ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ กับคู่รักที่จูงมือกันเข้าพิธีวิวาห์อย่าง เวฟ สาริน และบุ้ง สะธี ทายาทตึกใบหยก ที่หลังจากคบหากันเป็นระยะเวลานาน ทั้งสองคนก็ตกลงปลงใจ จูงมือกันเข้าสู่ประตูวิวาห์ในวันนี้แล้ว
โดย เวฟ บุ้ง ได้เผยว่าสำหรับแพลนงานวิวาห์ที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (12 พฤศจิกายน) ว่าคอนเซ็ปต์ของงาน จะเป็นไปอย่างสนุกสนานมากกว่า เป็นเหมือนกับการพบปะเพื่อนฝูง ปาร์ตี้ สังสรรค์ ไม่มีธีมหรืออะไรเป็นพิเศษ คือเราจัดเรียบง่าย ธรรมดา ส่วนสินสอดนั้นขอใช้คำว่าสมน้ำสมเนื้อ สิ่งสำคัญคือความรักไม่สามารถตีค่าเป็นมูลค่าได้ ส่วนเรื่องของ ฮันนีมูนทุกวันนี้ก็เหมือนฮันนีมูนอยู่แล้ว ด้านทายาทหากมีได้ก็อยากจะมีเลย เพราะรักเด็ก
ส่วนการเตรียมงานบุ้งเผยว่า ก็รู้สึกว่ามันผ่านไปเร็วเพราะตอนแรก 3 เดือนก็นึกว่าเหลือเวลาอีกตั้งนาน สรุปแล้วคือทำอะไรไม่ค่อยทัน แต่พี่เวฟเขาจะเครียดมากกว่า เพราะเป็นคนดีลงานเอง ตนไม่ค่อยได้ลงรายละเอียดเท่าเขา เพราะเขาจะละเอียดเรื่องนี้ ตั้งใจมาก ซึ่งเวฟก็เสริมว่า แต่งงานครั้งเดียว แต่จริง ๆ ก็มีทีมช่วย เป็นทีมงานของใบหยก และก็ทีมจากรุ่นน้องมาช่วยดูแล ตนแค่เสนอสิ่งที่อยากได้ให้เขาไป ทางนั้นเขาก็ทำเป็นภาพกลับมาให้ตัดสินใจอีกทีว่าชอบหรือเปล่า ถามว่าได้รีเควสอะไรเป็นพิเศษไหม ไม่มีเลย ปกติธรรมดาเหมือนงานแต่งงานทั่วไป อาจจะมีตัดอะไรออกบางส่วน และก็เติมอะไรเข้าไปใหม่บางส่วนเท่านั้นเอง
เวฟ : สนุกสนานมากกว่าเป็นเหมือนกับพบปะเพื่อนฝูง ปาร์ตี้ สังสรรค์ ไม่มีธีมหรืออะไรเป็นพิเศษ คือเราจัดแบบธรรมดาและให้ผู้ใหญ่รับรู้ว่า ถึงเวลาที่จะเป็นสามี ภรรยากันแล้วมากกว่า
บุ้ง : มีหลายคนถามถึงธีม เราก็ไม่มีธีม เพราะว่าบุ้งเป็นคนที่เหมือนกับว่าเกรงใจ เขาอุตส่าห์มางานแล้วเราก็ไปบังคับเขาแต่งตัวอีก ก็เลยแต่งอะไรมาก็ได้ เอาสะดวก และในงานแต่งก็ไม่ได้รีเควสอะไรเป็นพิเศษ ดังนั้นเอาที่เขาสะดวกกันดีกว่า
งานที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไงบ้าง ?
เวฟ : พรุ่งนี้จะมีพิธีขันหมากตอน 7 โมงเช้า และก็เป็นพิธีไทยยาวไปถึงเที่ยงเลย ทั้งพิธีหมั้น พิธีรับไหว้ และก็รดน้ำสังข์ ส่วนงานตอนเย็นจะเริ่มช่วง 6 โมง คือค่อนข้างเร็วนิดหน่อยเพราะเราจะจบเร็ว เนื่องจากว่าบ่าวสาวจะมีฤกษ์ส่งตัวหรืออะไรต่าง ๆ นานา ที่มันค่อนข้างกระชั้นชิด
สินสอดสำหรับงานวิวาห์ครั้งนี้พอจะระบุได้ไหม ?
เวฟ : สินสอดเตรียมไว้พอสมควรแต่ว่าต้องบอกเลยว่าไม่ได้เยอะและไม่ได้น้อย จริง ๆ เรื่องสินสอดตนมองว่าเป็นเรื่องท้าย ๆ ความสำคัญคือเรารักกันหรือเปล่า คุณพ่อคุณแม่อนุญาตให้เราแต่งงานกันไหม สบายใจไหมที่เราจะอยู่ด้วยกัน แล้วก็คุณพ่อคุณแม่น้องบุ้ง ก็กรุณามากไม่เรียกสินสอดอะไรเลย แต่เราก็จัดให้สมพิธีตามประเพณีไทย คืออย่าไปตีค่าคนเป็นราคา มองว่าถ้าเราจะอยู่ด้วยกันไม่ต้องถามถึงเรื่องเงินทองหรือเรื่องสินสอดทองหมั้น เราตีค่าด้วยความรู้สึกมากกว่า
แพลนฮันนีมูนของเราทั้งคู่เป็นยังไงบ้าง ?
บุ้ง : ยังไม่มีเลยค่ะ
เวฟ : ทุกวันนี้ก็เหมือนฮันนีมูนอยู่แล้ว คือเราไม่ได้คิดว่าพอแต่งเสร็จเราจะต้องไปฮันนีมูนที่ไหนหรือยังไง เพราะพอแต่งงานเสร็จปุ๊บ เช้าวันต่อไปเราก็ยังคงทำงานกันเหมือนปกติ
ตั้งใจจะมีทายาทเลยหรือเปล่าหลังจากนี้ ?
เวฟ : ก็ตั้งใจว่าถ้าหากมีลูกได้หรือมีโอกาสเหมาะสมก็อยากจะมีเลย
บุ้ง : อยากมีค่ะ บุ้งชอบเล่นกับเด็กอยู่แล้ว ทุกวันนี้เวลาอยู่บ้านก็เล่นแต่กับหลาน ถ้าหากมีลูกมาอีกคนก็จะได้อยู่เป็นเพื่อนกันได้ ส่วนจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้หมด บุ้งอยู่กับเด็กได้หมดเลย
เวฟ : เรื่องการเลี้ยงเด็กไม่ต้องห่วงเขาเลย เขาเป็นคนรักเด็กมาก เขาเป็นคนที่ดูแลลูก ๆ หลาน ๆ ตลอด หรือแม้ไม่ใช่ลูกคนที่รู้จัก หากเขาเห็นเขาก็จะต้องเข้าไปจับเข้าไปเล่นด้วยให้ได้ คือถ้าหากเขามีลูกเองเขาต้องสปอยล์มากน่าดู
ความประทับใจที่เราสองคนมีในตัวของอีกฝ่ายคืออะไร ?
บุ้ง : พี่เขาดีขึ้นทุกวัน ช่วงแรก ๆ อาจมีทะเลาะบ้างในช่วงปรับตัว แต่พอนานวันเข้า เขาก็เข้าใจในตัวเรามากขึ้น และเราก็ไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกันเลย พี่เขาเป็นคนที่ใส่ใจทุกรายละเอียดจริง ๆ แค่หายใจผิดจังหวะเขายังรู้
เวฟ : คือเราอยู่กันมารู้จักกันมา 5 ปี น้อยวันมากที่เราจะไม่ได้เจอกัน นับได้เลย ยกเว้นแต่เขาไปต่างประเทศหรือตนทำงานจนดึก ซึ่งการที่เราได้อยู่ด้วยกันตลอดแบบนี้ มันทำให้ตนรู้ว่าเวลาเขาเป็นแบบนั้นแบบนี้ คือเขากำลังรู้สึกยังไง เหมือนเราเข้าใจกันมากขึ้น มากกว่าปีแรก ๆ ถ้าเขาเปลี่ยนเราจะรู้ ถ้าเงียบก็รู้เพราะถ้าเขาเงียบแสดงว่าต้องมีอะไรแล้ว พออยู่ไปด้วยกันนาน ๆ ก็เริ่มศึกษากันว่าจะอยู่กันปกติแบบวัยรุ่นทั่วไปไม่ได้แล้ว ก็หันหน้าเข้าหากัน ปรับตัวเข้าหากันยอมรับนิสัยของกันและกัน บางอย่างอาจเปลี่ยนไม่ได้ แต่อยู่ที่ว่าเขายอมรับเขาได้ไหม เรายอมรับเขาได้ไหม มันถึงจะอยู่กันได้
มีคำมั่นสัญญาให้กันบ้างไหมกำลังจะแต่งงานกันแล้ว ?
บุ้ง : เราไม่ได้สัญญาอะไรกันเลย บางคู่สัญญากันตั้งแต่ปีแรก แต่การกระทำมันไม่ใช่มันก็ไม่มีค่า ดังนั้นบุ้งกับพี่เวฟเราจึงไม่มีสัญญากันเลย เราไม่เคยมีเซอร์ไพรส์ ไม่เคยมีสวีท ไม่เคยหวานกันเลย
มุมอ่อนหวานของผู้หญิงของคนนี้คืออะไร ?
เวฟ : เขาจะเป็นคนที่ถ้าอยู่ด้วยกันสองคนจะต่างจากที่เป็นตรงนี้ เขาจะดูเป็นเด็กมากกว่านี้ เหมือนเราเป็นเด็กสองคนอยู่ด้วยกัน เขาจะไม่ใช่คนที่ซีเรียสตลอดเวลา เขาซีเรียสแค่เฉพาะเวลาทำงาน
วางแพลนอนาคตชีวิตคู่ไว้ยังไงบ้าง ?
เวฟ : ต้องขอชี้แจงก่อนสำหรับหลาย ๆ คนที่มองตนภายจากข่าวหลาย ๆ ข่าวในด้านลบ คือเรื่องข่าวระหว่างเราสองคนไม่มีผลกระทบ แต่ตนจะห่วงความรู้สึกของคนใกล้ชิดของครอบครัวตนมากกว่า เพราะพอมันเป็นข่าวที่เป็นผลลบ ผลลบนั้นมันก็จะส่งต่อไปยังความรู้สึกของคนรอบข้างตนด้วย
บุ้ง : จริง ๆ เราโชคดีเพราะทางครอบครัวบุ้งเขาไม่ได้สนใจข่าวอะไรพวกนี้เลย แต่เขาดูที่การกระทำของเราสองคนมากกว่า โอเคช่วงปีแรก ๆ มันอาจจะมีคำถามเข้ามาว่า "จะดีเหรอ" แต่เมื่อเราได้รู้จักกันจริง ๆ รู้จักกันนานเข้า ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย
เวฟ : จริง ๆ เราจะไม่เอาความเครียดใส่กันมากกว่า แต่เราจะให้กำลังใจกันและกันแทน ซึ่งสำหรับข่าวพวกนี้ที่มีเข้ามา พอเขาบอกเราว่าเขาไม่ได้ใส่ใจ เราเองก็จะไม่ใส่ใจเหมือนกัน
บุ้ง : ตัวบุ้งเองคือเราไม่ได้คิดอะไรเลย
เวฟ : หลายคนอาจจะมองว่าถ้าตนแต่งงานไปแล้ว ตนจะต้องมาทำงานที่นี่ มาใช้ชีวิตในครอบครัวที่หลายคนก็พอจะทราบกันดีว่าเป็นครอบครัวแถวหน้าของเมืองไทย ซึ่งตนต้องบอกก่อนว่า ถึงแต่งงานไปก็ยังต้องรับงานละคร เพราะตนต้องดูแลภรรยา ยังรับงานแถมรับซ้อนกันหลาย ๆ เรื่องได้ด้วย
ตั้งใจจะจดทะเบียรสมรสเลยหรือเปล่า ?
บุ้ง : เราเคยคุยกันเองสองคนว่าจริง ๆ แล้วเรื่องการจดทะเบียนมันไม่ใช่สิ่งสำคัญ มันเป็นแค่กระดาษแผ่นหนึ่งที่เราต้องเซ็นชื่อ ดังนั้นแล้วแต่ทางผู้ใหญ่เลย
เรือนหอของเราทั้งคู่เตรียมไว้แล้วหรือยัง ?
เวฟ : เตรียมไว้แล้ว คือซื้อบ้านไว้ที่นวมินทร์ แต่อย่างที่บอกทางคุณพ่อยังไม่ปล่อย
บุ้ง : คือไม่ใช่ว่าคุณพ่ออนุญาตให้แต่งงานแล้วเราจะไปอยู่นอกบ้านได้เลย แต่การอนุญาตก็คือการให้โอกาสพี่เวฟในการพิสูจน์ตัวเองอีกระดับ ซึ่งท่านก็ยังคงคิดถึงลูก ๆ อยู่ ดังนั้นมันก็จะมีบ้านที่ถูกสร้างเอาไว้ในพื้นที่เดิม
เวฟ : คุณพ่อท่านเคยบอกกับตนไว้ว่า ถึงแต่งงานไปแล้วก็อยากให้เข้ามาอยู่ในครอบครัวเดียวกัน ในรั้วเดียวกัน อยากจะมีความอบอุ่นเหมือนปกติเหมือนช่วงที่ลูกสาวยังไม่แต่งงาน เพราะว่าคุณพ่อคุณแม่น้องบุ้งท่านเป็นคนที่รักลูกมาก ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ในครอบครัวแต่งงานไปก็จะต้องอยู่ร่วมกัน ดังนั้นคุณพ่อท่านก็จะสร้างบ้านให้ในรั้วเดียวกันอีกหลังหนึ่ง ซึ่งเราก็จะไป ๆ มา ๆ ระหว่างสองหลังนี้
ถามถึงแหวนแต่งงานเป็นยังไงบ้าง ?
เวฟ : เป็นแหวนแต่งงานตั้งแต่รุ่นคุณน้า ที่ท่านได้มอบให้คุณพ่อตนเพื่อให้คุณแม่ในวันแต่งงาน และพอถึงวันนี้คุณแม่ท่านก็ให้ตนนำมามอบให้กับน้องบุ้ง ซึ่งมันตีมูลค่าไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ได้ใหญ่มาก แต่ว่าใหญ่ทางใจ
