ในวันสำคัญอย่างวันแต่งงาน เจ้าสาวหลายคนมักจะเตรียมตัวและทำทุกอย่างให้ตัวเองสวยที่สุดในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลตัวเองให้สวยสดใสด้วยการเข้าคอร์สเจ้าสาว การสั่งตัดชุดแต่งงานให้สวยเลิศหรูจากช่างฝีมือดี แต่เจ้าสาวหลายคนก็มักจะมาตกม้าตายที่การแต่งหน้าทำผม เพราะแทนที่จะสวยงามราวกับเจ้าหญิงอย่างที่ตัวเองวาดฝัน กลับกลายมาเป็นนางไม้ไปได้เสียนี่
หากไม่อยากให้ฝันแห่งการเป็นเจ้าสาวในตำนานต้องสลายหายไป ลองมาดู 5 กฎเหล็กของการแต่งหน้าที่ควรหลีกเลี่ยงในวันแต่งงานจากเว็บไซต์ lover.ly จะมีอะไรบ้างไปชมกันเลย
การเป็นเจ้าสาวที่เซ็กซี่ด้วยริมฝีปากหนาเตอะ สีจัดจ้าน มันก็คงจะทำให้คุณดูโดดเด่นที่สุดในวันนี้แน่นอน แต่ถ้าหากคุณไม่ได้มีบุคลิกเปรี้ยว เผ็ด จัดจ้านมาตั้งแต่ต้นก็ไม่ควรที่จะเสี่ยงกับลุคนี้ เพราะนอกจากจะไม่ทำให้คุณเป็นเจ้าสาวที่สวยเจิดจรัสแล้ว ยังจะทำให้พังได้ง่าย ๆ เสียด้วย เพราะฉะนั้นควรที่จะทาปากแค่พอเหมาะกับริมฝีปากของตัวเอง ใช้สีที่เป็นตัวของคุณมากที่สุด ถึงแม้มันจะไม่สวยโดดเด่น แต่ก็ทำให้คุณเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด ตราตรึงอยู่ในใจของเจ้าบ่าวไปนานแสนนาน
2. แต่งตาให้เงาวาวมากเกินไป
การแต่งตาด้วยอายแชโดว์ที่เป็นประกายแวววาว มันคงจะทำให้คุณดูสวยเซ็กซี่กว่าใคร ๆ ในงานปาร์ตี้ หรือการไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูงในคลับหรือบาร์ แต่มันคงจะดูไม่ดีนักหากคุณจะแต่งตาด้วยอายแชโดว์แวววับในงานแต่งงาน เพราะมันจะทำให้ใบหน้าของเจ้าสาวดูสว่างมากเกินไป ยิ่งถ้าชุดเจ้าสาวมีลวดลาย รวมทั้งใส่เครื่องประดับที่มีประกายก็จะยิ่งทำให้ตัวเจ้าสาวดูเยอะ หาจุดโฟกัสไม่ได้ การแต่งตาด้วยอายแชโดว์แบบเนื้อแมตต์ ไล่เงาด้วยชิมเมอร์เล็กน้อย แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
3. ใส่สเปรย์ผมมากเกิน
ถ้างานแต่งงานจัดขึ้นในโรงแรมก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าจัดในสวนหรือกลางแจ้งก็ต้องพิจารณาการทำผมให้มากขึ้นอีกนิด เพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อน คงไม่มีเจ้าสาวคนไหนที่ชอบความเหนียวเหนอหนะก่อนที่งานแต่งงานจะมาถึง จึงควรรีบปรึกษาช่างทำผมว่าผมทรงไหนที่ไม่ต้องใส่สเปรย์เยอะ ๆ บ้าง นำมาประยุกต์ให้เข้ากับลักษณะของชุดและการแต่งหน้า ก็จะทำให้คุณเป็นเจ้าสาวที่สวยสง่าในวันแต่งงานอย่างแน่นอน
4. ทำทรงผมที่หนักอึ้ง
นอกจากควรหลีกเลี่ยงการใส่สเปรย์ทำผมที่มากเกินไปแล้ว การเลือกทรงผมให้ไม่ต้องยีหรือเกล้ามากจนเกินไปก็จะช่วยให้ตัวเจ้าสาวสวยได้แบบสดใส อีกทั้งไม่ควรใส่เครื่องประดับหรือสิ่งตกแต่งจนดูว่าทรงผมจะใหญ่กว่าใบหน้า เพราะมันยิ่งทำให้ดูตลกและไม่คล่องแคล่ว อย่าลืมว่าเจ้าสาวต้องเดินต้อนรับแขกตลอดทั้งวัน จึงควรเลือกทรงผมที่ทำให้เคลื่อนไหวได้สะดวกน่าจะดีที่สุด
5. ทารองพื้นและคอนซีลเลอร์หนาเตอะ
การปกปิดริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้าคงต้องใช้ตัวช่วยอย่างรองพื้นและคอนซีลเลอร์ แต่ก็ต้องเลือกสีที่เหมาะสมกับใบหน้าและทาให้พอเหมาะ ไม่ต้องทาจนมากเกินไป จนทำให้รู้สึกถึงความเหนียวเหนอหนะ แทนที่เจ้าสาวจะได้ยิ้มสวย ๆ กลับต้องมากังวลและรำคาญใจกับการแต่งหน้าที่หนามากเกินไป โดยเฉพาะเวลาซับเหงื่อ ต่อให้เครื่องสำอางมีคุณสมบัติติดทนนานมากแค่ไหน มันก็จะค่อย ๆ หลุดออกมาอยู่ดี และมันก็คงจะไม่ดีเท่าไรนักที่ใบหน้าของเจ้าสาวจะเป็นจุดด่างดำไม่สม่ำเสมอ
ข้อแนะนำก็คือเจ้าสาวควรจะลองแต่งหน้าทำผมก่อนที่วันงานจะมาถึง เพื่อเลือกทรงผมและสไตล์การแต่งหน้าที่เหมาะสมที่สุด เพราะมันคงจะดีเสียกว่าที่คุณจะไม่ต้องมาหงุดหงิดกับการแต่งหน้าทำผมที่ไม่ได้ดั่งใจในวันสำคัญที่สุดในชีวิต และจงอย่าลืมเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด เพราะมันจะทำให้คุณเป็นเจ้าสาวที่สวยน่าจดจำตลอดไป