จดทะเบียนหย่า ต้องทำอย่างไร หากไม่รู้เรื่องกฎหมาย จะต้องเริ่มต้นที่ตรงไหน อ่านเข้าใจง่าย ๆ ได้ที่นี่... เมื่อมีรักมีจดทะเบียนสมรส เมื่อเลิกรักก็ต้องมีจดทะเบียนหย่า ใครกำลังมีปัญหาเหล่านี้ เรามีคำแนะนำดี ๆ มาฝาก
การหย่าร้าง
ตามกฎหมายของไทย การหย่านั้นสามารถทำได้ 2 แบบ คือ
1. การหย่าโดยความยินยอมของทั้ง 2 ฝ่าย
ต้องทำเป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อ มีพยาน 2 คน และนัดกันนำหนังสือหย่าดังกล่าวไปจดทะเบียนหย่า ที่สำนักทะเบียน สำนักงานเขต/อำเภอ พร้อมพยาน 2 คน เพราะกฎหมายกำหนดว่าเมื่อได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย การหย่าโดยความยินยอมจะสมบูรณ์ต่อเมื่อสามีและภริยาได้จดทะเบียนหย่ากันแล้ว (ปพพ. มาตรา 1515)
2. การฟ้องหย่า
ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาให้หย่า ในเมื่อพยายามหาทางพบปะพูดคุยกันหลายครั้งหลายหนแล้ว แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ เราก็ต้องอาศัยกระบวนการยุติธรรมให้เข้ามาช่วยเหลือ โดยสามารถติดต่อทนายความเพื่อขอคำแนะนำ จากนั้นทนายจะส่งหนังสือบอกกล่าวให้อีกฝ่ายหนึ่งมาหย่าภายในระยะเวลากำหนด หากอีกฝ่ายไม่มาหย่า ต้องทำสำนวนส่งฟ้องศาลต่อไป
สาเหตุที่เราจะนำมาฟ้องหย่าได้นั้นอยู่ในมาตรา 1516 เหตุฟ้องหย่ามีดังต่อไปนี้
(1) สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้ (และสามารถเรียกค่าทดแทนจากชู้ได้อีกด้วย ตามมาตรา 1523)
(2) สามีหรือภริยาประพฤติชั่ว ไม่ว่าความประพฤติชั่วนั้นจะเป็นความผิดอาญาหรือไม่ ถ้าเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่ง
- ได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง
- ได้รับความดูถูกเกลียดชังเพราะเหตุที่คงเป็นสามีหรือภริยาของฝ่ายที่ประพฤติชั่วอยู่ต่อไป หรือ
- ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควร ในเมื่อเอาสภาพฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบอีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(3) สามีหรือภริยาทำร้าย หรือทรมานร่างกายหรือจิตใจ หรือหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ ถ้าเป็นการร้ายแรงอีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4) สามีหรือภริยาจงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกิน 1 ปี อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
- สามีหรือภริยาต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเกิน 1 ปี ในความผิดที่อีกฝ่ายหนึ่งมิได้มีส่วนผิดหรือรู้เห็นด้วย และการเป็นสามีภริยากันต่อไปจะเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควร อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
- สามีและภริยาสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกิน 3 ปี หรือแยกกันอยู่ตามคำสั่งของศาลเป็นเวลาเกิน 3 ปี ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(6) สามีหรือภริยาไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตามสมควร หรือทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรง อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(7) สามีหรือภริยาวิกลจริตตลอดมาเกิน 3 ปี ถึงขนาดที่จะทนอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาต่อไปไม่ได้ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(8) สามีหรือภริยาผิดทัณฑ์บนที่ทำให้ไว้เป็นหนังสือในเรื่องความประพฤติ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(9) สามีหรือภริยาเป็นโรคติดต่ออย่างร้ายแรงอันอาจเป็นภัยแก่อีกฝ่ายหนึ่ง และโรคมีลักษณะเรื้อรัง ไม่มีทางที่จะหายได้ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(10) สามีหรือภริยามีสภาพไม่อาจร่วมประเวณีได้ตลอดกาล อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
เอกสารการหย่า
เอกสารที่ใช้เพื่อการจดทะเบียนหย่า ได้แก่
- บัตรประจำตัวประชาชน
- ทะเบียนบ้านทั้ง 2 ฝ่าย
- ใบเปลี่ยนชื่อตัว - ชื่อสกุล (ถ้ามี)
- ใบสำคัญการสมรส
- หนังสือหย่าหรือหนังสือสัญญาหย่า
- พยานบุคคลจำนวน 2 คน อายุ 20 ปีขึ้นไป พร้อมบัตรประจำตัวประชาชน
ขั้นตอนการจดทะเบียนหย่า
การจดทะเบียนหย่าโดยความยินยอม มีขั้นตอนและวิธีปฏิบัติ ดังนี้
1. การรับเรื่อง
คู่หย่าตกลงเรื่องทรัพย์สิน การปกครองบุตร (ถ้ามี) โดยทำเป็นหนังสือหย่าแล้วยื่นคำร้อง พร้อมหนังสือหย่าต่อนายทะเบียน
2. ตรวจสอบหลักฐานหรือเอกสารที่เกี่ยวข้อง
- บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้สำหรับบุคคลซึ่งไม่ต้องมีบัตรประจำตัวประชาชนตามกฎหมาย หรือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว
- ใบสำคัญการสมรส หรือสำเนาทะเบียนสมรส
- หนังสือหย่าหรือข้อตกลงการหย่า ที่มีพยานลงลายมือชื่ออย่างน้อย 2 คน
- พยานอย่างน้อย 2 คน
3. ตรวจสอบคุณสมบัติ
คู่หย่าแสดงความยินยอมที่จะจดทะเบียนหย่า
4. ผู้มีอำนาจในการจดทะเบียน
ต้องมีนายทะเบียน (นายทะเบียน/ปลัดอำเภอ ผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอ/ผู้อำนวยการเขต หรือผู้รักษาราชการแทน) เป็นผู้จดทะเบียนให้
5. ชี้แจงผลการจดทะเบียนหย่า
นายทะเบียนชี้แจงผลของการจดทะเบียนการหย่าให้ผู้ร้องทราบ
6. การลงรายการให้ทะเบียน
- ลงรายการด้วยวิธีการพิมพ์ข้อความลงในทะเบียนหย่า และใบสำคัญการหย่า หากผู้ร้องทั้ง 2 ฝ่ายประสงค์จะให้บันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับทรัพย์สิน อำนาจปกครองบุตร หรือเรื่องอื่น นายทะเบียนจะพิมพ์รายละเอียดนั้นไว้ในช่องบันทึก
- เมื่อพิมพ์ข้อความลงในทะเบียนหย่าแล้ว หากมีข้อผิดพลาดสามารถแก้ไขได้ทันทีก่อนการสั่งพิมพ์
- กรณีไม่มีการแก้ไขและได้สั่งพิมพ์แล้วจะไม่สามารถเรียกกลับมาแก้ไขได้อีก และเพื่อป้องกันการแก้ไขหรือลบข้อมูลโดยมิชอบ ให้สั่งพิมพ์ใบทะเบียนการหย่าและใบสำคัญการหย่า เพื่อให้ผู้ร้องและพยานลงลายมือชื่อ แล้วมอบให้คู่หย่าฝ่ายละ 1 ฉบับ
7. นายทะเบียนเก็บรักษาทะเบียนไว้เป็นหลักฐาน
นายทะเบียนจะเก็บรักษาทะเบียนไว้เป็นหลักฐานตลอดไป โดยการจัดเก็บเข้าแฟ้มเรียงลำดับตามเลขทะเบียน โดยมิให้ทำลายเพราะเป็นเอกสารสำคัญทางกฎหมาย ซึ่งใช้รับรองสิทธิต่าง ๆ ของผู้ที่เกี่ยวข้อง
8. กรณีเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าหรือระบบการสื่อสารขัดข้อง
ให้ถือปฏิบัติตามระบบเดิม คือ การบันทึกข้อความต่าง ๆ โดยการเขียนด้วยมือลงในคำร้อง และทะเบียนการหย่า แต่ต้องนำมาจัดเก็บข้อมูลการจดทะเบียนหย่าดังกล่าวไว้ด้วยระบบคอมพิวเตอร์อีกครั้งหนึ่ง
ข้อควรรู้
- กรณีหย่าโดยคำพิพากษาของศาล คู่หย่าไม่ต้องจดทะเบียนหย่าอีก
- เหตุฟ้องหย่า ตามมาตรา 1516 ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ยินยอม รู้เห็นเป็นใจในการกระทำที่เป็นเหตุหย่านั้น หรือเหตุนั้นเกิดเพราะการกระทำของอีกฝ่ายหนึ่ง ฝ่ายที่ยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจจะยกเป็นเหตุฟ้องหย่าไม่ได้
- ในกรณีหย่าโดยความยินยอม ให้สามีภริยาทำความตกลงเป็นหนังสือว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรคนใด ถ้าตกลงกันไม่ได้ให้ศาลเป็นผู้ชี้ขาด
จดทะเบียนหย่า ขอให้เป็นขั้นตอนสุดท้ายในกรณีที่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถทำความเข้าใจกันได้ ชีวิตคู่เดินมาถึงทางตันแล้วจริง ๆ แต่หากยังพอมีความรักความผูกพัน ลองหันหน้าปรับตัวเข้าหากันอีกสักครั้ง แม้จะแก้ไขอดีตไม่ได้ แต่ก็อาจทำให้ปัจจุบันและอนาคตดีขึ้นได้เช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักบริหารการทะเบียน, webportal.bangkok.go.th, info.go.th