขิน แต่นี่เป็นการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งของคุณเลยนะ จะขาดความโรแมนติกไปได้อย่างไรกันล่ะ ลองจ้องตากันอย่างหวานซึ้ง เดินกุมมือไปยิ้มร่ากันไป แบบนี้สิถึงจะเรียกว่าภาพพรีเวดดิ้ง ก็แหม...เสียเงินจ้างตากล้องมาทั้งที ต้องได้ภาพที่แสดงให้เห็นที่ความรักอันชื่นมื่น
3. ไม่ต้องเกร็งเวลาโพสท่า ให้ปล่อยตัวสบาย ๆ
สิ่งสำคัญที่จะทำให้ภาพถ่ายดูสวย น่าประทับใจ ก็คือ ความรู้สึกจากข้างใน ดังนั้น คุณไม่จำเป็นต้องโพสท่าที่เพอร์เฟคท์ หรือท่ายาก เพียงแค่โพสท่าธรรมดา ๆ แต่ความรู้สึกข้างในมาเต็ม เท่านี้ก็ได้ภาพที่น่าประทับใจแล้วล่ะค่ะ ส่วนเวลาถ่ายก็ไม่ต้องเกร็งหรือกังวลว่าโพสท่านี้แล้วจะสวยไหม แค่ปล่อยร่างกายไปตามธรรมชาติ และแสดงความรักออกมาผ่านแววตาก็หวานจนหมดกัดตากล้องแล้วจ้า
4. เลือกสถานที่ให้เหมาะกับการถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง
ใคร ๆ ก็อยากได้ฉากหลังของรูปสวย ๆ เพื่อเสริมให้รูปภาพดูงดงามเลอค่า ดังนั้น การเลือกสถานที่สำหรับถ่ายต้องพิจารณาให้ดีก่อนจะตัดสินใจจูงมือพากันไปถ่าย สำหรับสถานที่เจ๋ง ๆ นั้น ควรเป็นที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน ลองคิดดูสิว่าถ้าฉากหลังมีคนอื่นมาร่วมเฟรมด้วยและขโมยซีนไปซะอย่างนั้น คุณคงไม่แฮปปี้กับรูปเท่าไหร่ คุณอาจจะเลือกเป็นชายทะเล สวนหย่อม หรือสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะให้บรรยากาศที่สดชื่น สงบ เหมือนว่าโลกนี้มีเพียงเราสอง
5. หาพร็อพมาช่วยให้ภาพดูน่าสนใจ
ถ้าคุณอยากให้ภาพถ่ายออกมาดูไม่ซ้ำใคร ก็สามารถหาอุปกรณ์มาประกอบการถ่ายรูปได้ เช่น มงกุฎดอกไม้ ป้ายที่เขียนข้อความหวาน ๆ หรือแซวกันอย่างน่ารัก แต่ก็อย่าลืมว่าคุณทั้งคู่จะต้องโดดเด่นที่สุดนะคะ ดังนั้น การหาพร็อพมาสร้างสีสันนั้นก็ควรหาแต่พอดี อย่าให้อุปกรณ์เด่นล้ำหน้าจนแย่งซีนคู่บ่าวสาวไปหมดล่ะ ต้องเลือกชิ้นที่พอดิบพอดีที่สามารถเข้ามาเติมเต็มให้ภาพดูสวยงามขึ้นก็พอ
6. ไม่ต้องกังวลจนเกินเหตุว่ารูปจะออกมาไม่สวย
ความจริงแล้วมันเป็นเรื่องธรรมดามากที่จะมีบางรูปที่ถ่ายออกมาแล้วไม่สวย เช่น มุมหน้าด้านนี้ทำให้ดูอ้วน หรือบางรูปถ่ายออกมาแล้วเห็นจุดไม่สวยงามของสรีระ แต่ไม่ต้องกังวลไปเลยค่ะ เพราะคุณเองก็สามารถเลือกเฉพาะรูปที่สวยถูกใจ และลบภาพที่ไม่ชอบทิ้งไปก็ได้ ฉะนั้น สนุกสนานไปกับการโพสท่าดีกว่า เพราะถ้าหากมีความกังวล ความเครียด มันจะแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา จนทำให้ภาพพรีเวดดิ้งออกมาไม่เหมือนคนที่มีความสุขและกำลังจะแต่งงานกันก็ได้นะ ส่วนภาพที่ออกมานั้น คุณก็สามารถเลือกตอนหลังว่าจะได้ว่าต้องการภาพใดบ้าง
ถ้าหากลองนำคำแนะนำทั้ง 6 ข้อไปปรับใช้แล้วล่ะก็ รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องได้ภาพพรีเวดดิ้งที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรัก ความโรแมนติก ที่แสดงออกมาผ่านสีหน้า แววตา รวมถึงได้รูปภาพที่สวยถูกใจแน่นอนจ้า