
จัดงานแต่งงานริมหาดอย่างไร ให้ออกมาเป๊ะ
หากภาพงานแต่งงานในจินตนาการของคุณ คือ การได้ทำพิธีท่ามกลางอากาศสดชื่น มีน้ำทะเลอุ่น ๆ ซัดมาปะทะที่เท้าเป็นระยะ ในขณะที่เม็ดทรายก็เปลี่ยนเป็นสีทองยามต้องกับแสงอาทิตย์ที่ส่องประกายอยู่เหนือขอบฟ้า ชายหาดก็น่าจะเป็นสถานที่แต่งงานที่เข้ากับไอเดียของคุณมากที่สุดแล้ว แต่ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในการวางแผนจัดงาน งบประมาณ และสร้างความเครียดให้กับคุณก่อนจะถึงวันสำคัญมาดูกันดีกว่าว่า ที่ผ่านมาบ่าวสาวคู่อื่น ๆ มีวิธีเตรียมตัวกันอย่างไรบ้าง

ก่อนที่จะกำหนดสถานที่ควรถามตัวเองก่อนว่า ต้องการจัดบนชายหาดส่วนตัวหรือชายหาดสาธารณะ เพราะถึงแม้ชายหาดสาธารณะจะเข้าถึงได้ง่ายและมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า แต่ก็ต้องเสี่ยงกับผู้คนที่พลุกพล่านโดยเฉพาะช่วงวันหยุด และอาจมีกลุ่มคนหยุดยืนดูพิธีแต่งงานของคุณ ในขณะที่ชายหาดส่วนตัวที่เป็นของโรงแรมหรือหน่วยงานต่าง ๆ จะไม่มีใครอื่นนอกจากพวกคุณกับแขก แต่นั่นก็อาจจะต้องแลกมาด้วยรายจ่ายที่ค่อนข้างสูง

ถึงแม้สถานที่ที่คุณเลือกจะเป็นชายหาดสาธารณะ แต่อย่างไรตามคุณก็ควรขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสถานที่เหล่านั้นก่อน เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง และในขณะเดียวกันก็เป็นการตรวจเช็กขนาดพื้นที่ที่สามารถใช้จัดงานแต่งงานไปพร้อมกันด้วย ที่สำคัญก็คือควรอ่านรายละเอียดข้อตกลงและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

เนื่องจากพื้นที่บนชายหาดไม่มีขอบเขตจำกัดที่แน่นอน ก็เลยอาจทำให้บางคนเผลอใช้พื้นที่จนทำให้งบประมาณบานปลายได้ ถ้าหากไม่อยากให้เกิดเหตุเช่นนี้ก็ควรจะลดขนาดงานแต่งให้เล็กและเป็นส่วนตัวมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งเป็นวิธีที่นอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องของของตกแต่งได้แล้ว ยังช่วยลดภาระเรื่องน้ำกับอาหารอีกด้วย

นอกจากการเลือกตำแหน่งบนชายหาดแล้ว ควรจะคำนึงเรื่องของที่ตั้งของห้องน้ำด้วย โดยตำแหน่งห้องที่ดีนั้นไม่ควรอยู่ไกลเกินไปจากสถานที่จัดงานแต่ง หรือแขกของคุณไม่จำเป็นต้องขับรถไปไกลหลายกิโลเมตร เพียงเพราะต้องการทำธุระส่วนตัว

เนื่องจากชายหาดเป็นสถานที่ที่ทั้งกว้างและเปิดโล่ง ดังนั้นจึงควรมีระบบเสียงที่ดี เพื่อให้ทุกคนที่มาร่วมงานสามารถได้ยินคำประกาศทุกคำอย่างชัดเจน อีกทั้งคงจะดีกว่าหากมีเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม เมื่อถึงช่วงเวลาปาร์ตี้

หากไม่แน่ใจว่าท้องฟ้าจะเป็นใจหรือไม่ในวันแต่งงานของคุณ ควรเช่าเต็นท์เตรียมเอาไว้ก่อน เผื่อเกิดกรณีไม่คาดฝัน เช่น ฝนตกหนักหรือมีลมพัดแรง ในขณะเดียวกันยังช่วยสร้างร่มเงาให้กับแขกในวันที่แดดแรงด้วย นอกจากนี้แล้วยังเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคู่รักที่จัดงานแต่งบนชายหาดสาธารณะอีกต่างหาก

เพราะคุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นเมื่อไร ดังนั้นคงจะดีกว่าหากคุณเตรียมอุปกรณ์ป้องกันอุบัติเหตุเอาไว้ให้แขกล่วงหน้า เช่น พัดลม สเปรย์ฉีดป้องกันแมลง ครีมทากันแดด หรืออื่น ๆ ที่คิดว่าจำเป็นสำหรับงานแต่งงานบนชายหาดแบบนี้

การเลือกที่นั่งก็เป็นเรื่องที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษอีกเช่นกัน เนื่องจากพื้นหาดทรายมีผิวขรุขระ ทรุดตัวง่าย และมีลมพัดแรงตลอดเวลา ดังนั้นมันจึงดีกว่าหากเก้าอี้ไม้ เพราะเป็นเก้าอี้ที่มีนำหนักมาก แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวกกว่าเก้าอี้ชนิดอื่น ๆ

คงไม่เหมาะเท่าไรหากเจ้าสาวจะต้องเดินลากกระโปรงที่ทั้งยาวและหนักไปตามชายหาดและแดดร้อน ๆ อีกทั้งยังมีปัญหากับลมที่พัดแรงอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย ดังนั้นจึงควรเลือกชุดแต่งงานที่ตัดเย็บด้วยผ้าบางเบา พลิ้วไหวไปตามแรงลม และสวมใส่สบายดีกว่า

นอกจากนี้ควรคำนึงถึงเวลาในการจัดงานแต่งงานด้วย เพราะจะได้มีรูปถ่ายภายใต้แสงสวย ๆ และพอเหมาะเก็บเอาไว้ดูในภายหลัง โดยเฉพาะแสงสีทองในช่วงตอนเย็นเป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้เลยทีเดียว ทั้งนี้เพื่อให้รูปถ่ายออกมางดงามยิ่งขึ้นก็อย่าลืมนำของตกแต่งมาประดับงานแต่งด้วย

เพราะถึงแม้คุณไม่มีรองเท้าสวย ๆ เอาไว้ใส่กับชุดแต่งงานก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับการจัดงานแต่งบนชายหาดแบบนี้ ในขณะเดียวกันการเดินเท้าเปล่าบนชายหาดก็ยังช่วยประหยัดค่ารองเท้าส้นสูงที่แพงแสนแพงได้อีกทางหนึ่งด้วย

คงไม่เหมาะเท่าไรนักหากจัดงานปาร์ตี้งานแต่งที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนชายหาดสาธารณะ เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาที่ไม่คาดฝันได้ ดังนั้นจึงจำเป็นที่คุณจะต้องเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่อื่น ๆ หากมีงานปาร์ตี้แบบนี้
ถึงแม้อาจจะมีเรื่องที่จะต้องจัดการมากหน่อย แต่อย่างน้อยก็ทำให้คุณสบายใจได้ระดับหนึ่งเลยว่า งานแต่งในฝันของคุณจะกลายเป็นจริง โดยไม่มีปัญหาตามมาทีหลัง อีกทั้งก็หวังว่างานแต่งของทุกคนจะเต็มไปด้วยความสนุกสนาน รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะกันนะคะ