‘อัญจารี’ รุกคืบแต่งหมู่เพศที่3หวังสังคมรับ (ไทยโพสต์)
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
กลุ่มหญิงรักหญิง "อัญจารี" เผยเตรียมจัดงานสมรสหมู่ของทอม-ดี้ 10 คู่ หวังให้สังคมรับรู้เข้าใจสิทธิ์ของเพศที่สาม พร้อมเรียกร้องกฎหมายสมรสในกลุ่มหลากหลายทางเพศ เพื่อสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน
เมื่อวันที่ 17 กันยายน น.ส.สุพีชา เบาทรัพย์ ผู้จัดการโครงการจัดตั้งมูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ (For So-Gi) ให้สัมภาษณ์ถึงวัตถุประสงค์การจัดตั้งมูลนิธิว่า ต้องการผลักดันให้สังคมเกิดการยอมรับในเรื่องความหลากหลายทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นกะเทย เกย์ ทอม เลสเบียน ไบเซ็กชวล ว่าอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างไม่เกิดความเดือดร้อน ทางมูลนิธิและองค์กรอิสระหลายกลุ่มร่วมมือกันเพื่อผลักดันให้เกิดกฎหมายรองรับการสมรสของกลุ่มเพศที่สาม โดยมีการจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นการแสดงถึงสิทธิอันเท่าเทียมกันของมนุษย์ทุกคน
น.ส.สุพีชากล่าวว่า วัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อการผลักดันให้เกิดกฎหมายรับรองการจดทะเบียนสถานภาพของคู่ชีวิตของกลุ่มความหลากหลายทางเพศให้เหมือนเพศปกติ โดยร่วมกับภาคประชาชนในการผลักดันให้เกิดพระราชบัญญัติฉบับภาคประชาชน เพื่อส่งเสริมความเสมอภาคของผู้มีอัตลักษณ์ทางเพศให้เท่าเทียมกับทุก ๆ คนในสังคม
"ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการวิจัย โดยทำแบบสอบถามจำนวนหนึ่ง 1,000 ชุด ไปยังกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศเพื่อรับทราบข้อมูลพื้นฐานที่แท้จริง และเป็นหลักฐานอ้างอิงเพื่อเรียกร้องให้เกิดกฎหมายเพื่อกลุ่มคนเหล่านี้" น.ส.สุพีชากล่าว
น.ส.อัญชนา สุวรรณานนท์ ประธานกลุ่มหญิงรักหญิง "อัญจารี" กล่าวว่า ได้เตรียมจัดงานวันมหัศจรรย์แห่งรัก ซึ่งเป็นงานสมรสหมู่ของกลุ่มหญิงรักหญิงในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ปีหน้า เพื่อเป็นการประกาศให้สังคมรับรู้ถึงวิถีชีวิตของเหล่าหญิงรักหญิงว่ามีอยู่จริงในสังคม กิจกรรมนี้จะคัดเลือกคู่สมรส 10 คู่ จากที่ติดต่อมาแล้ว 50 คู่ โดยคัดเลือกจากคุณสมบัติหลายอย่าง อาทิ ความต้องการในการมีชีวิตคู่ด้วยกัน ไม่ใช่ถูกบีบบังคับจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด โดยมีกิจกรรมให้ความรู้ในการเข้าใจชีวิตคู่ การทำพินัยกรรมหรือธุรกรรมต่าง ๆ ร่วมกันที่ถูกต้องตามกฎหมาย
"จะผลักดันและส่งเสริมทำให้กลุ่มหญิงรักหญิงเป็นที่ยอมรับในสังคม ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวเอง ซึ่งจะได้ทำความเข้าใจกับกลุ่มคนเหล่านี้ และสังคมให้เกิดความเข้าใจและยอมรับ เพื่อกลุ่มทอม-ดี้ได้อยู่ร่วมสังคมแบบไม่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ เหมือนแต่ก่อน เป็นการเคารพในศักดิ์ศรีซึ่งกันและกัน อีกทั้งหลายประเทศในยุโรปและอเมริกามีกฎหมายยอมรับการแต่งงานของกลุ่มรักร่วมเพศแล้ว เห็นได้ว่าเป็นการเคารพสิทธิมนุษยชน ในอาเซียนเอง ประเทศเวียดนามก็กำลังผลักดันให้เกิดกฎหมายนี้ คาดว่าจะบรรลุผลในปลายปีนี้ หากประเทศไทยมีการผลักดันและยอมรับจากภาครัฐ ก็จะเป็นประเทศที่สองในอาเซียนที่มีกฎหมายเพื่อกลุ่มรักร่วมเพศ" น.ส.อัญชนา กล่าว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
