อย่าคิดว่าคุณจะจัดการทั้งหมดทุกสิ่งได้ด้วยตัวคนเดียว เพราะอย่าลืมว่าคุณก็ยังมีงานประจำที่ต้องทำอยู่ หากเป็นไปได้ลองมองหาคนมาช่วยรับโทรศัพท์หรือส่งข้อความแทนคุณก็จะช่วยให้อะไรต่อมิอะไรมันง่ายกว่า และสามารถจัดการเรื่องได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น โดยให้พวกเขาคอยรับเรื่องต่าง ๆ เอาไว้ ส่วนเรื่องไหนที่เป็นเรื่องใหญ่ต้องให้คุณตัดสินใจเองจริง ๆ ก็ค่อยให้คุณเป็นคนคุยกับคนรับผิดชอบในหน้าที่นั้น ๆ อีกที
2. เตรียมชุดปฐมพยาบาล
อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาไม่เว้นแม้แต่วันแต่งงาน ดังนั้นคุณจึงควรเตรียมตัวให้พร้อมเสมอสำหรับรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเช่นนี้ โดยการเตรียมชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นเอาไว้ใกล้มือ ซึ่งชุดปฐมพยาบาลที่ว่านี้ไม่ใช่แค่เครื่องมือทำแผลเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ ที่คุณและเหล่าเพื่อนเจ้าสาวอาจต้องใช้ในงานแต่งงานอีกด้วย เช่น เครื่องมือสำหรับแก้ไขเสื้อผ้า ลูกอม หรือเครื่องสำอาง เป็นต้น
3. ลองชุดแต่งงาน
อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอจนกระทั่งนาทีสุดท้ายก่อนเข้าพิธีแต่งงาน หากเป็นไปได้คุณจึงควรใส่เวลาสำหรับลองชุดแต่งงานเข้าไปในตารางนัดวันสุดท้ายก่อนถึงวันแต่งงานด้วย เพื่อเป็นการตรวจเช็กขนาดของชุดแต่งงานขั้นสุดท้ายว่ามีอะไรต้องแก้ไขอีกหรือไม่ อีกทั้งยังเป็นขั้นตอนที่มีประโยชน์กับเจ้าสาวที่มีโปรแกรมลดน้ำหนักก่อนถึงงานแต่งงาน
4. เช็กรองเท้าให้พร้อม
ก่อนถึงวันแต่งงานคุณควรเตรียมรองเท้าเอาไว้ให้พร้อม โดยรองเท้าที่ว่านี้ไม่ใช่แค่รองเท้าที่เอาไว้ใส่กับชุดแต่งงานของคุณเท่านั้น แต่รวมไปถึงรองเท้าสำหรับใส่เต้นในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ด้วย เพราะในช่วงนี้คุณคงหมดสนุกแน่ ๆ หากต้องเต้นอยู่บนรองเท้าส้นสูงตลอดคืน โดยเฉพาะเจ้าสาวที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้สวมรองเท้าส้นสูงบ่อยนัก
5. ทาโลชั่นเพิ่มความชุ่มชื่น
ในตอนนี้คุณอาจจะยังไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อถึงวันแต่งงานจริงแล้วรับรองเลยว่าคุณจะต้องตื่นเต้นอย่างแน่นอน ซึ่งหลาย ๆ คนพอมีอาการแบบนี้แล้วมือของพวกเขาก็เย็น แห้ง หรือบวมขึ้นเล็กน้อย ดังนั้นหากเป็นไปได้ก่อนเข้าพิธีแต่งงานคุณควรจะนำโลชั่นมาทาลูบไล้บนมือของตัวเองสักนิด เพื่อให้เจ้าบ่าวสามารถสวมแหวนแต่งงานได้ง่ายยิ่งขึ้น
6. จัดปาร์ตี้ก่อนแต่งงาน
หลังแต่งงานไปแล้วคุณอาจไม่มีเวลามาพบปะเพื่อนฝูงเหมือนเคย เพราะต้องรับผิดชอบหน้าที่ต่าง ๆ ที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นก่อนแต่งงานก็อาจจะจัดปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อน ๆ ของคุณสักครั้ง แล้วเชิญเพื่อน ๆ ของคุณมาร่วมสนุกสนานกันให้เต็มที่ ทั้งนี้หากไม่สะดวกจัดงานก็อาจจะเปลี่ยนเป็นชวนกันไปท่องเที่ยวทริปสั้น ๆ หรือเล่นกีฬาด้วยกันก็ได้
7. พูดคุยกับช่างภาพ
ก่อนถึงวันแต่งงานก็อย่าลืมชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับรูปภาพที่คุณต้องการด้วยว่า มีแขกหรือคนกลุ่มไหนบ้างที่คุณต้องการให้ถ่ายภาพเป็นพิเศษ พร้อมกับลิสต์รายชื่อของพวกเขาให้กับช่างภาพด้วย ซึ่งวิธีนี้เป็นประโยชน์อย่างมากที่จะช่วยเตือนความจำตัวเองไปพร้อมกันด้วยว่า คุณได้ภาพถ่ายคู่กับคนและกลุ่มที่ต้องการครบถ้วนทุกคน
8. ทำการ์ดขอบคุณ
งานแต่งงานจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่ได้ความร่วมมือจากคนหลายด้านหลายฝ่าย เพราะฉะนั้นหากยังพอจะมีเวลาเหลือก็ควรจะเตรียมการ์ดขอบคุณ หรือมอบพร้อมกับของขวัญเป็นน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ เอาไว้ให้กับพวกเขาหลังเสร็จสิ้นงานแต่งงานด้วย และถ้าหากคุณต้องการหาไอเดียสำหรับทำการ์ดแต่งงานล่ะก็ ไม่อยากเลยแค่เสิร์ชจากอินเทอร์เน็ต ก็มีไอเดียปรากฏขึ้นมาเป็นร้อยแล้ว
9. พูดคุยกับแม่
อย่าลืมว่าแม่ไม่ได้เป็นเฉพาะผู้ปกครองเท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณด้วย หากคุณมีข้อสงสัยอะไรก็สามารถพุดคุยกับแม่ของคุณได้เลยทันที เชื่อว่าพวกเขาจะต้องตอบข้อสงสัยให้กับคุณได้อย่างแน่นอน อีกทั้งยังเป็นผู้ช่วยมือหนึ่งที่จะช่วยให้งานแต่งงานของคุณผ่านไปได้อย่างราบรื่นมากกว่าที่คุณคิดอีกด้วย
งานแต่งงานเป็นเรื่องที่มีรายละเอียดที่ยิบย่อยเต็มไปหมด ซึ่งบางครั้งเมื่อเทียบกับเวลาในการเตรียมตัวก็อาจจะน้อยเกินไป ดังนั้นคงจะดีกว่าหากมีวิธีลัดที่จะช่วยจัดการให้การเตรียมงานแต่งงานของคุณนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น ง่ายดาย และรวดเร็วยิ่งขึ้น อย่างเช่น 9 วิธีลัดช่วยจัดงานแต่งงานแบบเจ้าสาวคนเก่งที่เรานำมาฝากกันในวันนี้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
allwomenstalk.com และ instyle.com