แนะนำการวางแผนสเต็ปต่าง ๆ ของงานแต่งงานแบบขั้นเทพ เพื่อขจัดปัญหาวุ่นวายในงานแต่งงานให้หมดไป
ช่วง 12-18 เดือนก่อนถึงวันงาน
- พาญาติผู้ใหญ่มาทาบทามสู่ขอ รวมถึงตกลงกันเรื่องสินสอด พูดคุยกันเกี่ยวกับพิธีแต่งงานในเบื้องต้นคร่าว ๆ ว่าจะช่วยกันเตรียมงานอย่างไรดี
- ไปดูฤกษ์แต่งงานพร้อมกำหนดวันแต่งงาน
- ปรึกษากันว่าจะใช้วิธีอะไรในการจัดเก็บข้อมูลเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับงานแต่งงาน เช่น เวดดิ้งแพลนเนอร์ เช็กลิสต์
- กำหนดงบประมาณที่จะใช้สำหรับงานให้ชัดเจน โดยรวมเงินสินสอดที่ต้องมอบให้กับฝ่ายเจ้าสาวด้วย
- ทำความเข้าใจกันก่อนว่างบประมาณทั้งหมดนั้นจะใช้ในแต่ละเรื่องเท่าไหร่
- เปิดบัญชีร่วมกันขึ้นมาใหม่ เพื่อใช้สำหรับเก็บและจ่ายในเรื่องงานแต่งทั้งหมด
- เลือกเพื่อนเจ้าบ่าว-สาว รวมถึงระบุหน้าที่ของพวกเขาไปเลยให้ชัดเจน
- จ้างผู้ให้บริการอาหาร (หลังจากได้ลิ้มลองรสชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว)
- ช่วยกันพิจารณาว่ามีอะไรบ้างที่ต้องเช่า เช่น เต็นท์ สำหรับงานแต่งเอาท์ดอร์, อุปกรณ์ตกแต่งงานต่าง ๆ
ช่วง 9-12 เดือนก่อนถึงวันงาน
- พิจารณาว่าจะติดต่อจ้างตากล้องถ่ายรูป/วิดีโอที่ไหน อย่างไร
- เลือกเพลงสำหรับเปิดในงานพิธีวิวาห์
- เตรียมซื้อ/เช่าชุดแต่งงาน
- แจ้งให้คุณแม่รับทราบเกี่ยวกับรายละเอียดเรื่องธีม/สีชุด เพื่อที่จะได้เลือกสีให้เข้ากับงาน
- จ้างพิธีกรมาดำเนินงานแต่งหรือบอกกล่าวเพื่อนที่สามารถเป็นพิธีกรให้ได้ เพื่อประหยัดงบประมาณ
- ตรวจดูกฎหมายแต่งงานก่อนด้วยว่ามีรายละเอียดว่าอย่างไรบ้าง
ช่วง 6-9 เดือนก่อนถึงวันงาน
- เลือกซื้อแหวนแต่งงาน
- จัดเตรียมคุยงานกับผู้ให้บริการจำหน่ายและจัดตกแต่งดอกไม้
- คู่บ่าวสาวรวมถึงเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องตกลงกันให้ดีว่าจะซื้อหรือเช่าชุด แล้วชุดแต่ละคนนั้นแมทช์กันหรือเปล่า
- กำหนดรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาหาร เครื่องดื่ม ฯลฯ รวมถึงติดต่อช่างแต่งหน้า ทำผมให้พร้อมสำหรับวันงาน
- ปรึกษากับครอบครัวเรื่องรายชื่อแขกที่จะเชิญมา
- สั่งทำการ์ดเชิญงานแต่งและพิจารณาว่าจะส่งการ์ดช่วงเวลาใดด้วย เนื่องจากการ์ดเชิญควรไปถึงมือแขกล่วงหน้าก่อนถึงวันงาน 60 วัน
- มองหาเครื่องประดับ เช่น เข็มกลัดติดบริเวณแขนเสื้อตรงข้อมือสำหรับเจ้าบ่าว รองเท้า เครื่องเพชร ฯลฯ
- พิจารณาเรื่องอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ต้องใช้ในงาน เช่น มีดตัดเค้ก เทียน สมุดเยี่ยม (Guest Book) ฯลฯ
- เลือกและสั่งเค้กแต่งงาน
- ช่วยกันวางแผนเรื่องฮันนีมูน เช่น ว่าจะไปที่ไหน ถ้าไปต่างประเทศต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง เป็นต้น และเตรียมจองที่พัก พาหนะในการเดินทาง เช่น ตั๋วเครื่องบิน
- จองห้องสำหรับคืนวันแต่งงาน
ช่วง 3-6 เดือนก่อนถึงวันงาน
- จัดเตรียมจัดหา/จองพาหนะที่ต้องใช้เดินทางในวันงานแต่ง
- ตัดสินใจว่าจะเลือกอะไรเป็นของชำร่วยสำหรับแขก
ช่วง 2 เดือนก่อนถึงวันงาน
- ส่งการ์ดเชิญให้แขกทั้งหมด
- เตรียมสคริปต์สำหรับพูดกล่าวขอบคุณในงานพิธี รวมถึงฝึกฝนการพูดให้คล่องด้วย
- เตรียมจัดหาพิธีกรมาดำเนินงานในพิธี ถ้าหากจ้างพิธีกรมืออาชีพก็ควรซักซ้อมเกี่ยวกับลำดับขั้นตอนของพิธีในงาน เพื่อให้สามารถดำเนินไปอย่างไม่ติดขัด หรือถ้าจะให้เพื่อนช่วยทำหน้าที่นี้ให้ ก็ลองนัดแนะเกี่ยวกับลำดับขั้นตอนให้เขาทราบเสียก่อน
- หาของขวัญชิ้นพิเศษให้กับเพื่อนและครอบครัว เพื่อแทนคำขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือในการเตรียมงาน
- เตรียมรายชื่อเพลงที่ต้องการให้เปิดในงาน และเพลงแรกควรเป็นเพลงสนุก ๆ ก่อนเพื่อให้งานเริ่มต้นด้วยความครึกครื้น
- ตัดสินใจว่าจะสวมชุดแต่งงานออกมาเลยหรือว่าจะเอามาเปลี่ยนที่งาน จะได้เตรียมหาสถานที่สำหรับเปลี่ยนชุด และเก็บของสิ่งให้เรียบร้อย
- เตรียมจองคอร์สสำหรับบำรุงผิวพรรณและเส้นผมช่วงก่อนวันแต่งสัก 2-3 วัน ให้เปล่งประกายต้อนรับวันวิวาห์
ช่วง 1 เดือนก่อนถึงวันงาน
- ตรวจสอบแพ็กเกจฮันนีมูนว่าตรงตามที่จองไว้หรือไม่
- เตรียมแผนผังที่นั่งสำหรับแขกให้เสร็จสมบูรณ์ ระบุตำแหน่งที่นั่งให้เรียบร้อยว่าใครนั่งตรงไหน
- ไปลองชุดแต่งงานอีกครั้ง เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยเป็นครั้งสุดท้าย
- ถ้านำชุดแต่งงานมาเปลี่ยนต้องหาห้องสำหรับเปลี่ยนให้เรียบร้อย
- เช็กเรื่องที่จอดรถด้วยว่าเพียงพอสำหรับจำนวนแขกหรือไม่
- โทรศัพท์ไปยืนยันกับผู้ให้บริการต่าง ๆ เช่น รถเช่า อาหาร เครื่องดื่ม สถานที่จัดงาน จัดดอกไม้ ตากล้อง พิธีกร ฯลฯ รวมถึงสอบถามรายละเอียดว่าทุกอย่างที่ดำเนินการไปนั้นเรียบร้อยดีหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบทุก ๆ เรื่องที่จัดการไปทั้งหมดอีกครั้งว่าเรียบร้อยดีหรือเปล่า
ช่วง 1 อาทิตย์ก่อนถึงวันงาน
- ส่งตารางเวลาที่ระบุเวลา และขั้นตอนในวันพิธีให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดงาน
- ตรวจสอบรายชื่อแขกที่ตอบรับคำเชิญว่าจะมาร่วมงานอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจว่าไม่ได้ตกหล่นใครไป
- จัดการสั่งอาหารและเครื่องดื่มเลย
- ไปร้านเสริมสวย สปา หรือคลินิกความงามที่ได้จองคอร์สบำรุงผิวพรรณและเส้นผมเอาไว้
- รวบรวมสิ่งที่จำเป็นหรือสิ่งของมีค่าไว้ในกระเป๋าใบเดียว แล้วฝากเอาไว้กับคนที่ไว้ใจได้
- ส่งแผนที่ระบุตำแหน่งที่นั่งของแขกให้กับผู้ให้บริการจัดการเรื่องอาหาร
- เตรียมเก็บสิ่งของ เสื้อผ้า สำหรับไปฮันนีมูน รวมถึงเช็กข้าวของให้ครบถ้วนอีกครั้งด้วย
- เตรียมซองสำหรับใส่เงินค่าใช้จ่าย และมอบให้กับเพื่อนเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวเพื่อนำไปจ่าย
- ถ้าตัดสินใจว่าจะนำชุดแต่งงานไปเปลี่ยน ก็ให้เตรียมกระเป๋าสำหรับเก็บเสื้อผ้าด้วย
- ซักซ้อมพิธีแต่งงานให้เป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ ทบทวนบทบาทหน้าที่ของเพื่อนเจ้าบ่าว-สาวและพิธีกรให้ชัดเจน
แล้วก็เดินทางมาถึงวันแต่งงานสักที
- ห้ามตื่นสายเป็นอันขาด เตรียมตั้งนาฬิกาปลุกให้ดีเลยทีเดียว
- แต่งหน้า ทำผมให้เรียบร้อย
- เช็กสิ่งของสำคัญ เช่น แหวนแต่งงาน สินสอด ใบทะเทียบสมรส ตารางเดินทางสำหรับฮันนีมูน กุญแจบ้าน กุญแจรถ ฯลฯ
- ให้เลือกใช้เจลอาบน้ำ โลชั่น และน้ำหอมที่อยู่ในเซตเดียวกัน เพราะจะมีกลิ่นที่เหมือนกัน ถ้าหากใช้กลิ่นที่ต่างกันแล้ว อาจทำให้กลิ่นของแต่ละผลิตภัณฑ์ตีกันได้
- ในวันฉลองอันแสนพิเศษนี้ ถ้าต้องการดื่มก็ควรจะดื่มอย่างมีสติตลอดจนงานเลิกด้วยนะ
- ทำตัวสบาย ๆ ผ่อนคลาย ไม่ต้องไปกังวลว่าจะเกิดความไม่เรียบร้อยถึงในงาน ให้เชื่อใจเพื่อน ๆ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดงานว่าพวกเขาสามารถแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้
- อย่าลืมดูแลรักษาความสะอาดในช่องปากด้วย เพราะคุณอาจจะต้องจูบแสดงความรักกันในงานแต่ง
- ยิ้มแย้มและสนุกไปกับงานวันสำคัญของพวกคุณกันนะคะ ไม่ต้องกลัวว่างานจะออกมาไม่สมบูรณ์ เพราะว่าวันนี้เป็นวันที่ผองเพื่อนและครอบครัวมารวมตัวกันแสดงความยินดีกับพวกคุณทั้งที จะกังวลอะไรอีกล่ะ จริงไหมจ๊ะ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีการเตรียมงานแต่งขั้นเทพที่เรานำมาฝาก เป็นการแบ่งระยะเวลาว่าตอนไหนต้องจัดการเรื่องอะไรบ้าง เพื่อที่งานแต่งของคุณจะได้ออกมาสมบูรณ์แบบและครบถ้วนมากที่สุดค่ะ อย่างไรก็ตามลองนำไปปรับใช้กันดูตามความเหมาะสมกันนะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
2forcouples.com
การเตรียมงานแต่งงานนั้น
ใคร ๆ ก็รู้ว่ายุ่งวุ่นวายมากที่สุด เพราะมีหลายเรื่องต้องจัดเตรียม
ทั้งสถานที่ ชุดแต่งงาน ของชำร่วย การ์ดแต่งงาน ฯลฯ
ถ้าขาดการวางแผนอย่างมีประสิทธิภาพแล้วจะก่อให้เกิดปัญหา
ความวุ่นวายตามมาเป็นแน่ ดังนั้น
กระปุกเวดดิ้งจึงนำขั้นตอนการเตรียมงานแต่งขั้นเทพมาฝากคู่รักที่กำลังเตรียมตัวจูงมือเข้าพิธีแต่งงานจ้า
ช่วง 12-18 เดือนก่อนถึงวันงาน
- พาญาติผู้ใหญ่มาทาบทามสู่ขอ รวมถึงตกลงกันเรื่องสินสอด พูดคุยกันเกี่ยวกับพิธีแต่งงานในเบื้องต้นคร่าว ๆ ว่าจะช่วยกันเตรียมงานอย่างไรดี
- ไปดูฤกษ์แต่งงานพร้อมกำหนดวันแต่งงาน
- ปรึกษากันว่าจะใช้วิธีอะไรในการจัดเก็บข้อมูลเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับงานแต่งงาน เช่น เวดดิ้งแพลนเนอร์ เช็กลิสต์
- กำหนดงบประมาณที่จะใช้สำหรับงานให้ชัดเจน โดยรวมเงินสินสอดที่ต้องมอบให้กับฝ่ายเจ้าสาวด้วย
- ทำความเข้าใจกันก่อนว่างบประมาณทั้งหมดนั้นจะใช้ในแต่ละเรื่องเท่าไหร่
- เปิดบัญชีร่วมกันขึ้นมาใหม่ เพื่อใช้สำหรับเก็บและจ่ายในเรื่องงานแต่งทั้งหมด
- เลือกเพื่อนเจ้าบ่าว-สาว รวมถึงระบุหน้าที่ของพวกเขาไปเลยให้ชัดเจน
- จ้างผู้ให้บริการอาหาร (หลังจากได้ลิ้มลองรสชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว)
- ช่วยกันพิจารณาว่ามีอะไรบ้างที่ต้องเช่า เช่น เต็นท์ สำหรับงานแต่งเอาท์ดอร์, อุปกรณ์ตกแต่งงานต่าง ๆ
ช่วง 9-12 เดือนก่อนถึงวันงาน
- พิจารณาว่าจะติดต่อจ้างตากล้องถ่ายรูป/วิดีโอที่ไหน อย่างไร
- เลือกเพลงสำหรับเปิดในงานพิธีวิวาห์
- เตรียมซื้อ/เช่าชุดแต่งงาน
- แจ้งให้คุณแม่รับทราบเกี่ยวกับรายละเอียดเรื่องธีม/สีชุด เพื่อที่จะได้เลือกสีให้เข้ากับงาน
- จ้างพิธีกรมาดำเนินงานแต่งหรือบอกกล่าวเพื่อนที่สามารถเป็นพิธีกรให้ได้ เพื่อประหยัดงบประมาณ
- ตรวจดูกฎหมายแต่งงานก่อนด้วยว่ามีรายละเอียดว่าอย่างไรบ้าง
ช่วง 6-9 เดือนก่อนถึงวันงาน
- เลือกซื้อแหวนแต่งงาน
- จัดเตรียมคุยงานกับผู้ให้บริการจำหน่ายและจัดตกแต่งดอกไม้
- คู่บ่าวสาวรวมถึงเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องตกลงกันให้ดีว่าจะซื้อหรือเช่าชุด แล้วชุดแต่ละคนนั้นแมทช์กันหรือเปล่า
- กำหนดรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาหาร เครื่องดื่ม ฯลฯ รวมถึงติดต่อช่างแต่งหน้า ทำผมให้พร้อมสำหรับวันงาน
- ปรึกษากับครอบครัวเรื่องรายชื่อแขกที่จะเชิญมา
- สั่งทำการ์ดเชิญงานแต่งและพิจารณาว่าจะส่งการ์ดช่วงเวลาใดด้วย เนื่องจากการ์ดเชิญควรไปถึงมือแขกล่วงหน้าก่อนถึงวันงาน 60 วัน
- มองหาเครื่องประดับ เช่น เข็มกลัดติดบริเวณแขนเสื้อตรงข้อมือสำหรับเจ้าบ่าว รองเท้า เครื่องเพชร ฯลฯ
- พิจารณาเรื่องอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ต้องใช้ในงาน เช่น มีดตัดเค้ก เทียน สมุดเยี่ยม (Guest Book) ฯลฯ
- เลือกและสั่งเค้กแต่งงาน
- ช่วยกันวางแผนเรื่องฮันนีมูน เช่น ว่าจะไปที่ไหน ถ้าไปต่างประเทศต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง เป็นต้น และเตรียมจองที่พัก พาหนะในการเดินทาง เช่น ตั๋วเครื่องบิน
- จองห้องสำหรับคืนวันแต่งงาน
ช่วง 3-6 เดือนก่อนถึงวันงาน
- จัดเตรียมจัดหา/จองพาหนะที่ต้องใช้เดินทางในวันงานแต่ง
- ตัดสินใจว่าจะเลือกอะไรเป็นของชำร่วยสำหรับแขก
ช่วง 2 เดือนก่อนถึงวันงาน
- ส่งการ์ดเชิญให้แขกทั้งหมด
- เตรียมสคริปต์สำหรับพูดกล่าวขอบคุณในงานพิธี รวมถึงฝึกฝนการพูดให้คล่องด้วย
- เตรียมจัดหาพิธีกรมาดำเนินงานในพิธี ถ้าหากจ้างพิธีกรมืออาชีพก็ควรซักซ้อมเกี่ยวกับลำดับขั้นตอนของพิธีในงาน เพื่อให้สามารถดำเนินไปอย่างไม่ติดขัด หรือถ้าจะให้เพื่อนช่วยทำหน้าที่นี้ให้ ก็ลองนัดแนะเกี่ยวกับลำดับขั้นตอนให้เขาทราบเสียก่อน
- หาของขวัญชิ้นพิเศษให้กับเพื่อนและครอบครัว เพื่อแทนคำขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือในการเตรียมงาน
- เตรียมรายชื่อเพลงที่ต้องการให้เปิดในงาน และเพลงแรกควรเป็นเพลงสนุก ๆ ก่อนเพื่อให้งานเริ่มต้นด้วยความครึกครื้น
- ตัดสินใจว่าจะสวมชุดแต่งงานออกมาเลยหรือว่าจะเอามาเปลี่ยนที่งาน จะได้เตรียมหาสถานที่สำหรับเปลี่ยนชุด และเก็บของสิ่งให้เรียบร้อย
- เตรียมจองคอร์สสำหรับบำรุงผิวพรรณและเส้นผมช่วงก่อนวันแต่งสัก 2-3 วัน ให้เปล่งประกายต้อนรับวันวิวาห์
- ตรวจสอบแพ็กเกจฮันนีมูนว่าตรงตามที่จองไว้หรือไม่
- เตรียมแผนผังที่นั่งสำหรับแขกให้เสร็จสมบูรณ์ ระบุตำแหน่งที่นั่งให้เรียบร้อยว่าใครนั่งตรงไหน
- ไปลองชุดแต่งงานอีกครั้ง เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยเป็นครั้งสุดท้าย
- ถ้านำชุดแต่งงานมาเปลี่ยนต้องหาห้องสำหรับเปลี่ยนให้เรียบร้อย
- เช็กเรื่องที่จอดรถด้วยว่าเพียงพอสำหรับจำนวนแขกหรือไม่
- โทรศัพท์ไปยืนยันกับผู้ให้บริการต่าง ๆ เช่น รถเช่า อาหาร เครื่องดื่ม สถานที่จัดงาน จัดดอกไม้ ตากล้อง พิธีกร ฯลฯ รวมถึงสอบถามรายละเอียดว่าทุกอย่างที่ดำเนินการไปนั้นเรียบร้อยดีหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบทุก ๆ เรื่องที่จัดการไปทั้งหมดอีกครั้งว่าเรียบร้อยดีหรือเปล่า
ช่วง 1 อาทิตย์ก่อนถึงวันงาน
- ส่งตารางเวลาที่ระบุเวลา และขั้นตอนในวันพิธีให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดงาน
- ตรวจสอบรายชื่อแขกที่ตอบรับคำเชิญว่าจะมาร่วมงานอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจว่าไม่ได้ตกหล่นใครไป
- จัดการสั่งอาหารและเครื่องดื่มเลย
- ไปร้านเสริมสวย สปา หรือคลินิกความงามที่ได้จองคอร์สบำรุงผิวพรรณและเส้นผมเอาไว้
- รวบรวมสิ่งที่จำเป็นหรือสิ่งของมีค่าไว้ในกระเป๋าใบเดียว แล้วฝากเอาไว้กับคนที่ไว้ใจได้
- ส่งแผนที่ระบุตำแหน่งที่นั่งของแขกให้กับผู้ให้บริการจัดการเรื่องอาหาร
- เตรียมเก็บสิ่งของ เสื้อผ้า สำหรับไปฮันนีมูน รวมถึงเช็กข้าวของให้ครบถ้วนอีกครั้งด้วย
- เตรียมซองสำหรับใส่เงินค่าใช้จ่าย และมอบให้กับเพื่อนเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวเพื่อนำไปจ่าย
- ถ้าตัดสินใจว่าจะนำชุดแต่งงานไปเปลี่ยน ก็ให้เตรียมกระเป๋าสำหรับเก็บเสื้อผ้าด้วย
- ซักซ้อมพิธีแต่งงานให้เป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ ทบทวนบทบาทหน้าที่ของเพื่อนเจ้าบ่าว-สาวและพิธีกรให้ชัดเจน
แล้วก็เดินทางมาถึงวันแต่งงานสักที
- ห้ามตื่นสายเป็นอันขาด เตรียมตั้งนาฬิกาปลุกให้ดีเลยทีเดียว
- แต่งหน้า ทำผมให้เรียบร้อย
- เช็กสิ่งของสำคัญ เช่น แหวนแต่งงาน สินสอด ใบทะเทียบสมรส ตารางเดินทางสำหรับฮันนีมูน กุญแจบ้าน กุญแจรถ ฯลฯ
- ให้เลือกใช้เจลอาบน้ำ โลชั่น และน้ำหอมที่อยู่ในเซตเดียวกัน เพราะจะมีกลิ่นที่เหมือนกัน ถ้าหากใช้กลิ่นที่ต่างกันแล้ว อาจทำให้กลิ่นของแต่ละผลิตภัณฑ์ตีกันได้
- ในวันฉลองอันแสนพิเศษนี้ ถ้าต้องการดื่มก็ควรจะดื่มอย่างมีสติตลอดจนงานเลิกด้วยนะ
- ทำตัวสบาย ๆ ผ่อนคลาย ไม่ต้องไปกังวลว่าจะเกิดความไม่เรียบร้อยถึงในงาน ให้เชื่อใจเพื่อน ๆ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดงานว่าพวกเขาสามารถแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้
- อย่าลืมดูแลรักษาความสะอาดในช่องปากด้วย เพราะคุณอาจจะต้องจูบแสดงความรักกันในงานแต่ง
- ยิ้มแย้มและสนุกไปกับงานวันสำคัญของพวกคุณกันนะคะ ไม่ต้องกลัวว่างานจะออกมาไม่สมบูรณ์ เพราะว่าวันนี้เป็นวันที่ผองเพื่อนและครอบครัวมารวมตัวกันแสดงความยินดีกับพวกคุณทั้งที จะกังวลอะไรอีกล่ะ จริงไหมจ๊ะ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีการเตรียมงานแต่งขั้นเทพที่เรานำมาฝาก เป็นการแบ่งระยะเวลาว่าตอนไหนต้องจัดการเรื่องอะไรบ้าง เพื่อที่งานแต่งของคุณจะได้ออกมาสมบูรณ์แบบและครบถ้วนมากที่สุดค่ะ อย่างไรก็ตามลองนำไปปรับใช้กันดูตามความเหมาะสมกันนะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
2forcouples.com