วิธีเตรียมตัวก่อนเป็นเจ้าสาวให้ออกมาสวยและไร้ที่ติ อ๊ะ ๆ อย่ามัวแต่ตื่นเต้นจนลืมคิดถึงการเตรียมตัวในเรื่องต่าง ๆ ไม่อย่างนั้นอาจต้องมานั่งเสียใจภายหลัง
เมื่อวันแต่งงานใกล้มาถึงทุกที ๆ นอกเหนือจากความตื่นเต้นของตัวเจ้าสาวแล้ว
สิ่งหนึ่งที่เจ้าสาวทุกคนจะต้องนึกถึง นั่นคือต่อให้ตื่นเต้นมากแค่ไหนก็ต้องไม่ลืมที่จะเตรียมตัวสำหรับการเป็นเจ้าสาวด้วยนะ เพื่อที่ว่าจะได้เช็กตัวเองให้ครบถ้วนแบบไม่มีหลุด
เพราะถ้าเกิดว่าเตรียมตัวช้าเกินไปก็อาจจะไม่ทันกาล มาดูกันสิว่าโค้งสุดท้ายก่อนแต่งงาน มีอะไรที่เจ้าสาวต้องเตรียมตัวบ้าง
1. ย้อมสีผมให้เรียบร้อย
สำหรับเจ้าสาวคนไหนที่ก่อนหน้านี้เคยทำสีผมมาก่อน และบังเอิญว่าไม่ได้ทำต่อเนื่อง จนสีผมที่ย้อมผสมกับสีผมจริงมั่วไปหมด เห็นทีว่าถึงเวลาที่คุณต้องเดินเข้าร้านทำผม เพื่อให้ช่างทำผมย้อมสีผมให้เท่ากันทั้งศีรษะ แอบแนะนำนิดหนึ่งว่าเน้นย้อมสีโทนสุภาพจะดีที่สุด อย่างพวกสีน้ำตาลมะฮอกกานี น้ำตาลช็อกโกแลต หรือจะเป็นน้ำตาลเข้ม รับรองว่ารอดทุกสีผิว
2. จัดการดูแลสุขภาพช่องปาก
เพราะในวันแต่งงานเจ้าสาวจะต้องยิ้มต้อนรับแขกตลอดทั้งวัน ในเคสที่สุขภาพช่องปากของคุณไม่มีเรื่องน่าเป็นห่วง คุณอาจจะทำแค่ขูดหินปูนหรือฟอกฟันขาว และทางที่ดีควรดำเนินการก่อนสักประมาณ 1 เดือน และไม่ควรทำในช่วงใกล้กับวันงานมากเกินไป เพราะสีของฟันอาจจะยังไม่เข้าที่ ทำให้ถ่ายรูปออกมาไม่สวย
3. ลดน้ำหนักกระชับหน้าท้อง
เรื่องของ "น้ำหนัก" น่าจะเป็นเรื่องที่ว่าที่เจ้าสาวกังวลมากที่สุด และเพราะชุดเจ้าสาวส่วนใหญ่เป็นชุดเข้ารูป พูดง่าย ๆ ว่าคุณอาจจะต้องสนใจฟิตหุ่นช่วงหน้าอกไปจนถึงสะโพกให้มากขึ้น ดังนั้นท่าออกกำลังกาย ควรเป็นท่าช่วยกระชับหน้าท้องและหน้าท้องส่วนล่างเป็นหลัก อาจจะพ่วงด้วยการบริหารต้นแขนอีกนิด ทำเป็นประจำทุกวัน รับรองว่าคุณจะมีหุ่นสวยในชุดแต่งงานสุดเพอร์เฟกต์แน่นอน
4. กำจัดขนบริเวณต่าง ๆ
ในวันแต่งงานคุณจะต้องทำตัวเองให้เป๊ะมากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องของ "ขน" ที่ไม่พึงประสงค์ทั้งหลาย ทั้งขนคิ้ว ขนขา และแม้แต่ขนรักแร้ ซึ่งมีวิธีการกำจัดหลากหลาย เช่น โกน, ถอน, แว็กซ์, เลเซอร์ และครีมกำจัดขน เป็นต้น และแต่ละวิธีมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป แม้ว่าเรื่องขนจะเป็นเรื่องธรรมชาติก็จริง แต่อย่าปล่อยให้กลายมาเป็นอุปสรรคกับความงามของว่าที่เจ้าสาวอย่างเราเลยดีกว่า
5. เลือกขนตาปลอมให้เริด
สิ่งสำคัญสำหรับการเลือกขนตาปลอม นั่นคือ คุณต้องมีลุคในการแต่งหน้าที่ชัดเจน ห้ามเด็ดขาดเลยนะคะ ที่จะมานั่งติดขนตาแบบเรียงแผง เดี๋ยวเขาจะหาว่าเอากันสาดมาติดเสียเปล่า ๆ เลือกแบบที่เป็นธรรมชาติเข้าไว้ อาจจะหนาบางไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับโทนสีตาที่เลือก ขอให้เน้นความเป็นธรรมชาติเข้าไว้ เผื่อเอาไว้คุณจะได้เติมลูกเล่นที่ตาได้มากขึ้นนั่นเอง
6. หาตัวอย่างเจ้าสาวในฝัน
เอาจริง ๆ เรื่องของแรงบันดาลใจก็ไม่ควรมองข้าม บางครั้งเราอาจจำเป็นที่จะต้องมองหาแบบอย่างเจ้าสาว เพื่อนำมาเป็นแรงบันดาลใจสำหรับตัวเอง เพราะทุกคนคงยังไม่เคยมีประสบการณ์แต่งงานมาก่อน สำหรับการหาแบบอย่าง ว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายอาจจะต้องเสิร์ชหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต หารูปงานแต่งงาน รวมถึงรูปแบบของงานแต่งงาน หรือจะปรึกษาเวดดิ้งแพลนเนอร์ด้วยก็ได้
7. รองเท้าดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
เพราะในวันงานเจ้าสาวจะต้องเดิน เดิน และเดินแบบเยอะมาก เรียกได้ว่าแทบไม่ได้นั่งเลยด้วยซ้ำ รองเท้าจึงเป็นสิ่งที่เจ้าสาวต้องไม่มองข้ามความสำคัญเลยเด็ดขาด แนะนำว่าถ้าเป็นกระโปรงยาวคลุมพื้น จะหารองเท้าผ้าใบมาสับเปลี่ยน รับรองว่าไม่มีใครรู้ แต่ถ้าเจ้าสาวไซส์เล็ก หุ่นไม่ได้สูงชะลูด ลองใส่พวกรองเท้าส้นเตารีดดู ยืนสบายไม่ปวดขา ทั้งนี้ก่อนหน้าวันงาน คุณอาจจะลอง ๆ ซ้อมไว้บ้างก็จะดีไม่น้อยเลย
ทั้งหมดนี้เป็นคำแนะนำสำหรับการเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งเราเชื่อว่ายังมีเรื่องอีกยิบย่อยมากมาย ยังไงก็ลองคำนวณระยะเวลากันให้ดี ๆ นะคะ จะได้ไม่ลนและฉุกละหุก จนเกิดข้อผิดพลาดต่าง ๆ แล้วเดี๋ยวจะมานั่งคิดทีหลังว่า "รู้อย่างนี้ฉันเตรียมตัวให้ดีกว่านี้ดีกว่า" ไม่ได้แล้วนะคะ ^ ^
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
lover.ly และ bodyandsoul.com
1. ย้อมสีผมให้เรียบร้อย
สำหรับเจ้าสาวคนไหนที่ก่อนหน้านี้เคยทำสีผมมาก่อน และบังเอิญว่าไม่ได้ทำต่อเนื่อง จนสีผมที่ย้อมผสมกับสีผมจริงมั่วไปหมด เห็นทีว่าถึงเวลาที่คุณต้องเดินเข้าร้านทำผม เพื่อให้ช่างทำผมย้อมสีผมให้เท่ากันทั้งศีรษะ แอบแนะนำนิดหนึ่งว่าเน้นย้อมสีโทนสุภาพจะดีที่สุด อย่างพวกสีน้ำตาลมะฮอกกานี น้ำตาลช็อกโกแลต หรือจะเป็นน้ำตาลเข้ม รับรองว่ารอดทุกสีผิว
2. จัดการดูแลสุขภาพช่องปาก
เพราะในวันแต่งงานเจ้าสาวจะต้องยิ้มต้อนรับแขกตลอดทั้งวัน ในเคสที่สุขภาพช่องปากของคุณไม่มีเรื่องน่าเป็นห่วง คุณอาจจะทำแค่ขูดหินปูนหรือฟอกฟันขาว และทางที่ดีควรดำเนินการก่อนสักประมาณ 1 เดือน และไม่ควรทำในช่วงใกล้กับวันงานมากเกินไป เพราะสีของฟันอาจจะยังไม่เข้าที่ ทำให้ถ่ายรูปออกมาไม่สวย
3. ลดน้ำหนักกระชับหน้าท้อง
เรื่องของ "น้ำหนัก" น่าจะเป็นเรื่องที่ว่าที่เจ้าสาวกังวลมากที่สุด และเพราะชุดเจ้าสาวส่วนใหญ่เป็นชุดเข้ารูป พูดง่าย ๆ ว่าคุณอาจจะต้องสนใจฟิตหุ่นช่วงหน้าอกไปจนถึงสะโพกให้มากขึ้น ดังนั้นท่าออกกำลังกาย ควรเป็นท่าช่วยกระชับหน้าท้องและหน้าท้องส่วนล่างเป็นหลัก อาจจะพ่วงด้วยการบริหารต้นแขนอีกนิด ทำเป็นประจำทุกวัน รับรองว่าคุณจะมีหุ่นสวยในชุดแต่งงานสุดเพอร์เฟกต์แน่นอน
ในวันแต่งงานคุณจะต้องทำตัวเองให้เป๊ะมากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องของ "ขน" ที่ไม่พึงประสงค์ทั้งหลาย ทั้งขนคิ้ว ขนขา และแม้แต่ขนรักแร้ ซึ่งมีวิธีการกำจัดหลากหลาย เช่น โกน, ถอน, แว็กซ์, เลเซอร์ และครีมกำจัดขน เป็นต้น และแต่ละวิธีมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป แม้ว่าเรื่องขนจะเป็นเรื่องธรรมชาติก็จริง แต่อย่าปล่อยให้กลายมาเป็นอุปสรรคกับความงามของว่าที่เจ้าสาวอย่างเราเลยดีกว่า
5. เลือกขนตาปลอมให้เริด
สิ่งสำคัญสำหรับการเลือกขนตาปลอม นั่นคือ คุณต้องมีลุคในการแต่งหน้าที่ชัดเจน ห้ามเด็ดขาดเลยนะคะ ที่จะมานั่งติดขนตาแบบเรียงแผง เดี๋ยวเขาจะหาว่าเอากันสาดมาติดเสียเปล่า ๆ เลือกแบบที่เป็นธรรมชาติเข้าไว้ อาจจะหนาบางไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับโทนสีตาที่เลือก ขอให้เน้นความเป็นธรรมชาติเข้าไว้ เผื่อเอาไว้คุณจะได้เติมลูกเล่นที่ตาได้มากขึ้นนั่นเอง
6. หาตัวอย่างเจ้าสาวในฝัน
เอาจริง ๆ เรื่องของแรงบันดาลใจก็ไม่ควรมองข้าม บางครั้งเราอาจจำเป็นที่จะต้องมองหาแบบอย่างเจ้าสาว เพื่อนำมาเป็นแรงบันดาลใจสำหรับตัวเอง เพราะทุกคนคงยังไม่เคยมีประสบการณ์แต่งงานมาก่อน สำหรับการหาแบบอย่าง ว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายอาจจะต้องเสิร์ชหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต หารูปงานแต่งงาน รวมถึงรูปแบบของงานแต่งงาน หรือจะปรึกษาเวดดิ้งแพลนเนอร์ด้วยก็ได้
7. รองเท้าดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
เพราะในวันงานเจ้าสาวจะต้องเดิน เดิน และเดินแบบเยอะมาก เรียกได้ว่าแทบไม่ได้นั่งเลยด้วยซ้ำ รองเท้าจึงเป็นสิ่งที่เจ้าสาวต้องไม่มองข้ามความสำคัญเลยเด็ดขาด แนะนำว่าถ้าเป็นกระโปรงยาวคลุมพื้น จะหารองเท้าผ้าใบมาสับเปลี่ยน รับรองว่าไม่มีใครรู้ แต่ถ้าเจ้าสาวไซส์เล็ก หุ่นไม่ได้สูงชะลูด ลองใส่พวกรองเท้าส้นเตารีดดู ยืนสบายไม่ปวดขา ทั้งนี้ก่อนหน้าวันงาน คุณอาจจะลอง ๆ ซ้อมไว้บ้างก็จะดีไม่น้อยเลย
ทั้งหมดนี้เป็นคำแนะนำสำหรับการเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งเราเชื่อว่ายังมีเรื่องอีกยิบย่อยมากมาย ยังไงก็ลองคำนวณระยะเวลากันให้ดี ๆ นะคะ จะได้ไม่ลนและฉุกละหุก จนเกิดข้อผิดพลาดต่าง ๆ แล้วเดี๋ยวจะมานั่งคิดทีหลังว่า "รู้อย่างนี้ฉันเตรียมตัวให้ดีกว่านี้ดีกว่า" ไม่ได้แล้วนะคะ ^ ^
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
lover.ly และ bodyandsoul.com