
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก weddingwire.com
วันนี้กระปุกเวดดิ้งเอาใจหนุ่มสาวที่กำลังจะลั่นระฆังวิวาห์ แต่กลับยังไม่ได้วางแผนเตรียมดอกไม้สำหรับจัดในงานแต่ง ด้วยการแนะวิธีจัดดอกไม้เองที่บ้านง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เนื่องจากดอกไม้ในงานแต่งงานเปรียบได้กับเครื่องประดับชิ้นสวยภายในงาน ที่เจ้าภาพจะจัดเตรียมไว้ต้อนรับเพื่อสร้างความประทับใจให้กับแขกที่มาร่วมงาน และยังเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยทำให้ความทรงจำที่เก็บไว้ในภาพถ่ายงดงาม
โดยนักจัดดอกไม้เห็นว่าการจัดดอกไม้ในงานแต่งงานนั้น ไม่ได้ยึดถือเรื่องเทรนด์เป็นสำคัญ แต่ขึ้นอยู่กับฤดูกาลของดอกไม้และความชอบของคู่บ่าวสาวมากกว่า และปัจจุบันจะต้องเน้นถึงความประหยัดแต่สวยงามเป็นสำคัญ การจัดดอกไม้เองในงานแต่งงงานก็ถือเป็นอีกหนึ่งอย่างที่เราสามารถทำได้เองง่าย ๆ ถ้าอย่างนั้นเราไปดูขั้นตอนกันเลยค่ะ ^^
.gif)












1. การจัดดอกไม้เลียนแบบธรรมชาติ เป็นการจัดดอกไม้แบบง่าย ๆ เพื่อประดับตกแต่งบ้าน โดยอาศัยความเจริญเติบโตของต้นไม้ ดอกไม้ กิ่งไม้ นำมาจัดลงภาชนะ โดยใช้กิ่งไม้ขนาดต่าง ๆ 3 กิ่ง การจัดดอกไม้แบบนี้นิยมนำหลักการจัดดอกไม้จากประเทศญี่ปุ่นมาประยุกต์
2. การจัดดอกไม้แบบสากล นิยมจัด 7 รูปแบบ คือ รูปทรงแนวดิ่ง ทรงกลม ทรงสามเหลี่ยมมุมฉาก ทรงสามเหลี่ยมด้านเท่า ทรงพระจันทร์คว่ำ ทรงพระจันทร์เสี้ยว ทรงตัวเอส
3. การจัดดอกไม้แบบสมัยใหม่ เป็นการจัดดอกไม้ที่มีรูปแบบอิสระ เน้นความหมายของรูปแบบ บางครั้งไม่จำเป็นต้องใช้ดอกไม้แต่อาจใช้วัสดุหรือภาชนะเป็นจุดเด่น เป็นการสร้างความรู้สึกให้ผู้พบเห็น การจัดดอกไม้แบบนี้ยังอาศัยหลักเกณฑ์ สัดส่วนและความสมดุลด้วยค่ะ

1. โทปิอารี (Topiary) เป็นศิลปะการตกแต่งไม้พุ่มให้เป็นรูปทรงต่าง ๆ โดยเฉพาะรูปทรงเรขาคณิต เช่น รูปทรงกลม รูปสามเหลี่ยมหรือรูปสี่เหลี่ยม รวมทั้งการตกแต่งให้เป็นรูปคน สัตว์ หรือสิ่งของต่าง ๆ ซึ่งศิลปะการตกแต่งดังกล่าวนี้เป็นที่นิยมตั้งแต่ยุคโบราณจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ โดยโทปิอารีที่จัดง่ายที่สุด คือ รูปทรงกลม และดอกไม้ที่จัดโทปิอารีได้สวยที่สุดก็คือ ดอกกุหลาบนั่นเองค่ะ
2. การจัดดอกไม้รวม โดยการจัดดอกไม้รวมให้ออกมาดี คือ ดอกไม้แต่ละแบบต้องส่งเสริมซึ่งกันและกัน และการส่งเสริมกันนี้จะทำให้ความงามของดอกไม้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
3. การจัดดอกไม้สีโทนร้อน ซึ่งสีโทนร้อน ได้แก่ สีแดง สีส้มหรือสีแสด สีเหลือง สีม่วง เป็นต้น สีโทนร้อนเป็นสีที่แสดงถึงพลัง ความบ้าคลั่ง ความตื่นเต้นเร้าใจ การเย้ายวน ความกระฉับกระเฉง และไม่พ่ายแพ้ง่าย ๆ ถ้าคุณจะจัดดอกไม้โทนร้อนในบ้าน ควรเลือกมุมที่แสงแดดส่องถึง การจัดลำดับสีโทนร้อนนั้นจะเป็นการจัดดอกไม้ที่มีความหลากหลาย ซึ่งทำให้มีความคิดสร้างสรรค์แบบไม่จำกัดมากขึ้นค่ะ
4. การจัดดอกไม้สีโทนอ่อน สีโทนอ่อนเป็นสีเย็นตา เช่น สีขาว ดอกไม้สีขาวเป็นทางเลือกคลาสสิก ความงามตามธรรมชาติของดอกไม้ สีอ่อนทำให้ดูดีขึ้นได้ด้วยการเลือกใบอย่างชาญฉลาด ภาชนะที่ใส่ถ้าเป็นดอกสีขาวอาจจะเลือกให้อยู่ในโทนเดียวกันก็ได้ จะให้ความงามที่สบายตาและดูมีรสนิยม ด้วยค่ะ
5. การจัดดอกไม้ขนาดใหญ่ ต้องการภาชนะที่ใหญ่และหนัก ภาชนะที่ใช้อาจจะเป็นแจกันขนาดใหญ่ โอ่งขนาดเล็กหรือกลาง หรือง่าย ๆ ถังสีที่คุณใช้แล้ว ทำความสะอาดสักหน่อยก็จะให้ความสวยที่ไม่แพ้กับแจกันราคาแพง ยิ่งเป็นการจัดดอกไม้ใหญ่เท่าไร ความสำคัญของภาชนะก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นค่ะ
6. การจัดดอกไม้แบบสมัยใหม่ ได้รับอิทธิพลมาจากญี่ปุ่น โดยมีอิทธิพลของจิตรกรเป็นส่วนประกอบด้วย เพราะลักษณะรูปแบบในการจัดดอกไม้ตามแบบสมัยใหม่ มีทีท่าส่อไปในรูปแบบที่คำนึงถึงความง่าย ความสะดวก เช่นเดียวกับการจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่น ไม่พิถีพิถันในการเลือกสรรวัสดุการจัดและอุปกรณ์แต่อย่างใด หากแต่ว่าได้เน้นหนักไปในทางที่จะต้องทำให้ได้ส่วนสัมพันธ์และรับกันกับแบบของเครื่องเรือน หรือลักษณะและรูปแบบของห้องที่นำมันไปประดับ
การจัดดอกไม้สมัยใหม่ แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ
1. แบบโมเดิร์น หรือแบบทันสมัย
2. แบบแอ็บสแตร็กส์ หรือแบบคำนึงถึงสัญลักษณ์มากกว่าความสมจริง
3. แบบแฟนซี หรือแบบที่ดูแปลก ๆ พิสดาร
วิธีการและรูปแบบการจัดดอกไม้แบบสมัยใหม่นั้น ส่วนใหญ่ไม่ได้แตกต่างกัน เพราะหลักการสำคัญที่ยึดถืออยู่ ก็คือ เส้นหรือแนวนั่นเอง ซึ่งเป็นการจัดแบบเดียวกันแต่แยกประเภทเพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนค่ะ
เป็นยังไงบ้างค่ะกับข้อมูลการจัดดอกไม้ในงานแต่งงานด้วยตัวเองที่เราเอามานำเสนอกัน ทั้งประหยัด และตรงตามที่เราต้องการเลยค่ะงานนี้






