การแต่งงานและอยู่ด้วยกันเป็นสามี-ภรรยา ย่อมต้องอาศัยทั้งความรักและความเข้าใจ แต่เมื่อมีใครสักคนนอกใจ คงจะกลายเป็นปัญหาครอบครัวตามมาแน่นอน อย่างที่บอกกันว่ารักควรจะมีสองคนเท่านั้น การที่ สามีมีชู้ แอบไปมีเมียน้อย แถมฝ่ายนั้นก็เดินเชิดหน้าชูคอแสดงออกให้คนทั่วไปรู้ว่าฉันนี่แหละคือภรรยาอีกคนของผู้ชาย แบบนี้ภรรยาหลวงก็เจ็บจี๊ดล่ะสิ ดังนั้นคนที่ถูกนอกใจ สามีมีชู้ ฟ้องได้ไหม หรือถ้ายังไม่อยากจดทะเบียนหย่า สามีมีชู้ ควรทำอย่างไร จะฟ้องคนที่เป็นชู้ได้หรือไม่ แล้วชู้จะฟ้องเรากลับได้ไหม ? กระปุกดอทคอมมีคำตอบ พร้อมข้อแนะนำมาฝากค่ะ
สามีมีชู้ ฟ้องได้ไหม
กฎหมายของไทยได้ให้ความคุ้มครองสถาบันครอบครัว ซึ่งประเด็นเรื่องการคบชู้ ไม่ว่าในฝ่ายหญิงหรือชาย สามารถฟ้องร้องตามหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516 เหตุฟ้องหย่ามีดังต่อไปนี้
(1) สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
นอกจากการฟ้องหย่าแล้ว ยังสามารถเรียกค่าทดแทน หรือที่เรียกกันว่า ค่าเสียหาย ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 “เมื่อศาลพิพากษาให้หย่ากันเพราะเหตุตามมาตรา 1516(1) ภริยาหรือสามีมีสิทธิได้รับค่าทดแทนจากสามีหรือภริยาและจากผู้ซึ่งได้รับการอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่อง หรือผู้ซึ่งเป็นเหตุแห่งการหย่านั้น”
คำว่า “ชู้” ในที่นี้ ยังรวมไปถึงกรณีที่ชู้ดั่งกล่าวเป็นเพศเดียวกันกับสามี หรือภรรยาที่นอกใจได้ด้วย หากอีกฝ่ายหนึ่งมีหลักฐานเป็นเหตุให้ต้องฟ้องหย่า ในทางกลับกัน ทางกฎหมายได้กำหนดไว้ว่า ถ้าเป็นการแอบลักลอบไปร่วมประเวณีเป็นครั้งคราว หรือการไปซื้อบริการทางเพศ จะยังไม่ถือว่าเป็นชู้ และยังไม่มีความผิดตามกฎหมายมาตรานี้ และศาลหลายแห่งอาจจะเลือกยกฟ้องได้
สามีมีชู้ ไม่ได้จดทะเบียน ฟ้องได้ไหม
สามีมีชู้ ฟ้องชู้ได้ไหม
ในกรณีที่ยังไม่อยากฟ้องหย่า อาจเพราะด้วยความรัก ความผูกพัน เรื่องลูก แต่ต้องการจะฟ้องชู้ หรือบางคนอยากจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากสามีและชู้ด้วย ก็สามารถทำได้ค่ะ นับว่าเป็นคดีแพ่ง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 และการฟ้องร้องค่าทดแทนจากชู้ ก็ไม่จำเป็นต้องฟ้องหย่ากับสามีก่อน หรือจะฟ้องหย่ากับสามีโดยอ้างเหตุตามมาตรา 1516(1) และเรียกค่าทดแทนจากทั้งสามีหรือภรรยาและชายชู้หรือหญิงชู้ได้ทั้งสองคน ตามมาตรา 1523 ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การจะฟ้องชู้ได้ จะต้องมีทะเบียนสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งหัวใจสำคัญของคดีชู้สาว คือ “หลักฐาน” เพื่อใช้ในการดำเนินคดีกับฝั่งชู้ ซึ่งคุณภรรยาทั้งหลายต้องพยายามรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด ระหว่างนี้ ใครที่ต้องการจะฟ้องชู้อยู่แล้ว ทนายหลายแห่งได้ให้คำแนะนำไว้ว่า ไม่ควรประจานอีกฝ่ายที่เป็นชู้ เพราะนอกจากจะทำให้ตามเก็บหลักฐานได้ยากขึ้นแล้ว อีกฝ่ายอาจฟ้องคุณกลับ ในฐานะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงได้ แม้ว่าการเป็นชู้ดังกล่าวจะเป็นเรื่องจริงก็ตาม
ก่อนฟ้อง ต้องรู้อะไรบ้าง
การฟ้องหย่า ฟ้องร้องเรียกค่าทดแทนจากชู้นั้น สามารถทำได้ แต่นั่นหมายความว่า ผู้ฟ้องจะต้องมีหลักฐานเพียงพอ ไม่เช่นนั้นนอกจากจะถูกศาลยกฟ้องแล้ว คุณอาจจะถูกอีกฝ่ายฟ้องสวนกลับ เพื่อเรียกค่าเสียหายคืนจากการเบิกความเท็จ หรือโดนฟ้องในฐานะหมิ่นประมาทได้ ซึ่งไม่คุ้มค่าแน่ ๆ ก่อนอื่นจึงต้องสำรวจว่า ผู้ที่เป็นชู้นั้นรู้ตัวหรือทราบดีหรือไม่ ว่าคนที่กำลังคบหาอยู่มีภรรยาแล้ว เพราะบางครั้ง คนเหล่านี้อาจจะไม่ทราบมาก่อนว่าตัวเองกำลังเป็นชู้ ซึ่งเราอาจจะตกลงกันได้
ส่วนชู้ประเภทที่สมัครใจเป็น ยอมรับได้ หรือบางรายอาจจะแสดงออกชัดเจนว่าต้องการเป็นตัวจริง ซึ่งประเภทนี้จะรับมือได้ยาก หลักฐานจำเป็นต้องแน่นหนา เพราะอีกฝ่ายอาจมีการเตรียมตัวเป็นอย่างดี ในการปฎิเสธทุกข้อกล่าวหาที่ฟ้องไป ซึ่งหลักฐานต่าง ๆ มีดังนี้
- ชื่อ และนามสกุล ของชู้ เพราะถ้าไม่รู้ชื่อ–นามสกุลอีกฝ่าย ก็ฟ้องไม่ได้ ต่อให้มีหลักฐานที่ชัดเจนมากก็ตาม
- หลักฐานว่ามีความสัมพันธ์ชู้สาวกัน โดยอาจเป็นรูปถ่าย หรือคลิป ภาพถ่ายทางสื่อสังคมออนไลน์, คลิปเสียงการสนทนา หรือภาพกล้องวงจรปิดก็ได้
- คลิปวีดีโอการมีเพศสัมพันธ์ คลิปชู้สาว หรือหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องที่แสดงให้เห็นว่า สามีกับชู้อยู่ในบ้าน หรือคอนโดฯ หรืออพาร์ตเมนต์เดียวกัน มีการพักอาศัยและใช้ชีวิตร่วมกันอย่างเปิดเผย
- ข้อความการสนทนทางโทรศัพท์มือถือ แชทไลน์ เฟซบุ๊ก แอปพลิเคชันหาคู่ รวมถึงการโพสต์ในสื่อโซเชียลมีเดีย ก็ถือว่าเป็นหลักฐานประกอบอย่างหนึ่ง เพราะมีข้อความสื่อชัดเจน สามารถนำมาประกอบการดำเนินคดีได้
- ข้อมูลการใช้โทรศัพท์ ซึ่งสามารถแสดงให้เห็นได้ว่าทั้งสองคนนี้มีการโทรหาและติดต่อกันอยู่เป็นประจำ
- หลักฐานการเข้าพักตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในประเทศไทยหรือต่างประเทศ จากการถ่ายลงใน เฟซบุ๊ก ไลน์ส่วนตัว หรือสื่อโซเชียลมีเดียอื่น ๆ
- ข้าวของเครื่องใช้เสื้อผ้าของชู้ ที่อยู่ในรถ ในบ้าน เป็นต้น
- ข้อมูลของการถือครอง หรือซื้อทรัพย์สินให้แก่กัน ไม่ว่าจะเป็น บ้าน, คอนโดฯ, ทาวน์เฮาส์ รวมไปถึง รถยนต์ส่วนบุคคล หรือหุ้น
- รายการเคลื่อนไหวทางบัญชี กรณีที่มีการโอนเงินให้ใช้ หรืออุปการะเลี้ยงดูกัน
- หลักฐานหรือพยานที่แสดงให้เห็นว่า ฝ่ายผู้เป็นชู้ทราบดีอยู่แล้วว่าว่าคนที่ตนเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวนั้นมีครอบครัวอยู่
- สูติบัตรหรือทะเบียนบ้านของเด็ก ในกรณีที่คู่สมรสของคุณมีบุตรร่วมกับชู้แล้ว
จะเห็นได้ว่า บางครั้งแค่หลักฐานว่าคู่สมรสและชู้ร่วมหลับนอนกันอาจจะไม่เพียงพอ และหลักฐานเหล่านี้ จะต้องมีระยะเวลาที่ไม่เกินอายุความคือ 1 ปีนับจากที่รู้ จึงจะฟ้องได้ ถ้าปล่อยปละละเลยเกิน 1 ปี จะถือว่าไม่ติดใจในการที่จะดำเนินคดี หากเป็นการจ้างนักสืบหาหลักฐาน ทุกอย่างจะมีเวลา วัน/เดือน/ปี ที่บันทึกภาพหรือคลิป ดังนั้นจึงควรดูให้ดีว่ายังอยู่ในขอบเขตของอายุความหรือไม่
วิธีการฟ้องหย่า เมื่อสามีมีชู้
วิธีการฟ้องหย่า สามีหรือภรรยาที่จดทะเบียนสมรส สามารถฟ้องที่ศาลเยาวชนและครอบครัวฯ ในจังหวัดหรือเขตที่ตั้งอยู่อยู่กินกัน หรือศาลที่อยู่ในเขตอำนาจของภูมิลำเนาจำเลย ที่จำเลยมีทะเบียนบ้านอยู่ โดยมีขั้นตอน รายละเอียด และการเตรียมเอกสาร ตามนี้
- หย่าอย่างเดียว 200 บาท ค่าส่งหมายตามอัตราที่ศาลประกาศ
- หย่ามีสินสมรส เสียค่าธรรมเนียม 2 เปอร์เซ็นต์ และค่าส่งหมายตามอัตราที่ศาลประกาศ
- หย่าเรียกค่าเลี้ยงชีพ เสีย 200 บาท และค่าส่งหมายตามอัตราที่ศาลประกาศ
- หย่าเรียกค่าเลี้ยงดูบุตร เสีย 200 บาท และค่าส่งหมายตามอัตราที่ศาลประกาศ
ปัจจุบันคดีชู้สาวลักษณะนี้ใช้เวลาไม่นาน โดยทั่วไปจะใช้เวลาไม่เกิน 3-5 เดือน ตั้งแต่ขั้นตอนการฟ้อง ให้จำเลยยื่นคำให้การ เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย หากตกลงไม่ได้ก็เข้าสู่กระบวนการพิจารณาต่อไป ซึ่งแม้การฟ้องร้องเรื่องสามีมีชู้ในทางกฎหมายจะจบลงอย่างไร เอาผิดได้หรือไม่ แต่การนอกใจก็ไม่สมควรกระทำอยู่ดี เพราะเป็นการสร้างบาดแผลในใจให้กับคู่รักและครอบครัวไปอีกนานแสนนาน
ขอบคุณข้อมูลจาก : lawyers.in.th, closelawyer.com, kobkiat.com, detectives.in.th