เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
แน่นอนว่านอกจากคู่บ่าวสาวที่เป็นไฮไลท์ของงานแต่งแล้ว อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลย คือ องค์ประกอบอื่น ๆ ของงาน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ อาหาร การตกแต่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ดอกไม้" ซึ่งนอกจากจะทำให้งานแต่งมีสีสันแล้ว ยังทำให้บรรยากาศของงานอบอวลไปด้วยความโรแมนติก แต่การจะเลือกดอกไม้หรือเอเจนซี่ที่มาจัดดอกไม้ในงานนั้นก็ต้องพิจารณาจากหลาย ๆ สิ่ง และเรามี 7 ทิปส์เด็ดจากเว็บไซต์ allwomenstalk มาแนะนำกันค่ะ เพื่อให้วันสำคัญของคุณออกมาสวยเป๊ะ
1. ประสบการณ์ประสบการณ์ของร้านดอกไม้ คือ สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณา ก็วันสำคัญทั้งทีจึงไม่ควรเสี่ยงที่จะเลือกร้านไหนก็ได้ เพราะคุณไม่มีทางรู้เลยว่าดอกไม้ในงานแต่งของคุณจะออกมาในรูปแบบไหน และร้านที่มีประสบการณ์สูงด้านการจัดดอกไม้จะทำให้คุณวางใจและไม่ต้องกังวลนั่นเองค่ะ ทั้งนี้ ควรคุยรายละเอียดให้แน่ชัด เช่น ชนิดหรือสีของดอกไม้ การจัดวางตำแหน่ง ฯลฯ เพื่อให้ทุกอย่างออกมาสวยสมบูรณ์แบบค่ะ
2. ความรับผิดชอบแน่นอนว่าในสายธุรกิจ เจ้าของร้านดอกไม้ย่อมต้องการขายให้ได้มากที่สุด พวกเขาจึงเลือกที่จะแนะนำแพ็กเกจแบบอลังการงานสร้าง ซึ่งอาจจะโน้มน้าวคุณให้ตกลงอย่างง่ายดาย และนั่นก็หมายถึงการที่คุณจะต้องจ่ายในราคาที่สูงลิบ ดังนั้น ควรเลือกร้านดอกไม้ที่ไม่เน้นไปทางธุรกิจแบบสุดโต่งที่พยายามจะขายทุกอย่างให้คุณ แต่ควรเลือกร้านที่มีความรับผิดชอบ ใส่ใจดูแลลูกค้า แนะนำข้อมูลอย่างครบถ้วน ทางที่ดีต้องเลือกดูหลาย ๆ ร้าน เพื่อให้ได้ร้านที่ดีที่สุดนั่นเองค่ะ
3. รายละเอียดการจัดส่งหลังทำข้อตกลงกันเรียบร้อยว่าคุณอยากได้ดอกไม้ชนิดใด สีอะไร และต้องการจัดเป็นช่ออย่างไรแล้ว สิ่งสำคัญไม่แพ้กัน คือ รายละเอียดของการจัดส่งดอกไม้ เช่น เรื่องของสถานที่ ซึ่งในพิธีเช้าและฉลองมงคลสมรสตอนเย็น คุณอาจจะจัดขึ้นคนละสถานที่ รวมถึงวันและเวลาในการส่งที่แน่ชัด และอย่าลืมที่จะเรียกดูบิลค่าใช้จ่ายและตรวจเช็กให้รอบคอบ ว่าได้ดอกไม้ครบตามจำนวนและราคาตามที่ตกลงกันหรือไม่
4. คำนึงถึงชนิดดอกไม้และสถานที่จัดงานคู่รักหลายคู่โดยเฉพาะเจ้าสาว มักจะมีดอกไม้ที่ตนเองโปรดปรานและอยากจะเห็นดอกไม้เหล่านั้นเบ่งบานอยู่ในงานแต่งของตนเอง แต่ดันลืมคิดไปว่าดอกไม้บางชนิดก็ไม่เหมาะที่จะอยู่ในบางสถานที่ เช่น หากคุณชอบดอกไม้เมืองหนาวแต่ดันไปจัดงานแต่งสุดโรแมนติกริมทะเล เห็นทีว่าดอกไม้สุดสวยอาจจะต้องเหี่ยวเฉาไปเสียก่อน ดังนั้น ไม่ใช่แค่เลือกดอกไม้ที่ชอบ แต่ต้องคำนึงถึงสถานที่จัดงานด้วยค่ะ
5. ข้อมูลของดอกไม้นอกจากจะเลือกดอกไม้ให้เข้ากับสถานที่แล้ว คุณควรต้องศึกษาด้วยว่าดอกไม้ที่คุณต้องการนั้นจะผลิดอกในช่วงเวลาที่คุณจัดงานแต่งงานหรือเปล่า เพราะดอกไม้บางชนิดก็ไม่ได้มีทุกฤดูกาล ซึ่งคุณควรจะมีตัวเลือกดอกไม้ชนิดอื่น ๆ เผื่อไว้ด้วย ในกรณีที่ดอกไม้ที่คุณต้องการหาซื้อยากหรือไม่ออกดอกตามฤดูกาล ทั้งนี้ การเลือกดอกไม้ที่ออกดอกตามฤดูกาลยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปในตัวด้วย
6. ประสานงานสิ่งที่เป็นสีสันของงานแต่งในยุคสมัยปัจจุบันคงจะหนีไม่พ้น "ธีมงานแต่ง" ที่นอกจากจะทำให้เป็นงานแต่งที่มีชีวิตชีวาแล้ว เชื่อว่าบรรดาแขกเหรื่อหลาย ๆ คนก็คงสนุกที่จะเลือกใส่ชุดให้เข้ากับธีมนั้น ๆ ทั้งนี้ องค์ประกอบสำคัญอย่างดอกไม้ในงานก็ต้องเข้าธีมงานด้วยเช่นกัน รวมทั้งการตกแต่งอื่น ๆ ด้วย เช่น เซ็นเตอร์พีช ไฟ ฯลฯ สิ่งสำคัญ คือ คุณควรที่จะประสานงานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้งานแต่งไม่หลุดคอนเซ็ปต์นั่นเองค่ะ
7. ราคาหากคุณตั้งงบการจัดงานไว้แล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ ราคาของดอกไม้ ซึ่งคุณควรพิจารณาก่อนตัดสินใจว่าคุ้มค่าและสมราคาหรือไม่ และหลังจากตัดสินใจแล้วเมื่อมีการเรียกเก็บบิลค่าใช้จ่าย ควรตรวจสอบให้รอบคอบว่าตรงตามราคาหรือมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ นอกเหนือจากที่ตกลงกันหรือเปล่า และควรตรวจสอบเงื่อนไขบางประการ เช่น เมื่อตกลงกันแล้ว แต่คุณอยากเพิ่มหรือลดจำนวนซุ้มดอกไม้ลง คุณจำเป็นต้องเสียค่าชดเชยอะไรหรือไม่
การวางแผนจัดงานแต่งงานเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นของคู่รัก ไม่ว่าจะเป็นซุ้มดอกไม้ อาหาร ของชำร่วย ฯลฯ ทุกองค์ประกอบมีความสำคัญไม่แพ้กัน และคุณควรที่จะใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้งานแต่งของคุณครั้งนี้ออกมาสมบูรณ์แบบนั่นเองค่ะ
