
ลำดับพิธีการบนเวที...เพื่องานแต่งที่สมบูรณ์แบบ (I do)
Perfect Planing เรื่อง : Supatha
พิธีการบนเวทีในงานแต่งงาน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของการประกาศการเป็นครอบครัวใหม่ เป็นช่วงเวลาของการกล่าวอวยพรที่สร้างความซาบซึ้ง ประทับใจ และสร้างความน่าจดจำให้กับคู่บ่าวสาว คุณพ่อคุณแม่ และแขกที่มาร่วมงานทุกคน
ลำดับขั้นตอนบนเวที โดยมากจะใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ยกเว้นจะมีกิจกรรมอื่นเพิ่มขึ้น เช่น การแสดง การแจกรางวัล การำอวยพร เป็นต้น โดยในการ์ดเชิญจะระบุเวลาเริ่มงานประมาณ 18.30 น. เมื่อแขกเริ่มทยอยมาประมาณ 70% ของที่เชิญ หรือเมื่อถึงเวลาประมาณ 19.30 น. พิธีการบนเวทีก็จะเริ่มต้นขึ้น แต่หากแขกยังมากันน้อยสามารถเลื่อนเวลาออกไปได้ไม่เกิน 19.45 น. โดยมีลำดับขั้นตอนดังนี้
19.15 น.เตรียมความพร้อมขั้นสุดท้าย ในงานเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์ หรือค็อกเทลแขกสามารถเริ่มทานอาหารที่จัดเตรียมไว้ได้ทันทีที่มาถึง แต่ถ้าเป็นงานเลี้ยงแบบโต๊ะจีน อาหารจะเริ่มเสิร์ฟจานแรกเมื่อเวลา 19.00 น. และพิธีกรจะเริ่มแนะนำตัวหลังเสิร์ฟอาหารจานที่ 3 แล้ว แต่ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงแบบใด พิธีการบนเวทีจะเริ่มต้นในเวลาประมาณ 19.30 น.
ก่อนที่ช่วงเวลาพิธีการจะเริ่มต้น ต้องตรวจสอบว่าประธาน และทุกคนที่จะขึ้นเวทีมาพร้อมกันแล้วทั้งหมด ก่อนเริ่มพิธีการ 15 นาที ถ้าประธานหรือผู้ใหญ่ที่ต้องขึ้นเวทียังไม่มา ให้เรียนเชิญท่านที่เรามองสำรองเตรียมไว้ได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะกระชั้นชิดเกินไป เพราะท่านยังมีเวลาเตรียมตัวอีกประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาขึ้นกล่าวจริง หรืออาจตัดรายชื่อออกไปจากรายนามที่เชิญขึ้นเวที และที่สำคัญอย่าลืมแจ้งพิธีกรให้เปลี่ยนสคริปต์พูดบนเวทีด้วย
จากนั้นตรวจครั้งสุดท้ายกับพิธีกรในการประกาศชื่อประธานในพิธี ผู้ที่จะคล้องพวงมาลัย และผู้ใหญ่ที่จะขึ้นกล่าวอวยพรทุกคน รวมทั้งดูว่าจำนวนพวงมาลัยมีพอดีกับจำนวนผู้ที่จะคล้องหรือเปล่า เพราะถ้าไม่มีการแจ้งล่วงหน้าทางโรงแรมจะจัดเตรียมไว้ให้ 2 พวงเท่านั้น ในการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของสถานที่จัดงาน มีทั้งเรื่องของการเปิดไฟ ปิดไฟ หรี่ไฟ เปิดเพลง ต้องรู้ว่าจะประสานงานกับใคร และเจ้าหน้าที่จะเตรียมพร้อมอยู่ที่จุดไหน เพื่อจะได้ตามตัวได้โดยไม่ฉุกละหุก รวมทั้งการเตรียมเครื่องดื่มสำหรับดื่มอวยพรบนเวที
ก่อนเริ่มพิธีการ 10 นาที ให้แจ้งผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดให้ทราบว่าพิธีการกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ให้ทุกคนเตรียมพร้อมทั้งคู่บ่าวสาว ประธานผู้ใหญ่ที่จะขึ้นกล่าวอวยพรให้โอวาท คุณพ่อคุณแม่ของเจ้าบ่าว-เจ้าสาว เจ้าหน้าที่ควบคุมแสง-เสียง นักดนตรี และพิธีกร

เมื่อช่วงเวลาพิธีการเริ่มต้น... เสียงดนตรีในงานจะค่อย ๆ เบาลงพร้อมกับหรี่ไฟในห้องจัดเลี้ยงลงประมาณ 60% และเพิ่มไฟบนเวทีให้สว่างขึ้น เพื่อดึงความสนใจให้มุ่งตรงไปเวทีให้มากที่สุด
จากนั้นพิธีกรขึ้นสู่เวที กล่าวสวัสดีต้อนรับแขกทุกท่านในนามของเจ้าภาพ พร้อมเชิญชมการแสดงพิเศษ หรือชมการฉายพรีเซ็นต์เทชั่นบอกเล่าเรื่องราวความรักของคู่บ่าว-สาว เจ้าหน้าที่ควบคุมไฟหรี่ไฟลงทั้งบริเวณห้องจัดเลี้ยงและบนเวที จากนั้นเริ่มฉายพรีเซ้นต์เทชั่น ซึ่งความยาวไม่ควรเกิน 8 นาที เพื่อที่แขกในงานจะได้ให้ความสนใจชมตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งหากนานกว่านี้แขกอาจเบื่อเสียก่อน


ช่วงนี้ถือเป็นไฮไลท์ที่เด่นที่สุดของงาน นั่นก็คือการเปิดตัวพระเอก และนางเอกของงานในค่ำคืนนี้ ซึ่งก็คือคู่บ่าว-สาวนั่นเอง การเปิดตัวนี้ จะทำต่อเนื่องทันทีที่การฉายพรีเซ็นต์เทชั่นจบ ฝ่ายเสียงอาจจะเปิดเพลงคลอเบา ๆ ระหว่างที่บ่าวสาวกำลังเดินขึ้นเวที
ไฟในห้องยังคงหรี่อยู่ แต่เปิดไฟบนเวทีสว่างขึ้น พิธีกรกล่าวเชิญแขกทุกท่านพบกับคู่บ่าว-สาว ทั้งคู่คล้องแขนหรือจูงมือกัน เดินเข้าสู่งานช้า ๆ โดยมีไฟ Follow มาที่คู่บ่าว-สาว พร้อมเพลงบรรเลงคลอตลอดทางจนขึ้นสู่เวที ตรงนี้เราอาจจะเติมลูกเล่นเล็ก ๆ โดยจัดให้มีเด็ก ๆ แต่งตัวสวยงามเป็น Flower Girls เดินถือตะกร้าดอกไม้นำหน้าคู่บ่าว-สาว และโปรยดอกไม้นำตลอดทางจะดูน่ารักยิ่งขึ้น
ด้านพิธีกรเชิญแขกทุกท่านปรบมือต้อนรับบ่าวสาว และเจ้าหน้าที่ควบคุมไฟเปิดไฟสว่างตามปกติ พิธีกรแนะนำชื่อจริง ชื่อเล่น หรือข้อมูลน่ารู้เบื้องต้นสั้น ๆ ของทั้งคู่ และถ้าคุณพ่อคุณแม่ของเจ้าสาว-เจ้าบ่าวจะขึ้นบนเวทีด้วย ให้ประกาศชื่อเชิญตอนนี้ได้เลย


ตอนนี้คู่บ่าวสาวได้ยินอยู่บนเวทีเรียบร้อยแล้ว คนอื่น ๆ ที่อยู่บนเวทีให้ยืนเยื้องมาแถวหลังของคู่บ่าวสาว จากนั้นพิธีกรอาจจะกล่าวเชิญประธานในพิธีที่มีเพียงท่านเดียว หรือมี 2 ท่านคือ ประธานฝ่ายเจ้าสาว 1 ท่าน และฝ่ายเจ้าบ่าวอีก 1 ท่าน โดยพิธีกรจะกล่าวเชิญทีละท่านตามลำดับ ประธานเดินขึ้นเวที โดยมีผู้ถือพานเชิญพวงมาลัย เดินตามหลังขึ้นมาด้วย ประธานคล้องพวงมาลัยให้เจ้าสาว ตามด้วยเจ้าบ่าวแล้วกล่าวอวยพร เจ้าหน้าที่ถือเครื่องดื่มสำหรับดื่มอวยพรมาส่งให้เพื่อเชิญทุกท่านร่วมดื่มอวยพร ผู้ควบคุมเสียง หรือนักดนตรีบรรเลงเพลง แล้วทุกท่านดื่มอวยพร
เมื่อพิธีกรกล่าวเชิญผู้ใหญ่ที่จะกล่าวและดื่มอวยพรขึ้นบนเวทีทีละท่านจนครบทุกท่าน คุณพ่อคุณแม่ของเจ้าสาว และเจ้าบ่าวจะกล่าวอวยพรเป็นลำดับสุดท้าย จากนั้นพิธีกรเรียนเชิญประธานและคุณพ่อคุณแม่ของฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาวลงจากเวที เพื่อดำเนินพิธีในขั้นตอนต่อไป


มาถึงตรงนี้ก็ถึงบทที่คู่บ่าวสาวต้องแสดงบ้างแล้ว ในลำดับพิธีนี้บ่าวสาวควรจะต้องนัดแนะกับพิธีกรก่อน อย่าปล่อยเรื่องสคริปต์ให้เป็นหน้าที่ของพิธีกร หากไม่อยากถูกเซอร์ไพรส์กลางงานแต่งงานของตัวเอง ทางที่ดีควรจะขอความร่วมมือจากพิธีกรว่าอย่ามีคำถามเซอร์ไพรส์ หรือเกมส์แปลก ๆ ที่ไม่ได้นัดแนะกันไว้ คู่บ่าวสาวควรทำสคริปต์และทำความเข้าใจให้ตรงกันกับพิธีกรก่อน ในช่วงนี้ถ้าจะให้ดีตอนสัมภาษณ์นี้ทั้งพิธีกรและเจ้าบ่าว-เจ้าสาว ควรมีไมค์โครโฟนครบทุกคน พิธีกรเริ่มถามคำถาม
ซึ่งการให้สัมภาษณ์ของคู่บ่าวสาวบนเวที เป็นอีกวิธีจะได้แสดงความรักที่มีต่อกัน ให้คนอื่นได้รับรู้ เช่น รู้จักกันได้อย่างไร ประทับใจอะไรในกันและกัน ขอแต่งงานกันอย่าง และคำถามสำคัญคือทั้งคู่มีอะไรที่ต้องการจะบอกกันในค่ำคืนสำคัญคืนนี้บ้าง สำหรับคำถามข้อนี้ถ้าตอบดี ๆ ต้องมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดน้ำตาคลอเบ้ากันอย่างแน่นอน กรณีที่เจ้าบ่าว-เจ้าสาวมีอะไรเซอร์ไพรส์มอบให้แก่กัน พิธีกรก็จะใช้เวลาหลังกล่าวจบนี่แหละแสดงต่อกัน จากนั้นพิธีกรจะเชิญให้คู่บ่าว-สาว กล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน


พิธีการขั้นตอนสุดท้าย จะเป็นการจุดเทียนซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มชีวิตคู่ที่สดใส เจริญรุ่งเรือง จากนั้นก็จะเป็นการตัดเค้ก พิธีกรจะเชิญคู่บ่าว-สาวร่วมกันจุดเทียนมงคล และตัดเค้ก คู่บ่าว-สาวเดินคู่กันไปที่ซุ้มเค้ก ผู้ควบคุมเสียง หรือนักดนตรีบรรเลงเพลงคลอ คู่บ่าว-สาวจุดเทียน และตัดเค้ก แล้วนำไปเพื่อมอบให้แก่ท่านประธานในพิธี คุณพ่อคุณแม่ของทั้งคู่ และผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ส่วนแขกอื่น ๆ ทางเจ้าหน้าที่จัดเลี้ยง จะช่วยจัดการนำไปเสิร์ฟให้เอง

ในกรณีที่มีกิจกรรมพิเศษอื่น ๆ เช่น มีเกมส์มอบรางวัลของที่ระลึก หรือมีแขกท่านใดต้องการร้องเพลงให้คู่บ่าว-สาว พิธีกรก็จะดำเนินรายการในช่วงนี้ และแขกท่านอื่น ๆ ก็จะเริ่มทยอยกันกลับ เป็นอันจบพิธีการช่วงงานเลี้ยง
เพียงเท่านี้งานวิวาห์สุดหรูที่คุณอุตสาห์เฝ้าตระเตรียมมาเป็นเวลาแรมเดือน ก็ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยสมบูรณ์แบบ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

มกราคม-กุมภาพันธ์ 2554 ISSUE 45