ครั้งหนึ่งในชีวิตกับพิธีแต่งงานแบบญี่ปุ่น ณ ศาลเจ้าเมจิ โตเกียว

พิธีแต่งงานแบบญี่ปุ่น

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณกิ๊บส์ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

           พิธีแต่งงาน...ถือเป็นอีกหนึ่งพิธีการที่ศักดิ์สิทธิ์และมีมนต์ขลัง เพราะถือเป็นวันแห่งการเริ่มต้นชีวิตคู่ที่มีความหมาย ดังนั้น เราจึงหยิบเอาอีกหนึ่งพิธีแต่งงานที่หลาย ๆ คนอาจไม่เคยเห็นหรือรับรู้เรื่องราวมาก่อน กับ "พิธีแต่งงานแบบญี่ปุ่น" จากรีวิวของ คุณกิ๊บส์ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่นำเอาพิธีแต่งงานของตัวเองมาแชร์เป็นประสบการณ์ดี ๆ ให้เราได้ทราบกัน แต่จะมีขั้นตอนอย่างไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ
 


           ถ้าใครจำเจ้าของกระทู้ได้เจ้าของกระทู้เคยจัดงานแต่งงานที่ไทยไปแล้วครั้งหนึ่งค่ะ ตอนเดือนมีนาคน ตอนนั้นมีปัญหากับทางโรงแรมที่ไทย เพราะว่าอาหารที่ได้ไม่ตรงกับที่สั่งค่ะ และเคยโพสต์เล่าใน Pantip ไว้ แล้วก็จบด้วยการไม่เอาอะไรที่ชดเชยทั้งสิ้น พร้อมเตรียมงานแต่งที่ญี่ปุ่นต่อทันทีค่ะ (ป.ล. เพิ่งรู้ว่ากระทู้เก่ากับโรงแรมโดนลบไปแล้ว >.<)

           แฟนเจ้าของกระทู้เป็นคนญี่ปุ่นค่ะ ดิฉันเป็นวิศวกรที่ญี่ปุ่น และได้มีโอกาสเจอกับแฟนที่นี่เมื่อ 3 ปีที่แล้วค่ะ ตอนนี้เจ้าของกระทู้จัดงานที่ญี่ปุ่นเสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะ วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม 2014 ^.^ เป็นวันดีตามปฏิทินญี่ปุ่นค่ะ

           สถานที่ : ศาลเจ้าเมจิ ประเทศญี่ปุ่น (Meiji Shrine) ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Meiji Jingu ค่ะ

           ทุกอย่างเป็นไปตามที่ต้องการ รู้สึกมีความสุขมาก ๆ กับงานที่เราสองคนเตรียมกันมาเป็นปี เราจองสถานที่ก่อนจัดงาน 1 ปีนิด ๆ ค่ะ

           #วันนี้รีวิวขอ tag ห้องท่องเที่ยวด้วยค่ะ เผื่อใครไปจะได้มีโอกาสเห็นว่ากว่าจะเป็นงานแต่งงานหนึ่งของญี่ปุ่น ทุกอย่างต้องวางแผนและตรงตามแผนจริงค่ะ และเป็นพิธีที่สงบ ดูมีมนต์ขลังมาก ๆ ค่ะ ถ้าใครจะไปเที่ยวแล้วมีโอกาสถ่ายรูปก็ขอให้อยู่ในเขตที่กั้นไว้นะคะ เพราะว่าช่างถ่ายรูปทำงานลำบากจริง ๆ ค่ะ >.< อาจจะเล่าเรื่องไม่ค่อยเก่งนะคะ แต่จะพยามลองดูค่ะ
 
           1. งานของเราเริ่มตอน 12.00 น. คือ พิธี และมีเลี้ยงฉลองตอน 13.30-16.00 น. ที่เมจิบุงกะคัง ในส่วนจัดเลี้ยงในบริเวณศาลเจ้าค่ะ ถ้าบางคนเคยไปบริเวณจัดเลี้ยงจะอยู่แถวที่ขายของที่ระลึกค่ะ ห้ามคนนอกเข้า มาแต่งหน้า แต่งชิโรมุคุ 白無垢 (ชุดเจ้าสาวสีขาวที่เห็นค่ะ) ตั้งแต่ 09.30 น. กว่าจะแต่งเสร็จก็ชั่วโมงกว่า ๆ ค่ะ เหงื่อตก แล้วก็ออกมาถ่ายภาพนิ่งข้างหน้าก่อนเริ่มพิธีค่ะ บนหัวที่ใส่อยู่เป็นวิกค่ะ หนัก 800 กรัมค่ะ หนักมาก ใส่ไปทั้งหมด 3 ชั่วโมง คอแข็งกันเลยทีเดียว ชุดกิโมโนก็หนักมากค่ะ ราว ๆ 5 กิโลฯ ได้ บ่าจะทรุดเอาค่ะ ฮี่ ๆๆ ตลอดวันนั้นจะมีผู้ช่วยจัดกิโมโนให้ตลอดทางค่ะ ไม่ว่าจะยืน นั่ง กิน ถ่ายรูป จะมีผู้ช่วย 1 คนติดตัวไปด้วยเลยค่ะ เพราะว่าชุดใส่ยาก นั่งยาก ถือยากจริง ๆ ค่ะ (แอบสงสารผู้ช่วยเบา ๆ)

japan wedding

japan wedding

           2. แล้วหลังจากถ่ายรูปสองคนแล้ว ก็จะมีช่วงแนะนำญาติ ก็จะพาญาติมาที่ห้องรับรองเล็ก ๆ พาเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเข้ามาค่ะ พร้อมกับซ้อมพิธี ในช่วงที่จะทำพิธีจริงในศาลเจ้าค่ะ เราตั้งใจมาก ๆ กลัวหมุนก้านใบไม้นั้นผิดทิศค่ะ ฮ่า ๆๆๆๆ

japan wedding

           3. พอซ้อมพิธีเสร็จก็มาจัดขบวนค่ะ เพราะว่าเวลาที่เราจะเดินผ่านหน้าศาลเจ้านั้น คือ 12.00 น. ค่ะ ตื่นเต้นมาก ๆ ผู้ช่วยบอกว่าให้เดินช้า ๆ นะคะ เราเกร็งมาก ๆ เวลาเดิน เพราะปกติเป็นคนเดินเร็วมาก ด้วยบุคลิกและงาน พอต้องมาเดินช้า ๆ ต้องหันไปบอกแฟนว่า เธอ ๆ ถ้าเราเดินเร็วไปบอกด้วยนะ กลายเป็นว่าแฟนเกร็งกว่าเราอีกค่ะ ฮ่า ๆๆ

           เริ่มแล้ว...พร้อม 3 4 Action ^o^ จะเรียงแถวเป็นแถวตอนค่ะ ครอบครัวเจ้าสาวอยู่หลังเจ้าสาว ครอบครัวเจ้าบ่าวอยู่หลังเจ้าบ่าวค่ะ ในงานพิธีของเรามีแต่ครอบครัวเท่านั้นนะคะ รวมทั้งสองฝั่งสองครอบครัวสิบกว่าคนค่ะ งานเล็ก ๆ แต่เงียบ สงบ และอบอุ่นมาก เพื่อนและหัวหน้าที่ทำงานจะไปเจอตอนงานเลี้ยงเลยค่ะ

japan wedding

           มุมนี้เป็นมุมที่คนจะเห็นบ่อยที่สุดค่ะ ช่างภาพก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพให้ค่ะ

japan wedding

           แล้วก็เดินผ่านและอ้อมเข้าไปทำพิธีใน โฮไซเดง 奉賽殿 ซึ่งนักท่องเที่ยวจะไม่สามารถเข้าไปได้ค่ะ จะสำหรับทำพิธีเท่านั้น ขอลงรูปข้างในเยอะหน่อยนะคะ

japan wedding

           4. พอเข้ามาในโซนข้างในแล้วก็จะเริ่มพิธีแล้วค่ะ ทุกคนจะนั่งประจำที่ แล้วก็จะมีคนนำสวดเหมือนขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ค่ะ หลังจากนั้นก็จะมีการดื่มเหล้า 3 ครั้ง สลับเจ้าบ่าวเจ้าสาว โดยมีขนาดของถ้วยเหล้าจากเล็กไปใหญ่ค่ะ หลังจากนั้นก็จะมีการสวมแหวนแต่งงานและปฏิญาณของเจ้าบ่าว ซึ้งมาก น้ำตาจิไหลค่ะ แฟนเป็นคนอ่านคนเดียวค่ะ เราจะพูดชื่อตอนเค้าอ่านจบค่ะ เหมือนว่าเราสัญญากันจะดูแลกันตลอดไป T.T..ต่อหน้าพระเจ้า ข้าพเจ้าขอสัญญาว่าอยู่ด้วยกันตลอดไป จะร่วมทุกข์ร่วมสุข จะผ่านความยากลำบากไปด้วยกัน จนสิ้นสุดชีวิตของข้าพเจ้า...แล้วไมโกะ เด็กผู้หญิงที่ใส่ชุดขาวแดงก็จะใช้กระดิ่งทองปัดสิ่งไม่ดีออกไป ให้เหมือนเป็นการเริ่มชีวิตใหม่ในการแต่งงานค่ะ

japan wedding

          ก่อนพิธีจะเสร็จ ทุกคนก็จะร่วมดื่มเหล้าญี่ปุ่นด้วยกันค่ะ

japan wedding

japan wedding

          แล้วพอเสร็จพิธีทุกคนก็จะออกมารอข้างนอก ยืนเป็นระเบียบแถวเหมือนเดิม โดยเจ้าสาวจะออกมาคนสุดท้ายค่ะ ก่อนจะออกมาพอจะข้ามคานที่เหมือนเป็นเขตแบ่งแดน เจ้าสาวต้องย่อตัวลงเพื่อเดินข้ามออกมาคะ

japan wedding

          สุดท้ายเราก็จะเดินผ่านหน้าศาลเจ้าอีกรอบ และต่อไปก็จะเป็นพิธีกินเลี้ยงค่ะ

japan wedding

          ถ่ายรูปรวมซะหน่อยค่ะ หลังเสร็จพิธี

japan wedding

          เพื่อนเจ้าบ่าวมารอถ่ายรูป ไม่ได้เข้าไปในพิธีค่ะ (คนดัดผมหล่อค่ะ 555)

japan wedding

          แล้วก็รถที่จะพาเราสองคนไปสถานที่จัดเลี้ยง รถ London taxi เค้าบอกว่ามี 3 คัน ในโลก รุ่นนี้อยู่ที่ศาลเจ้าเมจิ 2 คัน ไว้รับส่งบ่าวสาวค่ะ อีกคันไม่รู้อยู่ที่ไหนค่ะ อิอิ

japan wedding

          รูปคู่ค่ะ

japan wedding

          5. ต่อมาก็จะเป็น Wedding Reception แล้วนะคะ งานกินเลี้ยงค่ะ ที่ญี่ปุ่นแขกจะไม่เยอะเหมือนที่ไทยนะค่ะ คนไหนได้การ์ดมาคนเดียวค่ะ แล้วก็จะแบ่งที่นั่งตามป้ายชื่อที่ติดไว้ค่ะ ห้ามนั่งผิดที่เชียว เพราะว่าจะมีอาหารพิเศษสำหรับคนที่แพ้อาหารค่ะ

japan wedding

          บรรยากาศภายในงานนะคะ เราชอบโทนสีธรรมชาติค่ะ เลยเลือกเป็นโทนสีขาว-เขียว-น้ำตาล ให้แพลนเนอร์จัดการให้ค่ะ การดอกไม้ที่เลือกแบบไว้กับวันจริงเหมือนกันมาก ๆ เลยค่ะ เหมือนจริง ๆ ตกใจ เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะนั่งข้างหน้าเลยได้กินพร้อมกับแขกเลยค่ะ เจ้าสาว คือ เต่า เจ้าบ่าว คือ นกเรียน เค้าว่าเต่าอายุยืน และนกกะเรียนเป็นนกที่มีคู่เพียงครั้งเดียวค่ะ ด้วยประการฉะนี้ ส่วนถังที่เห็น นั่นคือ ใส่เหล้าค่ะ เจ้าบ่าวและเจ้าสาวต้องทุบให้แตก แล้วเหล้านั้นจะให้แขกดื่มค่ะ เราเรียกว่า คากามิบิราคิ 鏡開き

japan wedding

          บรรยากาศค่ะ

japan wedding

          แล้วก็ได้เวลาเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงค่ะ แล้วก็เริ่มด้วยการทุบถังเหล้าอันนั้นค่ะ แล้วก็ดื่มกัน อิอิ แต่เจ้าสาวไม่ดื่มนะคะ เดี๋ยวหน้าแดงค่ะ ถ่ายรูปไม่ได้ ฮ่า ๆๆ

japan wedding

          หลังจากนั้นก็จะมีการพูดอวยพรค่ะ แล้วก็ดื่มกันกับแขกทุกคน พอดื่มเสร็จเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะออกจากห้องไปเปลี่ยนชุดค่ะ โดยมีคุณแม่เจ้าบ่าวจูงมือพาไปค่ะ (ปกติจะเป็นแม่เจ้าสาวนะคะ แต่กรณีนี้ที่บ้านแฟนเป็นลูกผู้ชายหมดเลยค่ะ แม่อยากจูงลูกสาวบ้าง แม่แฟนเลยอาสามาค่ะ อิอิ) น่ารักมาก ๆ ชอบตอนนี้มาก ๆ เลยค่ะ แล้วเราก็ออกไปเปลี่ยนชุดกันค่ะ

japan wedding

          แขกก็ทานอาหารที่จัดไว้ อาหารจะเป็นคอร์สนะคะ เราเป็นคอร์สญี่ปุ่น-ฝรั่งเศสค่ะ จานใครจานมันเพราะว่ามีบางคนไม่ทานเนื้อ แพ้อาหารทะเล เชฟก็จะจัดอาหารอื่นแลกเปลี่ยนให้ค่ะ งานเราเน้นอาหารค่ะ (เคยมีเรื่องกับโรงแรมที่ไทยตอนงานแต่งก็เพราะอาหารที่สั่งไม่ได้ในวันจริง เซลล์ส่งรายการอาหารผิด >.<) งานนี้ที่ญี่ปุ่นไม่พลาดค่ะ เมนูที่เราเลือกกับอาหารที่ได้วันงาน การจัดวางหน้าตาเหมือนกันมาก ๆๆๆๆๆๆ อันนี้ให้ 10 เต็มค่ะ รสชาติก็อร่อยมาก ๆ ค่ะ ทุกอย่างลงตัว
japan wedding
japan wedding

          แล้วเราก็เข้ามาในห้องใหม่ค่ะ เป็นชุดแต่งงานสีขาวแล้วค่ะ มาเพื่อการตัดเค้กและ First Bite โดยเฉพาะค่ะ First Bite ของคนญี่ปุ่นค่ะ เจ้าบ่าวตักเค้กให้เจ้าสาวกิน เหมือนว่าให้ความรัก ทำงานหาเงินมาให้เจ้าสาวค่ะ ส่วนเจ้าสาวที่ให้เจ้าบ่าวหมายความว่าความรักและข้าวปลาอาหารที่จะเจ้าบ่าวค่ะ (ฮ่า ๆๆ ชิ้นใหญ่ ๆ ก็แปลว่าเยอะ ๆ นะคะ)

japan wedding
japan wedding

          แล้วก็แขกก็จะมาถ่ายรูปเล่นกับเจ้าบ่าวและเจ้าสาวค่ะ โดยเราโดนเซอร์ไพร์สจากพี่ที่ทำงาน ตอนแรกในงานเค้าก็ใส่สูทผูกไทด์มาปกติ (รูปล่างสุด) พอตัดเค้กเสร็จพี่เค้าก็ลุกมาข้างหน้า บอกเสียงดังฟังชัดว่าวันนี้พี่มีอะไรจะให้ !!!! แล้วก็เรียกชื่อเรา นึกภาพตามนะคะ พี่เค้าก็ถอดสูทดึงไทด์ออก ปลอดกระดุมเสื้อเชิ้ตหน้าห้อง แล้วก็อ้าเสื้อออก ข้างในเป็นเสื้อยืนเขียนว่า I LOVE THAILAND ค่ะ แขกกรี๊ดกร๊าดดด มากกกกก เจ้าบ่าวก็ตกใจ เราตกใจ ฮามาก ๆๆๆ ไม่คิดว่าจะทุ่มทุนขนาดนี้ ที่บ้านเราชอบใจใหญ่เลยค่ะ ฮ่า ๆๆๆๆ แล้วพี่เค้าก็ถอดเสื้อเชิ้ตออก ใส่เสื้อยืด I LOVE THAILAND ตลอดงาน หาได้แคร์ใครไม่ ฮ่า ๆๆๆๆ

japan wedding

          สุดท้ายของงานเลี้ยงค่ะ เรากับเจ้าบ่าวต้องให้ของขวัญที่บ้าน โดยเราให้ครอบครัวเจ้าบ่าว เจ้าบ่าวให้ครอบครัวเราค่ะ แลกกัน ๆ แล้วคุณพ่อเจ้าบ่าวก็พูดขอบคุณแขก เป็นอันว่าจบงานเลี้ยงค่ะ โดยราบรื่นและแฮปปี้มาก ๆ ค่ะ

japan wedding

          หลังจากนั้นก็จะส่งแขกกลับค่ะ แขกจะเดินออกมาทีละคน เราก็ให้ของเล็ก ๆ น้อยกับแขก ไม่ใช่ของชำร่วยนะคะ เพราะว่าของชำร่วยพนักงานจะให้ไว้ใต้เก้าอี้ตั้งแต่แรกแล้วค่ะ ของใครของมัน เพราะว่าของชำร่วยให้ครอบครัวกับเพื่อนก็จะคนละอย่างกันค่ะ เป็นอันว่าจบวันหนึ่งที่แสนมีความสุขของเรา แล้วตามธรรมเนียมญี่ปุ่นแล้ว ก็จะมี After Party หรือ 二次会 นิจิไค กันต่อในกลุ่มเพื่อนสนิทค่ะ เราจัดที่ Hyatt Regency Tokyo กับเพื่อน 70 คนค่ะ เป็นงานตอนมืด กินเหล้า ค็อกเทล เล่นเกมกันค่ะ ส่วนครอบครัวและผู้ใหญ่จะแยกย้ายกันไปพักผ่อน หลังงานเลี้ยงค่ะ จุ๊บ ๆๆ

japan wedding

          ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ยาวไปหน่อย ต้องขอโทษด้วยค่ะ


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ครั้งหนึ่งในชีวิตกับพิธีแต่งงานแบบญี่ปุ่น ณ ศาลเจ้าเมจิ โตเกียว อัปเดตล่าสุด 16 มิถุนายน 2557 เวลา 09:59:05 8,539 อ่าน
TOP
x close