การ์ดแต่งงาน เขียนอะไรบ้าง ? แนะวิธีเขียนการ์ดเชิญงานแต่งที่บ่าวสาวต้องรู้

          การ์ดแต่งงาน ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับพิธีแต่งงาน แต่หากว่าที่บ่าวสาวยังไม่รู้ว่าการ์ดแต่งงานเขียนอะไรบ้าง และควรเรียงลำดับอย่างไร เรามีข้อมูลวิธีเขียนการ์ดเชิญงานแต่งมาให้เช็กกัน
การ์ดแต่งงาน

          หลายคนอาจคิดว่า การ์ดแต่งงาน หรือการ์ดเชิญงานแต่ง เป็นแค่กระดาษแผ่นเล็ก ๆ แต่เอาเข้าจริงแล้วกลับค่อนข้างสำคัญกับคู่บ่าวสาวมากเลยทีเดียว เพราะเปรียบดั่งตัวแทนของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่ใช้เชื้อเชิญบุคคลต่าง ๆ ให้มาร่วมงานแต่งงาน เพื่อเป็นสักขีพยานในวันสำคัญ ซึ่งในยุคนี้หลายคู่อาจมองข้ามหรือลืมคิดไป พอจะแต่งงานก็โพสต์เชิญเพื่อนในเฟซบุ๊ก แล้ว Tag คนนั้นคนนี้เพื่อเชิญมางาน แต่อันที่จริงแล้วการเรียนเชิญนี้เป็นขั้นตอนที่ต้องให้ความสำคัญและให้เกียรติแขก จึงควรจะมีการ์ดแต่งงานเป็นกิจจะลักษณะจะดีกว่า

          อย่างไรก็ตาม การ์ดแต่งงานจะมีรูปแบบที่สวยถูกใจอย่างเดียวไม่ได้ ควรต้องมีรายละเอียดที่ครบถ้วนสมบูรณ์ กระชับ และถูกกาลเทศะมากที่สุด ซึ่งหากใครกำลังสงสัยว่า การ์ดแต่งงาน เขียนอะไรบ้าง วันนี้กระปุกดอทคอมสรุปวิธีเขียนการ์ดเชิญแต่งงานแบบง่าย ๆ มาเป็นไอเดียให้คู่บ่าวสาวแล้วค่ะ

การ์ดแต่งงาน เขียนอะไรบ้าง

1. ชื่อ-สกุล (บิดา, มารดา) เจ้าบ่าว, เจ้าสาว หรือผู้ที่เป็นประธานในพิธี

          ตำแหน่งด้านบนของการ์ดให้เริ่มด้วยชื่อและนามสกุลของเจ้าภาพ หรือครอบครัวทั้งฝ่ายเจ้าสาวและฝ่ายเจ้าบ่าว โดยปกติแล้วจะใส่ชื่อของเจ้าภาพฝ่ายเจ้าสาวขึ้นก่อน เพื่อเป็นการให้เกียรติญาติฝ่ายเจ้าสาว ส่วนงานแต่งงานที่เป็นทางการมาก ๆ หรือมีประธานในพิธี ให้ใส่ชื่อของท่านลงไปด้วยในลำดับบนสุด

2. ชื่อ-สกุล เจ้าสาว, เจ้าบ่าว

          หัวใจสำคัญของการ์ดงานแต่งก็คือเชิญไปงานของใคร นั่นก็คือการใส่ชื่อและนามสกุลของทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวนั่นเอง ขาดไม่ได้เด็ดขาดเลย ซึ่งบางคนก็อาจใส่ชื่อเล่นลงไปด้วย จะเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ แต่หากเป็นงานที่เป็นทางการ ขอแนะนำว่าใส่แค่ชื่อจริงจะดูเหมาะสมกว่า

3. สถานที่จัดงานแต่ง

          ชื่อของสถานที่จัดงานก็เป็นส่วนสำคัญที่จำเป็นต้องมี โดยควรระบุให้ชัดเจนว่าชื่อสถานที่คืออะไร โรงแรมไหน ห้องจัดเลี้ยงไหน ที่ตั้งคร่าว ๆ มีสาขาหรือไม่ อยู่จังหวัดอะไร เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้จักสถานที่นั้น และถ้าสามารถลงแผนที่หรือ QR Code ของสถานที่จัดงานไปด้วยก็จะอำนวยความสะดวกให้กับแขกที่จะมาในงานได้อีกทางหนึ่ง

4. วันที่จัดงาน

          เรื่องสถานที่ว่าสำคัญแล้ว เรื่องวันที่จัดงานแต่งงานก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เมื่อได้ฤกษ์แต่งงานที่เหมาะสมมาแล้ว ควรจะใส่วัน เดือน ปี ให้ชัดเจนและตรวจสอบความถูกต้องให้เรียบร้อย หรือจะระบุไปเลยว่าตรงกับวันไหนของสัปดาห์ ก็จะได้ความชัวร์สุด ๆ และป้องกันความสับสนด้วย
การ์ดแต่งงาน

5. เวลาและหมายกำหนดการเริ่มงาน

          การแจงช่วงเวลาลงไปในการ์ดแต่งงานจะทำให้แขกรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และสามารถกะเวลาได้ว่าควรจะเข้าร่วมงานในช่วงเวลาไหน โดยเฉพาะงานแต่งแบบไทยที่มักจะมีทั้งพิธีสงฆ์ พิธีแห่ขันหมาก พิธีสวมแหวนหมั้น พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ และอื่น ๆ หรืองานแต่งงานแบบจีนที่มีพิธียกน้ำชาเข้ามาด้วย การลงรายละเอียดช่วงเวลาของแต่ละพิธีการจึงเป็นสิ่งที่ช่วยให้ทุกอย่างชัดเจนและบ่าวสาวก็จะได้ควบคุมเวลาตอนแขกมาได้ดีขึ้น ส่วนคู่ไหนอยากจะเชิญแขกมาช่วงใดช่วงหนึ่งของงานเท่านั้น เช่น พิธีรดน้ำสังข์ ร่วมรับประทานอาหาร หรือร่วมงานฉลองในตอนเย็น ก็ใส่เวลาเดียวลงไปแทนได้เลย

6. รูปแบบการรับประทานอาหาร

          แน่นอนว่าการรับประทานอาหารในพิธีแต่งงานมีด้วยกันหลายแบบ ทั้งโต๊ะจีน บุฟเฟต์ และค็อกเทล เพราะฉะนั้นในการ์ดควรระบุรูปแบบการรับประทานอาหารลงไปด้วย แขกที่มาร่วมงานจะได้เตรียมตัวถูก

7. Dress Code หรือธีมงาน

          สำหรับคู่บ่าวสาวที่ต้องการคุมโทนสีของงานให้เป็นไปในทางเดียวกัน เพื่อความสวยงาม การใส่รายละเอียด Dress Code หรือธีมสีงานลงไปในการ์ดด้วยก็จะช่วยคุณได้มาก เพราะแขกที่มาร่วมงานจะได้รู้ว่าควรแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีอะไร มีลักษณะแบบไหนถึงจะเหมาะสม

8. ควรมีคำว่า “ขออภัยหากมิได้เรียนเชิญด้วยตัวเอง”

          ส่วนท้ายสุดของการ์ดแต่งงาน อาจวงเล็บไปด้วยว่า “ขออภัยหากมิได้เรียนเชิญด้วยตัวเอง” ซึ่งบางคนอาจจะคิดว่าไม่ได้สำคัญใช่ไหมล่ะคะ แต่ในกรณีที่ตัวเจ้าบ่าวและเจ้าสาวไม่สามารถไปเชิญแขกได้ อาจจะติดธุระหรือเวลากระชั้นชิดมากก็แล้วแต่ การใส่คำนี้ลงไปในการ์ดถือว่าเป็นมารยาทและให้เกียรติแขกที่ไม่ได้ไปแจกการ์ดให้ด้วยตัวเองได้เป็นอย่างดีค่ะ

          ทั้งนี้ สำหรับบ่าวสาวรุ่นใหม่ที่อยากให้อินสตาแกรมเป็นพื้นที่รวมภาพงานแต่งของคุณ อาจเพิ่มแฮชแท็กเก๋ ๆ ลงไปในการ์ดแต่งงานด้วย จะช่วยให้เพื่อน ๆ ลงรูปและติดแฮชแท็กได้รัว ๆ โดยที่คุณสามารถเข้าไปชมหลังจบงานได้ด้วย

การจ่าหน้าซองการ์ดแต่งงาน (ใช้พิมพ์หรือเขียนก็ได้)

          นอกจากภายในการ์ดแต่งงานแล้ว หน้าซองแต่งงานก็ควรจะเขียนชื่อ-นามสกุลของแขกคนสำคัญไว้ด้วย วิธีการมีดังนี้
  • การเขียนเชิญแขกผู้ใหญ่ที่เป็นข้าราชการ

          เรียนเชิญคุณ … (ชื่อ-สกุล) … และภริยา

  • การเรียนเชิญบุคคลทั่วไป

          เรียนเชิญคุณ … (ชื่อ-สกุล) … และภรรยา

  • การเรียนเชิญแขกที่สมรสแล้ว

          เรียนเชิญคุณ … (ชื่อ-สกุล) … และครอบครัว

          และนี่คือสิ่งที่ควรมีในการ์ดแต่งงาน ซึ่งแต่ละหัวข้อไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับตามนี้ทั้งหมดก็ได้ เพราะแต่ละลำดับจะวางตรงไหนขึ้นอยู่กับรูปแบบของการ์ดที่คู่บ่าวสาวออกแบบด้วย แต่ก่อนจะพิมพ์ควรตรวจสอบความถูกต้องทั้งการสะกดและตัวเลขให้ดีจะได้ไม่พลาดนั่นเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก : brides.com, theknot.com, papier.com

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
การ์ดแต่งงาน เขียนอะไรบ้าง ? แนะวิธีเขียนการ์ดเชิญงานแต่งที่บ่าวสาวต้องรู้ อัปเดตล่าสุด 1 ตุลาคม 2567 เวลา 17:11:11 55,152 อ่าน
TOP
x close