ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ปัจจุบันการโยนดอกไม้ถือเป็นธรรมเนียมสำคัญอีกอย่างที่คู่กับงานแต่งงานไปแล้ว ซึ่งโดยส่วนใหญ่เชื่อกันว่า ถ้าใครรับช่อดอกไม้ได้จะได้แต่งงานเป็นคนต่อไป โดยเฉพาะความเชื่อของบรรดาสาว ๆ เอเชียบ้านเราอย่างประเทศเกาหลี
หญิงสาวชาวเกาหลีเชื่อว่า หากสามารถรับช่อดอกไม้ได้ในพิธีแต่งงาน และเมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไปแล้ว 6 เดือน ยังไม่ได้แต่งงาน ก็จะไม่ได้แต่งงานไปอีก 3 ปี ซึ่งจริง ๆ แล้วอาจจะเป็นกลอุบายเพื่อให้คู่รักแต่งงานเร็วขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีอัตราการเกิดน้อยลง และครอบครัวคนเกาหลีไม่นิยมมีลูกหลายคนเหมือนสมัยก่อน เพื่อจะได้มีอัตราคนแต่ละช่วงวัยที่เท่ากันค่ะ
ส่วนทำไมถึงเชื่อเช่นนั้น เพราะชาวเกาหลีเชื่อว่าหลังจาก 6 เดือนไปแล้ว ช่วงเวลาของคนที่จะแต่งงานกันจะไม่เป็นสิริมงคล ผู้ใหญ่ไม่อยากให้รอนานจนเกินไป อีกทั้งยังต้องรอถึง 3 ปี กว่าที่จะมีฤกษ์แต่งงานที่ดีใหม่ รวมถึงชาวเกาหลีเชื่อว่าการแต่งงานมีครอบครัวถือเป็นการประสบผลสำเร็จสูงที่สุดในชีวิต ยังมีการยกระดับด้านฐานะทางสังคมเพิ่มขึ้น แต่ปัจจุบันมีการเปิดกว้างทางวัฒนธรรมมากขึ้น ความเชื่อเรื่องนี้ก็ค่อย ๆ หายไปค่ะ
เมื่อกาลเวลาผ่านไปชุดแต่งงานมีราคาสูงขึ้น เริ่มมีประเพณีเก็บชุดแต่งงานไว้เพื่อเป็นของที่ระลึก หรือเพื่อให้ลูกสาวได้ใช้ในวันแต่งงานข้างหน้า ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันแขกฉีกชุด เจ้าสาวทั้งหลายจึงเริ่มที่จะโยนสิ่งอื่น ๆ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ หนึ่งในนั้น ก็คือ สายรัดถุงน่อง และต่อมาพัฒนาเป็น "ช่อดอกไม้" ซึ่งก็ได้รับความนิยมอย่างสูง
ส่วนชนิดของดอกไม้ที่นำมาใช้ในงานแต่งงานก็สำคัญไม่แพ้กัน สาว ๆ รู้กันบ้างไหมว่าช่อดอกไม้แต่ละชนิดก็จะมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในสมัยก่อนช่อดอกไม้ก็ไม่ได้มีแต่ดอกไม้อย่างที่เราเห็นทุกวันนี้ด้วย เพระช่อดอกไม้ในอดีตจะใส่กระเทียมและพวกสมุนไพรต่าง ๆ ลงไปด้วย เพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไป และค่อย ๆ พัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ จนกลายเป็นช่อดอกไม้อย่างในปัจจุบัน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Vol.5 27th YEARS