แม้ว่าจะมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการแต่งหน้าอยู่แล้ว หรือรู้ดีว่าจะแต่งใบหน้าของตัวเองอย่างไรให้ออกมาดูดี แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ควรจะศึกษาวิธีการแต่งหน้าจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติม เพื่อเช็กให้แน่ใจว่าการวิธีการใช้อุปกรณ์สำหรับแต่งหน้าและเครื่องสำอางของตัวเองเป็นวิธีที่ถูกต้อง พร้อมทั้งจะได้เรียนรู้เทคนิคการแต่งหน้าแบบใหม่ควบคู่ไปพร้อมกันด้วย
2. ฝึกแต่งหน้าให้เกิดความช่ำชอง
ไม่ว่าจะมีช่างแต่งหน้าส่วนตัวอยู่แล้วหรือคิดว่าจะแต่งหน้าเอง ก็ควรจะทดลองแต่งหน้าตามแบบการแต่งหน้าที่จะใช้ก่อนถึงวันจริง กระทั่งเกิดความช่ำชอง อีกทั้งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญมากโดยเฉพาะเจ้าสาวที่ต้องการจะใช้ ผลิตภัณฑ์แต่งหน้าตัวใหม่ หรือเทคนิคการแต่งหน้าที่แตกต่างออกไปจากเดิม จะได้เปลี่ยนผลิตภัณฑ์และรักษาใบหน้าให้เป็นปกติได้ทัน ในกรณีที่เกิดอาการแพ้เครื่องสำอาง
3. เน้นเครื่องสำอางที่ติดทนนาน
ข้อผิดพลาดอีกประการหนึ่งที่เจ้าสาวหลายคนมักลืมไป ก็คือไม่เช็กให้ดีเสียก่อนว่าเครื่องสำอางที่นำมาใช้นั้นติดทนนานตลอดทั้งวันหรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้นก็ต้องคอยเติมเครื่องสำอางอยู่เรื่อย ๆ และคงสร้างความกังวลให้กับเจ้าสาวไม่น้อย ดังนั้นคงจะดีกว่าหากเจ้าสาวลองมองหาผลิตภัณฑ์หรือเทคนิคการแต่งหน้า ที่สามารถทำให้เครื่องสำอางติดทนนานได้ตลอดทั้งวัน จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องการเติมเครื่องสำอางบ่อย ๆ เช่น หากเป็นลิปสติกที่ต้องนำมาทาซ้ำทุกชั่วโมง ก็ควรหาลิปสติกแบรนด์อื่นที่มีโทนสีใกล้เคียงแต่ติดทนนานกว่า หรือใช้ลิปสเตน (Lipstain) แทน เป็นต้น
4. เช็กการแต่งหน้าจากรูปถ่ายด้วย
หากเป็นไปได้ควรให้ช่างภาพช่วยถ่ายภาพหลังแต่งหน้าเอาไว้ เพื่อนำรูปถ่ายเหล่านั้นมาเช็กความเรียบร้อยเสียก่อนว่าพึงพอใจหรือไม่อย่างไร จะได้แก้ไขทันก่อนถึงวันแต่งงานจริง เนื่องจากเทคนิคการแต่งหน้าบางอย่าง เช่น สโมคกี้อาย แม้จะทำให้ตัวจริงดูดีแต่ผลลัพธ์อาจออกมาตรงกันข้ามเมื่ออยู่ในรูปถ่าย อีกทั้งบางครั้งการแต่งหน้าก็ดูสว่างหรือจืดชืดเกินไปสำหรับการถ่ายรูปด้วย
5. หมั่นบำรุงผิวหน้าเป็นประจำ
ที่สำคัญถ้าเจ้าสาวอยากทำให้ตัวเองดูดีที่สุดในวันแต่งงาน ก็ควรจะหมั่นบำรุงผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่ดีและเหมาะสมกับตัวเองเป็นประจำเช่นเดียวกัน แต่สำหรับเจ้าสาวที่ไม่สันทัดในเรื่องนี้ อาจจะขอคำปรึกษาจากคนใกล้ชิดหรือลองหาคอร์สทรีทเม้นท์หน้าที่น่าสนใจ พร้อมกับให้ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการดูแลผิวหน้าช่วยแนะนำผลิตภัณฑ์ให้ก็ได้
6. เตรียมพร้อมรับปัญหาผิวหน้า
เพราะไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดปัญหากับผิวหน้าขึ้นเมื่อไร ดังนั้นจึงควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการแก้ปัญหาผิวหน้าเตรียมพร้อมไว้ก่อน เพราะอย่างน้อยหากเจ้าสาวสามารถแก้ไขปัญหาผิวในเบื้องต้นได้อย่างถูกต้อง ก็จะช่วยป้องกันการลุกลาม และทำให้ผิวคืนสู่สภาพปกติได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น จุดด่างดำที่เกิดจากแสงแดดก็สามารถรักษาได้ โดยเริ่มจากทำความสะอาดบริเวณดังกล่าวด้วยน้ำอุ่น แล้วประคบด้วยน้ำแข็ง เสร็จแล้วทำซ้ำตามขั้นตอนดังกล่าวทุกชั่วโมงกระทั่งถึงเวลาแต่งหน้า เพียงเท่านี้จุดด่างดำก็ไม่กลับมารบกวนใจแล้ว
7. การแต่งหน้าควรสะท้อนความเป็นตัวเองออกมา
ที่สำคัญที่สุดของการแต่งหน้าเจ้าสาว ก็คือควรเตือนตัวเองเอาไว้เสมอว่าหลังจากแต่งหน้าเสร็จแล้วให้มองเห็นภาพสะท้อนของตัวเอง ไม่ใช่คนแปลกหน้า หรือพูดง่าย ๆ ว่าไม่ว่าจะแต่งหน้าและทำผมอย่างไรในวันแต่งงาน ทั้ง 2 อย่างนี้ควรจะสะท้อนตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง พร้อมทั้งดึงเสน่ห์ของคุณออกมาให้ได้มากที่สุด ไม่ใช่กลบความเป็นธรรมชาติของคุณจนทำให้กลายคนอื่นไป
ก็หวังว่า 7 ทิปส์ เด็ดการแต่งหน้าเจ้าสาวที่เราหยิบมาแนะนำกันนั้น จะช่วยให้เจ้าสาวทุกคนสวยงามได้อย่างที่ใจต้องการกันนะคะ